กลาโหม อ้างข้อมูลลับมาก-กระทบความมั่นคง ไม่ให้ข้อมูลกมธ.ทหาร หลังขอทราบจำนวนนายพล
https://www.matichon.co.th/politics/news_5043318
กลาโหม อ้างข้อมูลลับมาก-กระทบความมั่นคง ไม่ให้ข้อมูลกมธ.ทหาร หลังขอทราบจำนวนนายพล
จำนวนนายพล – เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.
พุฒิประสิทธิ์ จิระมะกร เจ้ากรมเสมียนตรา ทำการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม มีหนังสือด่วนที่สุด ที่กห 0201/254 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอบกลับ ประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร หลังขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนนายทหารชั้นสัญญาบัตร ตั้งแต่ ระดับ พลตรี พลโท และพลเอก แยกตามเหล่าทัพ
โดยกระทรวงกลาโหม ระบุตอนหนึ่ง ระบุว่า “
จำนวนอัตรกำลังพลของกระทรวงกลาโหม เป็นข้อมูลกำหนดชั้น “ลับมาก” โดยเฉพาะอัตรากำลังพลชั้นยศสูงซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงประเทศ รวมทั้งต้องปฏฺบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับราชการ พ.ศ.2544 ซึ่งกำหนดให้หน่อยต้องรักษาข้อมูลความลับให้ปลอดภัย โดยข้อมูลข่าวสารระดับลับมาก หากเปิดเผยทั้งหมดหรือบางส่วน จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรง”
ด้าน นาย
จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ได้โพสต์ผ่านแอพพลิเคชั่น X แสดงความเห็นว่า
นี่คือหนังสือตอบกลับล่าสุด หลังกมธ.ทหารขอทราบจำนวนนายพลไทยในปัจจุบันแบบแยกยศ และเหล่าทัพ ก่อนหน้านี้ จำนวนกำลังพลไม่เคยเป็นเรื่อง “ลับ” วันนี้กองทัพใช้วิธีกำหนดให้เป็นความลับมากเพื่อหนีการตรวจสอบ คำถามคือ กองทัพกำหนดให้เรื่องนัเป็น “ความลับ”จากใคร? คำตอบคือ จาก” ประชาชน” คนจ่ายภาษี การรู้จำนวนนายพลไม่มีผลกับความมั่นคงของประเทศอยู่แล้ว แต่อาจจะมีผลกับความมั่นคงของนายทหารบางคนเท่านั้น หากประชาชนยังไม่รู้ว่าปัจจุบันมีนายพลอยู่เท่าไร การบอกว่ามีแผนจะลดนายพล ก็เป็นแค่เพียงการเล่นละครตบตาประชาชน ไม่ได้มีความหมายอะไรทั้งสิ้น
ตามที่กองทัพชี้แจงว่าการเปิดเผยจำนวนนายพลจะส่งผลต่อความมั่นคงร้ายแรงต่อประเทศชาติ หากเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยน่าจะเสียเอกราชไปนานแล้ว เพราะชื่อนายพลทุกคนที่ได้เลื่อนยศถูกประกาศลงราชกิจจาทุกปี
กองทัพสหรัฐอเมริกาแสนยานุภาพมากสุดในโลก มีกำลังพล 1.3 ล้านคน เค้ามีนายพลรวมกันแค่ 653 คน ส่วนกองทัพไทย กำลังพล 3 แสนคน ปีที่แล้วปีเดียว แต่งตั้งนายพลใหม่ (เฉพาะพันเอกขึ้นเป็นพลตรี) 600 กว่าคน ยังไม่รวมนายพลเดิมที่ไม่ได้เลื่อนยศ ไม่รวมพลโท พลเอกเดิม
https://x.com/Jirat_MP/status/1888831889202672019
“เสรีพิศุทธ์” ก่อนหัก “ทักษิณ” เคยลั่นเกิดมารับใช้ “เพื่อไทย”
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_839480/
ตึงสุดไม่มีแผ่วจริงๆ “ทักษิณ ชินวัตร” ศูนย์รวมจักรวาลอำนาจ ณ ขณะนี้ ที่ออกมาโต้บิ๊กตู่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” กรณียื่นเอกสารลับชั้น 14 ให้กับผู้นำฝ่ายค้านนั้น ว่า ตนเป็นตำรวจเก่า รู้จักแต่ พลตำรวจเอกที่เป็นผู้ชาย พลตำรวจเอกผู้หญิง ผมไม่รู้จัก พลตำรวจเอกหญิงไม่มี เลยไม่รู้จัก ในประเทศไทยมีแต่ พลตำรวจเอกชาย ใครอยากเป็นคนแรกก็เป็น” ส่วนจะหมายถึงคนที่ยื่นเอกสารให้กับผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่รู้นะ ผมเป็นลูกผู้ชาย”
ขณะที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ออกมาโต้กลับทันควันว่า”
ตนเองเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ว่าพยานหลักฐานใดควรจะเปิดเผย หรือไม่เปิด ในเรื่องคดีความต่างๆ ควรจะเปิดกับผู้มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมการสอบสวน ของ ป.ป.ช. หรือแพทยสภาต่างๆ ไม่มาเปิดอย่างนี้หรอก ผมร้องเพื่อทำกิมมิค ก็ทำไปแค่นั้นเอง ทักษิณไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และก็ไม่ได้เป็นตำรวจหญิง เป็นแค่พันตำรวจโท เรื่องแบบนี้จะมาสู้อะไรกับตนเอง แต่ถ้าเรื่องธุรกิจ เรื่องทุจริต สู้เขาไม่ได้หรอก”
จากนั้น พลตำรวจเอก
เสรีพิศุทธ์ ย้ำหัวหมุดอีกว่า”
ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายทักษิณ ไม่ได้มีอะไรต่อกันตั้งนานแล้ว เขาเป็นคนตระบัดสัตย์ ไม่ได้มีความจริงใจ หักหลังใครได้ก็หัก ลูกน้องติดคุกหมด แม้แต่ตัวเขายังติดคุกเลย ขอสื่อมวลชน อย่าไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่ประพฤติไม่ชอบ ดีแต่ปาก อ้างทำเพื่อประชาชน ไม่เห็นประเทศชาติเจริญ มีแต่ประชาชนจนลง แล้วปากบอกทำเพื่อประชาชน ปัดโถ่เอ้ย อยากตบปากกันให้หมด ของปลอมทั้งนั้น อย่ามาลอยหน้าลอยตา”
สำหรับคู่นี้ แต่ก่อนรักใคร่กันดี อย่าง15 ส.ค. 2567 ห้วงที่พรรคร่วมรัฐบาลมีมติเสนอชื่อ
แพทองธาร เป็นนายกฯ คนที่ 31 ทาง พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ระบุ ว่า พรรคเพื่อไทยเสนอใครเราต้องสนับสนุน เพราะเราร่วมรัฐบาล ผมเกิดมาต้องรับใช้พรรคเพื่อไทย รัฐบาลที่แล้วให้ผม 300 ล้านบาท ให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ผมยังไม่เอาเลย เลือกตั้งใหม่ก็สนับสนุนเพื่อไทย ผมต้องสนับสนุน เพราะรู้จักกับ
ทักษิณ มาตั้ง 50 ปี ตั้งแต่
แพทองธาร ยังไม่เกิด และไม่ว่าจะเป็นใครก็สนับสนุนทั้งนั้น
หรือจะเป็นช่วงก่อนทักษิณกลับไทย พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงทักษิณว่า “
ตอนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ท่านสอบได้ที่หนึ่งของรุ่นนะ หรือลาออกจากราชการมาประกอบธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ ตอนนี้อายุขนาดนี้ ประสบการณ์ขนาดนี้ไป ต่างประเทศยิ่งเห็นมากมาย ไปทำธุรกิจเยอะแยะ จะได้นำความรู้เข้ามาช่วยในการบริหารประเทศได้ กลับมาดี แต่อาจมีกติกาแค่นั้นเอง”
แต่ต่อมาบาดหมางรุนแรง มีการแฉเบื้องหลังเบื้องลึกโดยเมื่อ 29 ส.ค. 2567 พลตำรวจเอก
เสรีพิศุทธ์ แถลงถอนตัวร่วมรัฐบาล ลั่นตัดสัมพันธ์ 51 ปี แฉยับ “
ทักษิณ-เพื่อไทย” ไม่เห็นหัว สมัยเป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรขออะไรก็ช่วยตลอด พูดตลอดเป็นหนี้ตนเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่พูดแล้วก็เฉยแม้กระทั่งตอนตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พูดว่า ต้องตอบแทนแต่ก็เฉย ลืมตนทุกที ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร
และเมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” เล่าถึงการไปเยี่ยมทักษิณที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุครั้งแรกมีผู้ประสานงานพาเข้า-ออกผ่านลิฟต์และบันไดหนีไฟ จนถึงชั้น 14 โดยระบุว่าบนชั้นดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจสอบ และ
ทักษิณแต่งกายสบายๆ สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ขณะพูดคุยราว 1 ชั่วโมงไม่เห็นอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใดส่วนครั้งที่สอง ผู้ประสานงานแจ้งให้ พล.ต.อ
.เสรีพิศุทธ์ไปเยี่ยมคนเดียว โดยครั้งนี้
ทักษิณชวนไปห้องรับแขกที่สามารถมองเห็นสนามม้า มีการเสิร์ฟขนมและกาแฟ แต่ไม่ได้เข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย
สำหรับ
ทักษิณนั้น เขาจบที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 26 ส่วนพล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 8 และ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 24 นั้นเท่ากับเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องห่างกัน 2 ปี และเคยรักใคร่กันดี แต่ต้องมาหักหาญกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในวันนี้ นั้นหรืออาจเป็นเพราะอำนาจมันหอมหวานแต่เคลือบยาพิษ ทำลายความสัมพันธ์ให้สะบั่นลงอย่างไร้เยื่อใย หรืออย่างไร!
ทั่วไทยอากาศยังเย็น อีสานอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ฝุ่นส่อพุ่ง กรมอุตุ เตือน ปชช.รักษาสุขภาพ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5043478
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง(ฝั่งตะวันออก) มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
JJNY : กลาโหมไม่ให้ข้อมูลกมธ.ทหาร│“เสรีพิศุทธ์”ก่อนหัก“ทักษิณ”│ทั่วไทยอากาศยังเย็น│ทองพุ่งต่อเนื่องหลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี
https://www.matichon.co.th/politics/news_5043318
กลาโหม อ้างข้อมูลลับมาก-กระทบความมั่นคง ไม่ให้ข้อมูลกมธ.ทหาร หลังขอทราบจำนวนนายพล
จำนวนนายพล – เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.พุฒิประสิทธิ์ จิระมะกร เจ้ากรมเสมียนตรา ทำการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม มีหนังสือด่วนที่สุด ที่กห 0201/254 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอบกลับ ประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร หลังขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนนายทหารชั้นสัญญาบัตร ตั้งแต่ ระดับ พลตรี พลโท และพลเอก แยกตามเหล่าทัพ
โดยกระทรวงกลาโหม ระบุตอนหนึ่ง ระบุว่า “จำนวนอัตรกำลังพลของกระทรวงกลาโหม เป็นข้อมูลกำหนดชั้น “ลับมาก” โดยเฉพาะอัตรากำลังพลชั้นยศสูงซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงประเทศ รวมทั้งต้องปฏฺบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับราชการ พ.ศ.2544 ซึ่งกำหนดให้หน่อยต้องรักษาข้อมูลความลับให้ปลอดภัย โดยข้อมูลข่าวสารระดับลับมาก หากเปิดเผยทั้งหมดหรือบางส่วน จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรง”
ด้าน นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ได้โพสต์ผ่านแอพพลิเคชั่น X แสดงความเห็นว่า
นี่คือหนังสือตอบกลับล่าสุด หลังกมธ.ทหารขอทราบจำนวนนายพลไทยในปัจจุบันแบบแยกยศ และเหล่าทัพ ก่อนหน้านี้ จำนวนกำลังพลไม่เคยเป็นเรื่อง “ลับ” วันนี้กองทัพใช้วิธีกำหนดให้เป็นความลับมากเพื่อหนีการตรวจสอบ คำถามคือ กองทัพกำหนดให้เรื่องนัเป็น “ความลับ”จากใคร? คำตอบคือ จาก” ประชาชน” คนจ่ายภาษี การรู้จำนวนนายพลไม่มีผลกับความมั่นคงของประเทศอยู่แล้ว แต่อาจจะมีผลกับความมั่นคงของนายทหารบางคนเท่านั้น หากประชาชนยังไม่รู้ว่าปัจจุบันมีนายพลอยู่เท่าไร การบอกว่ามีแผนจะลดนายพล ก็เป็นแค่เพียงการเล่นละครตบตาประชาชน ไม่ได้มีความหมายอะไรทั้งสิ้น
ตามที่กองทัพชี้แจงว่าการเปิดเผยจำนวนนายพลจะส่งผลต่อความมั่นคงร้ายแรงต่อประเทศชาติ หากเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยน่าจะเสียเอกราชไปนานแล้ว เพราะชื่อนายพลทุกคนที่ได้เลื่อนยศถูกประกาศลงราชกิจจาทุกปี
กองทัพสหรัฐอเมริกาแสนยานุภาพมากสุดในโลก มีกำลังพล 1.3 ล้านคน เค้ามีนายพลรวมกันแค่ 653 คน ส่วนกองทัพไทย กำลังพล 3 แสนคน ปีที่แล้วปีเดียว แต่งตั้งนายพลใหม่ (เฉพาะพันเอกขึ้นเป็นพลตรี) 600 กว่าคน ยังไม่รวมนายพลเดิมที่ไม่ได้เลื่อนยศ ไม่รวมพลโท พลเอกเดิม
https://x.com/Jirat_MP/status/1888831889202672019
“เสรีพิศุทธ์” ก่อนหัก “ทักษิณ” เคยลั่นเกิดมารับใช้ “เพื่อไทย”
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_839480/
ตึงสุดไม่มีแผ่วจริงๆ “ทักษิณ ชินวัตร” ศูนย์รวมจักรวาลอำนาจ ณ ขณะนี้ ที่ออกมาโต้บิ๊กตู่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” กรณียื่นเอกสารลับชั้น 14 ให้กับผู้นำฝ่ายค้านนั้น ว่า ตนเป็นตำรวจเก่า รู้จักแต่ พลตำรวจเอกที่เป็นผู้ชาย พลตำรวจเอกผู้หญิง ผมไม่รู้จัก พลตำรวจเอกหญิงไม่มี เลยไม่รู้จัก ในประเทศไทยมีแต่ พลตำรวจเอกชาย ใครอยากเป็นคนแรกก็เป็น” ส่วนจะหมายถึงคนที่ยื่นเอกสารให้กับผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่รู้นะ ผมเป็นลูกผู้ชาย”
ขณะที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ออกมาโต้กลับทันควันว่า” ตนเองเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ว่าพยานหลักฐานใดควรจะเปิดเผย หรือไม่เปิด ในเรื่องคดีความต่างๆ ควรจะเปิดกับผู้มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมการสอบสวน ของ ป.ป.ช. หรือแพทยสภาต่างๆ ไม่มาเปิดอย่างนี้หรอก ผมร้องเพื่อทำกิมมิค ก็ทำไปแค่นั้นเอง ทักษิณไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และก็ไม่ได้เป็นตำรวจหญิง เป็นแค่พันตำรวจโท เรื่องแบบนี้จะมาสู้อะไรกับตนเอง แต่ถ้าเรื่องธุรกิจ เรื่องทุจริต สู้เขาไม่ได้หรอก”
จากนั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ย้ำหัวหมุดอีกว่า” ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายทักษิณ ไม่ได้มีอะไรต่อกันตั้งนานแล้ว เขาเป็นคนตระบัดสัตย์ ไม่ได้มีความจริงใจ หักหลังใครได้ก็หัก ลูกน้องติดคุกหมด แม้แต่ตัวเขายังติดคุกเลย ขอสื่อมวลชน อย่าไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่ประพฤติไม่ชอบ ดีแต่ปาก อ้างทำเพื่อประชาชน ไม่เห็นประเทศชาติเจริญ มีแต่ประชาชนจนลง แล้วปากบอกทำเพื่อประชาชน ปัดโถ่เอ้ย อยากตบปากกันให้หมด ของปลอมทั้งนั้น อย่ามาลอยหน้าลอยตา”
สำหรับคู่นี้ แต่ก่อนรักใคร่กันดี อย่าง15 ส.ค. 2567 ห้วงที่พรรคร่วมรัฐบาลมีมติเสนอชื่อ แพทองธาร เป็นนายกฯ คนที่ 31 ทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุ ว่า พรรคเพื่อไทยเสนอใครเราต้องสนับสนุน เพราะเราร่วมรัฐบาล ผมเกิดมาต้องรับใช้พรรคเพื่อไทย รัฐบาลที่แล้วให้ผม 300 ล้านบาท ให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ผมยังไม่เอาเลย เลือกตั้งใหม่ก็สนับสนุนเพื่อไทย ผมต้องสนับสนุน เพราะรู้จักกับ ทักษิณ มาตั้ง 50 ปี ตั้งแต่ แพทองธาร ยังไม่เกิด และไม่ว่าจะเป็นใครก็สนับสนุนทั้งนั้น
หรือจะเป็นช่วงก่อนทักษิณกลับไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงทักษิณว่า “ตอนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ท่านสอบได้ที่หนึ่งของรุ่นนะ หรือลาออกจากราชการมาประกอบธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ ตอนนี้อายุขนาดนี้ ประสบการณ์ขนาดนี้ไป ต่างประเทศยิ่งเห็นมากมาย ไปทำธุรกิจเยอะแยะ จะได้นำความรู้เข้ามาช่วยในการบริหารประเทศได้ กลับมาดี แต่อาจมีกติกาแค่นั้นเอง”
แต่ต่อมาบาดหมางรุนแรง มีการแฉเบื้องหลังเบื้องลึกโดยเมื่อ 29 ส.ค. 2567 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ แถลงถอนตัวร่วมรัฐบาล ลั่นตัดสัมพันธ์ 51 ปี แฉยับ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ไม่เห็นหัว สมัยเป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรขออะไรก็ช่วยตลอด พูดตลอดเป็นหนี้ตนเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่พูดแล้วก็เฉยแม้กระทั่งตอนตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พูดว่า ต้องตอบแทนแต่ก็เฉย ลืมตนทุกที ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร
และเมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” เล่าถึงการไปเยี่ยมทักษิณที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุครั้งแรกมีผู้ประสานงานพาเข้า-ออกผ่านลิฟต์และบันไดหนีไฟ จนถึงชั้น 14 โดยระบุว่าบนชั้นดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจสอบ และทักษิณแต่งกายสบายๆ สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ขณะพูดคุยราว 1 ชั่วโมงไม่เห็นอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใดส่วนครั้งที่สอง ผู้ประสานงานแจ้งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปเยี่ยมคนเดียว โดยครั้งนี้ทักษิณชวนไปห้องรับแขกที่สามารถมองเห็นสนามม้า มีการเสิร์ฟขนมและกาแฟ แต่ไม่ได้เข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย
สำหรับ ทักษิณนั้น เขาจบที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 26 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 8 และ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 24 นั้นเท่ากับเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องห่างกัน 2 ปี และเคยรักใคร่กันดี แต่ต้องมาหักหาญกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในวันนี้ นั้นหรืออาจเป็นเพราะอำนาจมันหอมหวานแต่เคลือบยาพิษ ทำลายความสัมพันธ์ให้สะบั่นลงอย่างไร้เยื่อใย หรืออย่างไร!
ทั่วไทยอากาศยังเย็น อีสานอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ฝุ่นส่อพุ่ง กรมอุตุ เตือน ปชช.รักษาสุขภาพ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5043478
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง(ฝั่งตะวันออก) มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.