ในปี ค.ศ. 2000 เมือง Nome, Alaska เมืองเล็กๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ Dr. Abigail Tyler นักจิตบำบัดที่มีชื่อเสียง ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อหาความสงบ หลังจากสามีของเธอเสียชีวิตอย่างลึกลับ แต่กลับพบกับเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องหันมาสนใจปริศนาที่ไม่สามารถอธิบายได้
.
หนึ่งในเช้าวันที่หมอกหนา Dr. Tyler เริ่มรับผู้ป่วยหลายคนที่มาขอคำปรึกษาเรื่องฝันร้ายที่น่ากลัว ทุกคนรายงานว่าพวกเขาเห็นนกฮูกตัวใหญ่ที่จ้องพวกเขาในขณะที่นอนหลับ แต่นั่นไม่ใช่เพียงแค่ฝันร้ายธรรมดา ผู้ป่วยยังรู้สึกว่าพวกเขาถูกตรึง และไม่สามารถขยับตัวได้ เสียงที่น่ากลัวและความรู้สึกของการถูกเฝ้ามองเริ่มสร้างความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้
เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีการสะกดจิตย้อนกลับเพื่อนำความทรงจำที่ถูกซ่อนไว้ออกมา และเมื่อผู้ป่วยอยู่ในสภาพสะกดจิต พวกเขาเริ่มเปิดเผยเรื่องราวที่น่าขนลุก
เป็นผู้ป่วยคนแรกที่ทำการสะกดจิต เมื่อเขาอยู่ในสภาพสะกดจิต เขาเริ่มอธิบายว่ามีแสงสีขาวสว่างจ้าปรากฏขึ้นในห้องนอนของเขา และหลังจากนั้นเขาถูกตรึงอยู่บนเตียงและไม่สามารถขยับตัวได้ เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเฝ้ามองเขา และเขาถูกพาตัวไปยังสถานที่ที่มืดมนและหนาวเหน็บ และผู้ป่วยอีกคนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
.
ในเวลาต่อมา Ashley ลูกสาวของ Dr. Tyler เองก็เริ่มมีอาการฝันร้ายเช่นกัน เธอฝันเห็นนกฮูกตัวใหญ่และรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเฝ้ามองเธอ ความฝันนี้ทำให้เธอตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวและไม่กล้าหลับอีก
ไม่เพียงแต่ผู้ป่วยของเธอเท่านั้นที่ประสบกับความลึกลับนี้ Dr. Tyler เองก็เริ่มได้ยินเสียงที่ไม่สามารถอธิบายได้ในบ้านของเธอเอง เธอพบรอยขีดข่วนบนผนัง และในคืนหนึ่งเธอเห็นแสงประหลาดในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เธอจึงตัดสินใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ใน Nome เพื่อหาคำตอบว่ามีอะไรที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยของเธอหรือไม่ เธอเริ่มศึกษางานวิจัยเก่าๆ และพบว่ามีรายงานการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในเมืองนี้มายาวนาน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เธอเริ่มรู้สึกว่าผู้ป่วยของเธออาจไม่ใช่ผู้เดียวที่ประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้
.
คืนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังทำงานที่บ้าน เธอได้ยินเสียงกระแทกที่หน้าต่าง เธอเดินไปดูและเห็นนกฮูกตัวใหญ่จ้องมองเธอจากข้างนอก เธอรู้สึกถึงความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้ เธอพยายามปิดหน้าต่าง แต่เมื่อหันกลับไปมองอีกครั้ง นกฮูกหายไปแล้ว
ขณะที่เธอยังคงพยายามหาคำตอบ เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้ป่วยของเธอที่กำลังตกใจและหวาดกลัว เขารายงานว่าเห็นแสงประหลาดในท้องฟ้า และรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเฝ้ามองเขา เขาบอกว่าเขารู้สึกถึงความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้ และขอให้เธอช่วยเขาหาคำตอบ
เธอตัดสินใจเรียกประชุมกับผู้ป่วยของเธอ เพื่อให้พวกเขาได้แบ่งปันประสบการณ์ และหาคำตอบร่วมกัน การประชุมนี้ทำให้เธอได้รู้ว่าทุกคนมีประสบการณ์คล้ายกัน มีการเห็นแสงประหลาดในท้องฟ้า การถูกตรึงอยู่บนเตียง และความรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเฝ้ามองพวกเขา
ในคืนสุดท้ายของการประชุม พวกเขาตัดสินใจกลับไปที่บ้านของ Dr. Tyler เพื่อค้นหาคำตอบ ขณะที่พวกเขากำลังสืบค้นในเอกสารเก่าๆ พวกเขาได้ยินเสียงแปลกๆ ในบ้านและรู้สึกถึงความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้
.
ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นในห้อง พวกเขาถูกตรึงอยู่บนที่นั่งและไม่สามารถขยับตัวได้ เงามืดเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้พวกเขา และสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์เริ่มปรากฏตัว
เธอรู้สึกถึงความกลัวที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจของเธอ แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เธอตัดสินใจที่จะบันทึกทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนำเสนอให้กับนักวิจัย และเจ้าหน้าที่ เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เธอและผู้ป่วยของเธอประสบ
.
วันต่อมาเธอเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อเข้าร่วมงานประชุมวิชาการเกี่ยวกับการวิจัยมนุษย์ต่างดาว และการพบเห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ขณะที่เธอกำลังนำเสนอเรื่องราวของเธอ ก็ได้พบกับ Dr. Michael Cummings นักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว เขาเปิดเผยว่าได้ศึกษาปรากฏการณ์การลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาวมานานหลายปีแล้ว และพบว่ามีหลายกรณีที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่ Dr. Tyler ได้รายงาน
.
ทั้งสองคนจึงตัดสินใจร่วมมือกันในการสืบสวนและหาคำตอบ พวกเขาเริ่มการวิจัยที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง Nome และการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในบริเวณนี้ พวกเขาค้นพบเอกสารเก่าๆ ที่บันทึกการพบเห็นแสงประหลาดและการหายตัวไปของผู้คนในอดีต
😁
...
ขอหยุดสปอยสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ครับผม
: The Fourth Kind (2009)
.
หนังเรื่องนี้มีการอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงในเมือง Nome, Alaska โดยมีการนำเสนอว่าเป็นการดัดแปลงจากเรื่องราวจริงของ Dr. Abigail Tyler นักจิตบำบัดที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับการลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว
ในหนังนั้นจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีภาพเหมือนเป็นเหตุการณ์จริง แต่ที่จริงเป็นฟุตเทจของการแสดงของนักแสดงชาวอังกฤษชื่อ Charlotte Milchard
แม้ว่าเมือง Nome จะมีรายงานการหายตัวไปของผู้คนหลายคนในอดีต แต่การสืบสวนของ FBI ในปี ค.ศ. 2005 พบว่าการหายตัวไปเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์และสภาพอากาศที่หนาวเย็น
...
วันวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาว 11 กุมภาพันธ์ 2568 Extraterrestrial Culture Day
ตรงกับวันอังคารที่สองของเดือมกุมภาพันธ์ในทุกปี และปีนี้ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์
วันนี้นั้นถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อน "ให้เกียรติแก่มนุษย์ต่างดาวทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพลเมืองแห่งจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นที่รู้จักแล้ว หรือยังไม่รู้จัก"
.
วันวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาวได้รับการประกาศโดยสภานิติบัญญัติแห่งรัฐนิวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2003 ผ่าน House Memorial 44 แม้ว่าวันดังกล่าวจะถือกำเนิดขึ้นในนิวเม็กซิโก แต่ในปัจจุบันมีการจัดให้วันนี้เป็นวันสำคัญไปทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่สนใจเรื่องราวลี้ลับของจักรวาลและชีวิตต่างดาว
.
ต้องขอบคุณตัวแทนรัฐ ดาเนียล โฟลีย์ (Daniel Foley) จากเมืองรอสเวลล์ ที่เป็นผู้ริเริ่มวันพิเศษนี้ผ่าน House Bill 766 เดิมทีวันดังกล่าวถูกกำหนดให้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ แต่ภายหลังมีการแก้ไขให้เป็นวันอังคารที่สองแทน ร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า วันวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาวถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่มนุษย์ต่างดาวที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้นิวเม็กซิโกเป็นที่รู้จักทั่วโลกผ่านการพบเห็น วัตถุลึกลับ และเหตุการณ์ที่ยังไม่สามารถอธิบายได้
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องมนุษย์ต่างดาวยังมีส่วนเชื่อมโยงกับพัฒนาการทางเทคโนโลยี การทดลองทางวิทยาศาสตร์ และการสำรวจจักรวาล วงการฮอลลีวูดเองก็นำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมาสร้างเป็นภาพยนตร์มากมาย ซึ่งมักจะกล่าวถึงอารยธรรมจากนอกโลกและอิทธิพลของพวกเขาในจักรวาล
.
เรื่องมนุษย์ต่างดาวโด่งดังขึ้นมาได้ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1947 ที่เมืองรอสเวลล์ทีมีการพบเศษซากปริศนาบนทุ่ง ของชาวเกษตรกร และได้แจ้งต่อนายอำเภอท้องถิ่น สิ่งที่พบนั้น มีแท่งโลหะที่ถูกพันด้วยเทป แผ่นวัสดุที่ดูเงาวาวเหมือนกระดาษหนัก และเศษฟอยล์กับพลาสติกสะท้อนแสง
จุดที่ทำให้ผู้คนสนใจคือ วันต่อมา ฐานทัพอากาศรอสเวลล์ส่งหน่วยทหารพร้อมยานเกราะเข้ามาเก็บกวาดซากเหล่านั้นไป
และวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 หนังสือพิมพ์ Roswell Daily Record ตีพิมพ์บทความพาดหัวว่า "กองทัพอากาศสหรัฐฯ จับจานบินได้ในรอสเวลล์"
ซึ่งกองทัพอากาศออกแถลงการณ์ว่าเศษซากที่พบนั้นเป็นเพียงบอลลูนตรวจอากาศ ไม่ใช่จานบินอย่างที่ผู้คนเข้าใจ แต่พยานที่เห็นเหตุการณ์กลับเชื่อว่าเศษซากที่พบนั้นไม่เหมือนบอลลูนตรวจอากาศ แต่ดูคล้ายยานบินของมนุษย์ต่างดาวมากกว่า
...
มีเมนูอาหารสไตล์ต่างโลกอยู่หลากหลายเมนูอย่าง Alien Burger, UFO Pizza, Meteor Cupcake หรือ Earth Cookies ซึ่งไม่สามารถนำภาพมาลงได้ แต่เพื่อนๆ สามารถเซิร์ชหาข้อมูลและหน้าตาเมนูอาหารกันได้
ในเมืองกระแสเรื่องเหล่านี้มาจากสหรัฐอเมริกา งั้นมาดู American Food อาหารจานดั้งเดิมของสหรัฐฯกัน
.
1. Texas Barbecue
บาร์บีคิวเท็กซัสที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ที่ชาวเท็กซัสภูมิใจ ด้วยการปรงุเนื้อที่นุ่มละมุนให้รสชาติอร่อยที่สุดจะบรรยาย
.
2. Mac n Cheese
มักกะโรนีกับชีส สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูนี้ก็จะรู้และเข้าใจถึงความอร่อยได้เป็นอย่างดีของชีส
.
3. Deep Fried Butter
เนยทอดถึงจะไม่ใช่อาหารยอดนิยมในสหรัฐฯ แต่ก็เป็นอาหารอเมริกันจานพิเศษเมื่อมีการเปิดตัวเนยทอดในงาน State Fair of Texas เมื่อปี ค.ศ. 2009 และได้รับรางวัล "อาหารที่สร้างสรรค์ที่สุด"
.
4. Scrapple
สแครปเปิล ใช้เนื้อหมูผสมกับข้าวโพดบด แป้งบัควีท และเครื่องเทศ ใบกระวาน พริกไทย ไธม์ เซจ กระเทียม และเกลือ จากนั้นปั้นเป็นก้อนแข็งกึ่งแข็ง หั่นเป็นชิ้นแล้วทอดในกระทะ เสิร์ฟเป็นมื้อเช้าพร้อมไข่ แพนเค้ก ขนมปังปิ้ง
.
5. Clam Chowder
ซุปหอยลายมีต้นกำเนิดที่ชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา และนิยมรับประทานมากที่สุดในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่ชาวคาทอลิกงดรับประทานเนื้อสัตว์ โดยซุปหอยลายมี 2 ประเภทที่รู้จักกันดีที่สุดคือ "สีแดง" และ "สีขาว" โดยความแตกต่างหลักคือทำจากมะเขือเทศหรือจากนม
.
6. Gumbo
สตูว์กัมโบเผ็ดจากลุยเซียนาตอนใต้ ทำจากเนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ หรือหอย ใส่ผัก สมุนไพร และเครื่องเทศ ใช้ไขมันและแป้งที่เรียกว่า Roux เพื่อทำให้ข้น
.
7. Buffalo Wings
อาหารที่มีชื่อรัฐของสหรัฐอเมริกา ปีกไก่ที่ได้รับการปรุงขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1964 ในร้าน Anchor Bar ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก โดย Teressa Bellissimo ซึ่งเป็นเจ้าของบาร์
.
8. Hawaiian Ahi Poke Bowl
อาหารจานพิเศษจากฮาวายที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก Poke นั้นเป็นหนึ่งในอาหารจานหลักที่เป็นอาหารพื้นเมือง โดยใช้ปลาดิบ รวมกับผลไม้ และซอสรสเยี่ยม
.
9. Hawaiian Saimin Noodles
บะหมี่ไซมินเป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวสไตล์ฮาวาย ทำจากน้ำซุปรสเข้มข้น หมูหั่นบาง ถั่วงอก และต้นหอม อาหารจานนี้เป็นการผสมผสานรสชาติแบบญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์ที่ชาวฮาวายปรับมา
.
แน่นอนว่าก็ยังมีเมนูอย่างเบอร์เกอร์ หรือ Francheezie ฮอทดอกและอีกหลายเมนูที่ส่วนใหญ่จะรู้จักกันเป็นอย่างดีครับผม
.
: จักรวาลเรากว้างใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้ คำตอบที่ชัดเจนถึงการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาวที่มีอารยธรรม มีความเจริญก้าวหน้า หรืออารยธรรมในแบบที่เกินหยั่งรู้ อย่าง ผู้ใช้เวทมนต์ หรือผู้ควบคุมพลังเหนือธรรมชาติได้นั้นอาจจะมีอยู่จริงก็ได้
ก่อนจะมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อนๆ รอติดตามผลงาน นิทานในโลกแฟนตาซี ของยุคที่เวทมนต์มีไว้เพื่อปกป้องและรักษาผู้คน เหล่าอัศวินผู้ถือดาบจัดการสัตว์ร้าย และสัตว์ปีศาจ ได้จากผู้แต่งในนามปากกา: YY. KUroButa (หรือก็คือผมเองครับผม จะเอาลิงค์มาแปะในโพสอนาคตให้รบกวนมาติดตามกันครับผม)
:::
ใครว่าสวรรค์ (โลกเบื้องบน) ไม่มีอยู่จริง
ใครว่านรก (โลกเบื้องล่าง) ไม่มีอยู่จริง
ใครว่ามนุษย์ ไม่สามารถใช้พลังของทั้งสองโลกได้
YY. KUroButa
:::
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikipedia
: imdb
: travelfoodatlas
: wikidates
.
LookAt
มะนาวต่างนุด มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริงไหม มาแบ่งปันเรื่องเล่ากัน..รู้ไหม! มีวันวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาวด้วยนะ
ในปี ค.ศ. 2000 เมือง Nome, Alaska เมืองเล็กๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ Dr. Abigail Tyler นักจิตบำบัดที่มีชื่อเสียง ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อหาความสงบ หลังจากสามีของเธอเสียชีวิตอย่างลึกลับ แต่กลับพบกับเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องหันมาสนใจปริศนาที่ไม่สามารถอธิบายได้
.
หนึ่งในเช้าวันที่หมอกหนา Dr. Tyler เริ่มรับผู้ป่วยหลายคนที่มาขอคำปรึกษาเรื่องฝันร้ายที่น่ากลัว ทุกคนรายงานว่าพวกเขาเห็นนกฮูกตัวใหญ่ที่จ้องพวกเขาในขณะที่นอนหลับ แต่นั่นไม่ใช่เพียงแค่ฝันร้ายธรรมดา ผู้ป่วยยังรู้สึกว่าพวกเขาถูกตรึง และไม่สามารถขยับตัวได้ เสียงที่น่ากลัวและความรู้สึกของการถูกเฝ้ามองเริ่มสร้างความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้
เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีการสะกดจิตย้อนกลับเพื่อนำความทรงจำที่ถูกซ่อนไว้ออกมา และเมื่อผู้ป่วยอยู่ในสภาพสะกดจิต พวกเขาเริ่มเปิดเผยเรื่องราวที่น่าขนลุก
เป็นผู้ป่วยคนแรกที่ทำการสะกดจิต เมื่อเขาอยู่ในสภาพสะกดจิต เขาเริ่มอธิบายว่ามีแสงสีขาวสว่างจ้าปรากฏขึ้นในห้องนอนของเขา และหลังจากนั้นเขาถูกตรึงอยู่บนเตียงและไม่สามารถขยับตัวได้ เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเฝ้ามองเขา และเขาถูกพาตัวไปยังสถานที่ที่มืดมนและหนาวเหน็บ และผู้ป่วยอีกคนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
.
ในเวลาต่อมา Ashley ลูกสาวของ Dr. Tyler เองก็เริ่มมีอาการฝันร้ายเช่นกัน เธอฝันเห็นนกฮูกตัวใหญ่และรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเฝ้ามองเธอ ความฝันนี้ทำให้เธอตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวและไม่กล้าหลับอีก
ไม่เพียงแต่ผู้ป่วยของเธอเท่านั้นที่ประสบกับความลึกลับนี้ Dr. Tyler เองก็เริ่มได้ยินเสียงที่ไม่สามารถอธิบายได้ในบ้านของเธอเอง เธอพบรอยขีดข่วนบนผนัง และในคืนหนึ่งเธอเห็นแสงประหลาดในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เธอจึงตัดสินใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ใน Nome เพื่อหาคำตอบว่ามีอะไรที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยของเธอหรือไม่ เธอเริ่มศึกษางานวิจัยเก่าๆ และพบว่ามีรายงานการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในเมืองนี้มายาวนาน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เธอเริ่มรู้สึกว่าผู้ป่วยของเธออาจไม่ใช่ผู้เดียวที่ประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้
.
คืนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังทำงานที่บ้าน เธอได้ยินเสียงกระแทกที่หน้าต่าง เธอเดินไปดูและเห็นนกฮูกตัวใหญ่จ้องมองเธอจากข้างนอก เธอรู้สึกถึงความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้ เธอพยายามปิดหน้าต่าง แต่เมื่อหันกลับไปมองอีกครั้ง นกฮูกหายไปแล้ว
ขณะที่เธอยังคงพยายามหาคำตอบ เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้ป่วยของเธอที่กำลังตกใจและหวาดกลัว เขารายงานว่าเห็นแสงประหลาดในท้องฟ้า และรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเฝ้ามองเขา เขาบอกว่าเขารู้สึกถึงความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้ และขอให้เธอช่วยเขาหาคำตอบ
เธอตัดสินใจเรียกประชุมกับผู้ป่วยของเธอ เพื่อให้พวกเขาได้แบ่งปันประสบการณ์ และหาคำตอบร่วมกัน การประชุมนี้ทำให้เธอได้รู้ว่าทุกคนมีประสบการณ์คล้ายกัน มีการเห็นแสงประหลาดในท้องฟ้า การถูกตรึงอยู่บนเตียง และความรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเฝ้ามองพวกเขา
ในคืนสุดท้ายของการประชุม พวกเขาตัดสินใจกลับไปที่บ้านของ Dr. Tyler เพื่อค้นหาคำตอบ ขณะที่พวกเขากำลังสืบค้นในเอกสารเก่าๆ พวกเขาได้ยินเสียงแปลกๆ ในบ้านและรู้สึกถึงความกลัวที่ไม่สามารถอธิบายได้
.
ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นในห้อง พวกเขาถูกตรึงอยู่บนที่นั่งและไม่สามารถขยับตัวได้ เงามืดเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้พวกเขา และสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์เริ่มปรากฏตัว
เธอรู้สึกถึงความกลัวที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจของเธอ แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เธอตัดสินใจที่จะบันทึกทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนำเสนอให้กับนักวิจัย และเจ้าหน้าที่ เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เธอและผู้ป่วยของเธอประสบ
.
วันต่อมาเธอเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อเข้าร่วมงานประชุมวิชาการเกี่ยวกับการวิจัยมนุษย์ต่างดาว และการพบเห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ขณะที่เธอกำลังนำเสนอเรื่องราวของเธอ ก็ได้พบกับ Dr. Michael Cummings นักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว เขาเปิดเผยว่าได้ศึกษาปรากฏการณ์การลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาวมานานหลายปีแล้ว และพบว่ามีหลายกรณีที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่ Dr. Tyler ได้รายงาน
.
ทั้งสองคนจึงตัดสินใจร่วมมือกันในการสืบสวนและหาคำตอบ พวกเขาเริ่มการวิจัยที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง Nome และการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวในบริเวณนี้ พวกเขาค้นพบเอกสารเก่าๆ ที่บันทึกการพบเห็นแสงประหลาดและการหายตัวไปของผู้คนในอดีต
😁
...
ขอหยุดสปอยสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ครับผม
: The Fourth Kind (2009)
.
หนังเรื่องนี้มีการอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงในเมือง Nome, Alaska โดยมีการนำเสนอว่าเป็นการดัดแปลงจากเรื่องราวจริงของ Dr. Abigail Tyler นักจิตบำบัดที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับการลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว
ในหนังนั้นจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีภาพเหมือนเป็นเหตุการณ์จริง แต่ที่จริงเป็นฟุตเทจของการแสดงของนักแสดงชาวอังกฤษชื่อ Charlotte Milchard
แม้ว่าเมือง Nome จะมีรายงานการหายตัวไปของผู้คนหลายคนในอดีต แต่การสืบสวนของ FBI ในปี ค.ศ. 2005 พบว่าการหายตัวไปเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์และสภาพอากาศที่หนาวเย็น
...
.
วันวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาวได้รับการประกาศโดยสภานิติบัญญัติแห่งรัฐนิวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2003 ผ่าน House Memorial 44 แม้ว่าวันดังกล่าวจะถือกำเนิดขึ้นในนิวเม็กซิโก แต่ในปัจจุบันมีการจัดให้วันนี้เป็นวันสำคัญไปทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่สนใจเรื่องราวลี้ลับของจักรวาลและชีวิตต่างดาว
.
ต้องขอบคุณตัวแทนรัฐ ดาเนียล โฟลีย์ (Daniel Foley) จากเมืองรอสเวลล์ ที่เป็นผู้ริเริ่มวันพิเศษนี้ผ่าน House Bill 766 เดิมทีวันดังกล่าวถูกกำหนดให้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ แต่ภายหลังมีการแก้ไขให้เป็นวันอังคารที่สองแทน ร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า วันวัฒนธรรมมนุษย์ต่างดาวถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่มนุษย์ต่างดาวที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้นิวเม็กซิโกเป็นที่รู้จักทั่วโลกผ่านการพบเห็น วัตถุลึกลับ และเหตุการณ์ที่ยังไม่สามารถอธิบายได้
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องมนุษย์ต่างดาวยังมีส่วนเชื่อมโยงกับพัฒนาการทางเทคโนโลยี การทดลองทางวิทยาศาสตร์ และการสำรวจจักรวาล วงการฮอลลีวูดเองก็นำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมาสร้างเป็นภาพยนตร์มากมาย ซึ่งมักจะกล่าวถึงอารยธรรมจากนอกโลกและอิทธิพลของพวกเขาในจักรวาล
.
เรื่องมนุษย์ต่างดาวโด่งดังขึ้นมาได้ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1947 ที่เมืองรอสเวลล์ทีมีการพบเศษซากปริศนาบนทุ่ง ของชาวเกษตรกร และได้แจ้งต่อนายอำเภอท้องถิ่น สิ่งที่พบนั้น มีแท่งโลหะที่ถูกพันด้วยเทป แผ่นวัสดุที่ดูเงาวาวเหมือนกระดาษหนัก และเศษฟอยล์กับพลาสติกสะท้อนแสง
จุดที่ทำให้ผู้คนสนใจคือ วันต่อมา ฐานทัพอากาศรอสเวลล์ส่งหน่วยทหารพร้อมยานเกราะเข้ามาเก็บกวาดซากเหล่านั้นไป
และวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 หนังสือพิมพ์ Roswell Daily Record ตีพิมพ์บทความพาดหัวว่า "กองทัพอากาศสหรัฐฯ จับจานบินได้ในรอสเวลล์"
ซึ่งกองทัพอากาศออกแถลงการณ์ว่าเศษซากที่พบนั้นเป็นเพียงบอลลูนตรวจอากาศ ไม่ใช่จานบินอย่างที่ผู้คนเข้าใจ แต่พยานที่เห็นเหตุการณ์กลับเชื่อว่าเศษซากที่พบนั้นไม่เหมือนบอลลูนตรวจอากาศ แต่ดูคล้ายยานบินของมนุษย์ต่างดาวมากกว่า
...
มีเมนูอาหารสไตล์ต่างโลกอยู่หลากหลายเมนูอย่าง Alien Burger, UFO Pizza, Meteor Cupcake หรือ Earth Cookies ซึ่งไม่สามารถนำภาพมาลงได้ แต่เพื่อนๆ สามารถเซิร์ชหาข้อมูลและหน้าตาเมนูอาหารกันได้
ในเมืองกระแสเรื่องเหล่านี้มาจากสหรัฐอเมริกา งั้นมาดู American Food อาหารจานดั้งเดิมของสหรัฐฯกัน
.
1. Texas Barbecue
บาร์บีคิวเท็กซัสที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ที่ชาวเท็กซัสภูมิใจ ด้วยการปรงุเนื้อที่นุ่มละมุนให้รสชาติอร่อยที่สุดจะบรรยาย
.
2. Mac n Cheese
มักกะโรนีกับชีส สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูนี้ก็จะรู้และเข้าใจถึงความอร่อยได้เป็นอย่างดีของชีส
.
3. Deep Fried Butter
เนยทอดถึงจะไม่ใช่อาหารยอดนิยมในสหรัฐฯ แต่ก็เป็นอาหารอเมริกันจานพิเศษเมื่อมีการเปิดตัวเนยทอดในงาน State Fair of Texas เมื่อปี ค.ศ. 2009 และได้รับรางวัล "อาหารที่สร้างสรรค์ที่สุด"
.
4. Scrapple
สแครปเปิล ใช้เนื้อหมูผสมกับข้าวโพดบด แป้งบัควีท และเครื่องเทศ ใบกระวาน พริกไทย ไธม์ เซจ กระเทียม และเกลือ จากนั้นปั้นเป็นก้อนแข็งกึ่งแข็ง หั่นเป็นชิ้นแล้วทอดในกระทะ เสิร์ฟเป็นมื้อเช้าพร้อมไข่ แพนเค้ก ขนมปังปิ้ง
.
5. Clam Chowder
ซุปหอยลายมีต้นกำเนิดที่ชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา และนิยมรับประทานมากที่สุดในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่ชาวคาทอลิกงดรับประทานเนื้อสัตว์ โดยซุปหอยลายมี 2 ประเภทที่รู้จักกันดีที่สุดคือ "สีแดง" และ "สีขาว" โดยความแตกต่างหลักคือทำจากมะเขือเทศหรือจากนม
.
6. Gumbo
สตูว์กัมโบเผ็ดจากลุยเซียนาตอนใต้ ทำจากเนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ หรือหอย ใส่ผัก สมุนไพร และเครื่องเทศ ใช้ไขมันและแป้งที่เรียกว่า Roux เพื่อทำให้ข้น
.
7. Buffalo Wings
อาหารที่มีชื่อรัฐของสหรัฐอเมริกา ปีกไก่ที่ได้รับการปรุงขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1964 ในร้าน Anchor Bar ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก โดย Teressa Bellissimo ซึ่งเป็นเจ้าของบาร์
.
8. Hawaiian Ahi Poke Bowl
อาหารจานพิเศษจากฮาวายที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก Poke นั้นเป็นหนึ่งในอาหารจานหลักที่เป็นอาหารพื้นเมือง โดยใช้ปลาดิบ รวมกับผลไม้ และซอสรสเยี่ยม
.
9. Hawaiian Saimin Noodles
บะหมี่ไซมินเป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวสไตล์ฮาวาย ทำจากน้ำซุปรสเข้มข้น หมูหั่นบาง ถั่วงอก และต้นหอม อาหารจานนี้เป็นการผสมผสานรสชาติแบบญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์ที่ชาวฮาวายปรับมา
แน่นอนว่าก็ยังมีเมนูอย่างเบอร์เกอร์ หรือ Francheezie ฮอทดอกและอีกหลายเมนูที่ส่วนใหญ่จะรู้จักกันเป็นอย่างดีครับผม
: จักรวาลเรากว้างใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้ คำตอบที่ชัดเจนถึงการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาวที่มีอารยธรรม มีความเจริญก้าวหน้า หรืออารยธรรมในแบบที่เกินหยั่งรู้ อย่าง ผู้ใช้เวทมนต์ หรือผู้ควบคุมพลังเหนือธรรมชาติได้นั้นอาจจะมีอยู่จริงก็ได้
ก่อนจะมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อนๆ รอติดตามผลงาน นิทานในโลกแฟนตาซี ของยุคที่เวทมนต์มีไว้เพื่อปกป้องและรักษาผู้คน เหล่าอัศวินผู้ถือดาบจัดการสัตว์ร้าย และสัตว์ปีศาจ ได้จากผู้แต่งในนามปากกา: YY. KUroButa (หรือก็คือผมเองครับผม จะเอาลิงค์มาแปะในโพสอนาคตให้รบกวนมาติดตามกันครับผม)
:::
ใครว่าสวรรค์ (โลกเบื้องบน) ไม่มีอยู่จริง
ใครว่านรก (โลกเบื้องล่าง) ไม่มีอยู่จริง
ใครว่ามนุษย์ ไม่สามารถใช้พลังของทั้งสองโลกได้
YY. KUroButa
:::
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikipedia
: imdb
: travelfoodatlas
: wikidates
.
LookAt