ดีลควบรวมกิจการ Honda-Nissan 'อาจล่ม' คาดนิสสันไม่รับเงื่อนไขเป็น 'บริษัทลูก'

สื่อญี่ปุ่นชี้ Nissan อาจล้มดีลควบรวม Honda ไม่รับเงื่อนไขเป็น 'บริษัทลูก' ฮอนด้า เตรียมประชุมเคาะข้อสรุปภายใน ก.พ.นี้!

รอยเตอร์สรายงานอ้างหนังสือพิมพ์อาซาฮีในญี่ปุ่นวันนี้ (5 ก.พ.) ว่า บริษัท "ฮอนด้า มอเตอร์" (Honda) และ "นิสสัน มอเตอร์" (Nissan) สองค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น "อาจยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการกัน" ซึ่งจะทำให้นิสสันที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น

อาซาฮีอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายรายว่า ฮอนด้าและนิสสันจะมีการประชุมคณะกรรมการของแต่ละบริษัทในเร็วๆ นี้ เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะ "ยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการ" โดยสำหรับฝั่งฮอนด้านั้น การเจรจาไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่คาดหวังเอาไว้

สื่อญี่ปุ่นระบุว่า ฮอนด้าได้พูดคุยกับนิสสันเกี่ยวกับการที่จะเข้าซื้อหุ้นและให้นิสสันกลายสภาพเป็น "บริษัทในเครือ" (subsidiary) ซึ่งเป็นแนวคิดที่นิสสันคัดค้านอย่างหนัก 

ทั้งนี้ ฮอนด้ามีมูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่านิสสันเกือบ 5 เท่า โดยปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 47,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.58 ล้านล้านบาท) 

ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวเช่นกันว่า นิสสันมีแผนที่จะจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัทในช่วงบ่ายวันนี้ (พุธ 5 ก.พ.) ซึ่งมีแนวโน้มว่ากรรมการจะลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฮอนด้าที่จะเข้าซื้อหุ้นนิสสันและทำให้กลายสภาพเป็นบริษัทในเครือ

ทางด้านโฆษกของนิสสัน แถลงว่าบริษัททั้งสองแห่งยังคงหารือกันอยู่ และจะมีการประกาศให้ทราบภายหลังจากที่ได้สรุปทิศทางกันไปแล้วในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนโฆษกของฮอนด้ายังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยระบุเพียงว่าบริษัทตั้งใจจะประกาศให้ทราบภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน

ทั้งนี้เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ฮอนด้าซึ่งเป็นค่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในญี่ปุ่น และนิสสันซึ่งเป็นอันดับ 3 ได้ประกาศ "ข่าวใหญ่แห่งปีเรื่องการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการกัน" มุ่งไปสู่การเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก รองจากโตโยต้าและโฟล์คสวาเกน

ในขณะนั้นทั้งสองบริษัทคาดว่าจะมีข้อสรุปเบื้องต้นได้ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2568  แต่ต่อมาก็ถูกเลื่อนออกไปเป็นกลางเดือนกุมภาพันธ์

ค่ายรถญี่ปุ่นทั้งสองรายนี้เคยประกาศว่า ตั้งเป้าที่จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งภายในเดือนสิงหาคม 2569 ซึ่งหลังจากนั้นหุ้นทั้งสองของบริษัทจะถูกเพิกถอนออกจากการจดทะเบียนในตลาด 

การเจรจาควบรวมกิจการยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ สร้างความไม่แน่นอนในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับหลายประเทศ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์มองว่า ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากเม็กซิโกจะสร้างความเจ็บปวดให้กับนิสสันมากกว่าฝั่งฮอนด้าหรือโตโยต้า

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่