สวัสดีครับ ขอรบกวนสอบถามหาทางออกในฐานะลูกจ้างที่บริษัทได้แจ้งความผมฐานฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์บริษัทเก่าครับ ก่อนหน้านี้ผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ให้บริการด้านการสื่อสารอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งครับ ผมมีหน้าที่เสนอขายสินค้า บริการหลังการขาย ผมจึงใช้งานเครื่องมือหรือระบบของทางองค์กรเพื่อทำงาน เสนอขายโปรโมชั่น เปลี่ยนโปร แก้ไขปัญหา เสนอสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าที่เข้ามาติดต่อสาขาในแต่ละวัน

เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2567 ปีที่ผ่านมา ผมได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่  ทางบริษัทได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยตั้งประเด็นว่าผมได้ทำความผิดฐานยักยอก ฉ้อโกง ลักทรัพย์ โดยมีการตรวจสอบพบว่าผมได้ทำการเพิ่มเน็ต1GBเข้าหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองจำนวนประมาณ5ครั้ง(ในวันเดียวกัน) ในชั้นตั้งคณะกรรมการสอบผม ผมได้ให้การสารภาพ ไม่ปฏิเสธ เนื่องจากให้เหตุผลประมาณว่าทำไปเพราะความเผลอเลอ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากนั้นบริษัทให้ผมชดเชยค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 205 บาท  และยื่นหนังสือให้ออกจากงาน(ไล่ออก) โดยไม่จ่ายค่าชดเชยใดๆตามกฏหมายแรงงาน ซึ่งตรงส่วนนี้ผมก็ได้ชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว และได้รับผลของการกระทำผิดพลาดครั้งนั้นแล้ว

ต่อมาวันนี้ 04.02.67 ทางร้อยเวรได้โทรหาผม แจ้งว่าทางผจก.สาขาได้รับมอบอำนาจจากทางบริษัทให้มาแจ้งความผมอีกที ทางตำรวจได้แจ้งว่าขอให้ผมติดต่อหาผู้จัดการเก่าเพื่อนัดมาที่สถานนีตำรวจอีกครั้ง ซึ่งเป็นการนัดผ่านโทรศัพท์โดยไม่มีการออกหมายเรียก

ขออนุญาตสอบถามครับว่า ปัจจุบันผมได้เริ่มทำงานจนผ่านโปรแล้วครับ มันจะส่งผลต่อที่ทำงานใหม่ไหมครับ กรณีแบบนี้ผมจะรับมือยังไงดี ในชั้นสอบสวนกับทางตำรวจจะจัดเป็นคดียักยอกหรือลักทรัพย์ครับ สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยให้จบในชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หรือไม่ หากมีการนัดไกล่เกลี่ยเกิดขึ้น ผมต้องชดใช้อย่างไรอีก ทั้งที่ก่อนไล่ออกผมได้ชดใช้ไปแล้วเต็มจำนวน (205บาท) ผจก.ที่ได้รับมอบอำนาจมาแจ้งความแทนนั้นจะมีสิทธิในการยอมความหรือไม่ยอมความได้หรือไม่ หากถึงชั้นศาล การรับสารภาพกับไม่ยอมรับ ผมควรให้การในศาลยังไงดี ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและความคิดเห็นจากทุกท่านล่วงหน้าจากใจจริงๆครับ ขอบคุณครับ