สวัสดีพี่ๆทุกคนค่ะ
หนูมีเรื่องอยากจะขอความคิดเห็นค่ะ ตอนนี้หนูยอายุน้อยมากๆ แค่12ปีเป็นโรคสมาธิสั้นแต่ตอนนี้อาการดีจึ้นแล้วถึงจะยังมีช็อตๆอยู่บ้าง
หนูเป็นพี่คนกลางของบ้าน มีพี่ๆ3คน มีน้องๆอีก5คน ทั้งหมดเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หนูมีน้องแท้ๆแค่คนเดียว หากนับช่วงอายุ เด็กๆทุกคนในบ้านอายุจะไล่เลี่ยกัน ยกเว้นหนูที่อายุกลางๆ นับว่าเป็นพี่คนกลาง
หนูอยู่กับญาติค่ะ พ่อแม่ของหนูและน้องๆอีก5คนไปทำงาน จะกลับมาทุกเสาร์-อาทิตย์ ด้วยความที่หนูเป็นพี่คนกลางด้วยมั้งทำให้ต้องคอยรับผิดชอบทุกอย่างอยู่คนเดียว ทั้งซักผ้า ทำกับข้าว ทำงานบ้านแทบทุกอย่างเพื่อน้อง หนูเข้าใจค่ะว่ามันเป็นหน้าที่ของพี่แต่น้องๆของหนูไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่อายุห่างกันแค่1-2ปี น้องโตแล้วค่ะ โตจนทำหลายๆอย่างได้ด้วยตัวเองแต่ไม่เคยทำเลย
เมื่อก่อนหนูจะเป็นคนที่นิสัยเสียชอบเถียง แค่ตอนนี้หนูก็ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เนื่องจากย่าและปู่สอนไว้ หนูจึงพยายามเงียบ - น้องหนูที่อายุน้อยกว่าหนู1ปี ทั้ง3คนเป็นคนไม่เรียบร้อย มักจะทิ้งของต่างๆเรี่ยราดและไม่ค่อยสนใจสิ่งภายนอก น้องเป็นคนอารมณ์รุนแรง หูทวนลมเรียกแล้วไม่เคยหัน (ปล.น้องๆนิสัยเหมือนกันเพราะอายุเท่ากันและโตมาด้วยกันค่ะ)
หนูคอยจัดการสิ่งต่างๆให้น้องตลอดแม้จะบอกให้น้องลองทำเองบ้างแต่ทางบ้านจะห้ามน้องและบอกหนูว่าน้องยังอายุน้อยหว่าหนูและหนูเห็นแก่ตัว แค่นี้ก็ทำให้น้องไม่ได้...ทั้งที่จริงๆหนูทำมาตลอด ตั้งแต่ที่หนูพอจะรู้ความ แล้วน้องจะชอบนินทาหนูด้วยกันและพูดประมาณว่า 'แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ ที่ย่าให้ทำเพราะเขาเห็นพี่**มีประโยชน์อยู่แค่นั้นไง' ค่ะ หนูเข้าใจว่าน้องยังเด็กกว่าตั้ง1ปีทำให้วุฒิภาวะยังต่ำกว่าหนู แต่ก็ยังเจ็บ เจ็บมากๆเลย
แรงกดดันจากทางย่า ย่ามักจะประคบประหงมน้อง ดูแลน้องดีตลอดแต่หนูแทบไม่เคยได้อะไรแบบนั้นจากย่าเลย ย่าไม่แทบไม่เคยพูดดีๆกับหนู พอหนูลองตอบย่าว่าทำไมต้องพูดแรงขนาดนี้ ย่ากลับตอบมาว่า 'อนาคตพอไปอยู่ในสังคม ก็ต้องเจอคำพูดที่แรงกว่านี้ แค่นี้ไม่ต้องสำออยไปหรอก' เจ็บค่ะ เจ็บอีกแล้วหนูเลยเลือกเงียบ
พอมีปัญหาอะไรในบ้านกรรมจะมาตกอยู่ที่หนูตลอด เช่น มีของใช้ของน้องวางเรี่ยราด ทางบ้านก็จะโทษว่าเป็นของหนู พอหนูอธิบายก็จะได้ยินคำพูดเดิมๆ 'อ้าง' '
' 'โทษใส่น้องอีกแล้ว'
แรงกดดันด้านการเรียน ช่วงวันธรรมดาในสัปดาห์หนูเรียน จันทร์-ศุกร์ หลังจากนั้นก็กลับบ้านทำงานเหมือนปกติ พอช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็เรียนพิเศษวันละ8ชม. เพื่อติวสอบ แน่นอนค่ะว่าเหนื่อยแต่หนูก็ต้องสู้เพื่อหาที่เรียน ม.1 ดีๆให้ได้
ด้วยแรงกดดันที่บ้านมักจะให้ทำกิจกรรมต่างๆเช่นงานโรงเรียนแม้หนูจะไม่ถนัดแต่ก็พยายามเต็มที่ทุกรอบ แต่หากเมื่อผลออกมาไม่ดีเท่าที่พวกเขาหวังไว้ก็จะโดนตำหนิค่ะ เช่น 'ทำได้แค่นี้หรอ? ไม่คุ้มค่าเรียนพิเศษเลย' 'ทำไมทำได้แค่นี้? ก็ดูเหมือนจะฉลาดนะ' 'ทำอะไรไม่เคยจะได้สักอย่าง' 'สมแล้วที่ได้แบบนี้เพราะคนอื่นเขาเก่งกว่าไง'
ตอนนี้หนูรู้สึกเหนื่อยมากเลยแต่บอกใครไม่ได้ บอกพ่อแม่ก็ไม่ค่อยเชื่อแล้วพอบอกหากทางย่ารู้จะโดนด่าค่ะ บางครั้งก็ถึงขั้นตบตี มันรู้สึกเจ็บแปลบๆอยู่ในอก แถมปวดหัวเวลาโดนด่าหรือร้องไห้ มันปวดมากค่ะ เวลาปวดหัวคืออยากจะอ้วก เวลาเจ็บในอกคือแทบจะร้อง
หนูรู้ว่าหนูหลีกหนีสถานการณ์ไม่ได้ แต่หนูอยากหาวิธีเปบี่ยนมันค่ะ สักนิดก็ยังดี หรืออาจเปลี่ยนความคิดหนูให้มองทุกอย่างใหม่ ตอนนี้หนูยังเด็กก็ไม่ได้มีประสบการณ์หรือวุฒิภาวะมากพอจะตัดสินใจและคิดเองได้ หนูจึวอยากขอคำแนะนำหรือตำหนิจากพี่ๆในกลุ่มค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ🙇♀️
ทำยังไงดี หนูรับไม่ไหวแล้ว
หนูมีเรื่องอยากจะขอความคิดเห็นค่ะ ตอนนี้หนูยอายุน้อยมากๆ แค่12ปีเป็นโรคสมาธิสั้นแต่ตอนนี้อาการดีจึ้นแล้วถึงจะยังมีช็อตๆอยู่บ้าง
หนูเป็นพี่คนกลางของบ้าน มีพี่ๆ3คน มีน้องๆอีก5คน ทั้งหมดเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หนูมีน้องแท้ๆแค่คนเดียว หากนับช่วงอายุ เด็กๆทุกคนในบ้านอายุจะไล่เลี่ยกัน ยกเว้นหนูที่อายุกลางๆ นับว่าเป็นพี่คนกลาง
หนูอยู่กับญาติค่ะ พ่อแม่ของหนูและน้องๆอีก5คนไปทำงาน จะกลับมาทุกเสาร์-อาทิตย์ ด้วยความที่หนูเป็นพี่คนกลางด้วยมั้งทำให้ต้องคอยรับผิดชอบทุกอย่างอยู่คนเดียว ทั้งซักผ้า ทำกับข้าว ทำงานบ้านแทบทุกอย่างเพื่อน้อง หนูเข้าใจค่ะว่ามันเป็นหน้าที่ของพี่แต่น้องๆของหนูไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่อายุห่างกันแค่1-2ปี น้องโตแล้วค่ะ โตจนทำหลายๆอย่างได้ด้วยตัวเองแต่ไม่เคยทำเลย
เมื่อก่อนหนูจะเป็นคนที่นิสัยเสียชอบเถียง แค่ตอนนี้หนูก็ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เนื่องจากย่าและปู่สอนไว้ หนูจึงพยายามเงียบ - น้องหนูที่อายุน้อยกว่าหนู1ปี ทั้ง3คนเป็นคนไม่เรียบร้อย มักจะทิ้งของต่างๆเรี่ยราดและไม่ค่อยสนใจสิ่งภายนอก น้องเป็นคนอารมณ์รุนแรง หูทวนลมเรียกแล้วไม่เคยหัน (ปล.น้องๆนิสัยเหมือนกันเพราะอายุเท่ากันและโตมาด้วยกันค่ะ)
หนูคอยจัดการสิ่งต่างๆให้น้องตลอดแม้จะบอกให้น้องลองทำเองบ้างแต่ทางบ้านจะห้ามน้องและบอกหนูว่าน้องยังอายุน้อยหว่าหนูและหนูเห็นแก่ตัว แค่นี้ก็ทำให้น้องไม่ได้...ทั้งที่จริงๆหนูทำมาตลอด ตั้งแต่ที่หนูพอจะรู้ความ แล้วน้องจะชอบนินทาหนูด้วยกันและพูดประมาณว่า 'แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ ที่ย่าให้ทำเพราะเขาเห็นพี่**มีประโยชน์อยู่แค่นั้นไง' ค่ะ หนูเข้าใจว่าน้องยังเด็กกว่าตั้ง1ปีทำให้วุฒิภาวะยังต่ำกว่าหนู แต่ก็ยังเจ็บ เจ็บมากๆเลย
แรงกดดันจากทางย่า ย่ามักจะประคบประหงมน้อง ดูแลน้องดีตลอดแต่หนูแทบไม่เคยได้อะไรแบบนั้นจากย่าเลย ย่าไม่แทบไม่เคยพูดดีๆกับหนู พอหนูลองตอบย่าว่าทำไมต้องพูดแรงขนาดนี้ ย่ากลับตอบมาว่า 'อนาคตพอไปอยู่ในสังคม ก็ต้องเจอคำพูดที่แรงกว่านี้ แค่นี้ไม่ต้องสำออยไปหรอก' เจ็บค่ะ เจ็บอีกแล้วหนูเลยเลือกเงียบ
พอมีปัญหาอะไรในบ้านกรรมจะมาตกอยู่ที่หนูตลอด เช่น มีของใช้ของน้องวางเรี่ยราด ทางบ้านก็จะโทษว่าเป็นของหนู พอหนูอธิบายก็จะได้ยินคำพูดเดิมๆ 'อ้าง' '' 'โทษใส่น้องอีกแล้ว'
แรงกดดันด้านการเรียน ช่วงวันธรรมดาในสัปดาห์หนูเรียน จันทร์-ศุกร์ หลังจากนั้นก็กลับบ้านทำงานเหมือนปกติ พอช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็เรียนพิเศษวันละ8ชม. เพื่อติวสอบ แน่นอนค่ะว่าเหนื่อยแต่หนูก็ต้องสู้เพื่อหาที่เรียน ม.1 ดีๆให้ได้
ด้วยแรงกดดันที่บ้านมักจะให้ทำกิจกรรมต่างๆเช่นงานโรงเรียนแม้หนูจะไม่ถนัดแต่ก็พยายามเต็มที่ทุกรอบ แต่หากเมื่อผลออกมาไม่ดีเท่าที่พวกเขาหวังไว้ก็จะโดนตำหนิค่ะ เช่น 'ทำได้แค่นี้หรอ? ไม่คุ้มค่าเรียนพิเศษเลย' 'ทำไมทำได้แค่นี้? ก็ดูเหมือนจะฉลาดนะ' 'ทำอะไรไม่เคยจะได้สักอย่าง' 'สมแล้วที่ได้แบบนี้เพราะคนอื่นเขาเก่งกว่าไง'
ตอนนี้หนูรู้สึกเหนื่อยมากเลยแต่บอกใครไม่ได้ บอกพ่อแม่ก็ไม่ค่อยเชื่อแล้วพอบอกหากทางย่ารู้จะโดนด่าค่ะ บางครั้งก็ถึงขั้นตบตี มันรู้สึกเจ็บแปลบๆอยู่ในอก แถมปวดหัวเวลาโดนด่าหรือร้องไห้ มันปวดมากค่ะ เวลาปวดหัวคืออยากจะอ้วก เวลาเจ็บในอกคือแทบจะร้อง
หนูรู้ว่าหนูหลีกหนีสถานการณ์ไม่ได้ แต่หนูอยากหาวิธีเปบี่ยนมันค่ะ สักนิดก็ยังดี หรืออาจเปลี่ยนความคิดหนูให้มองทุกอย่างใหม่ ตอนนี้หนูยังเด็กก็ไม่ได้มีประสบการณ์หรือวุฒิภาวะมากพอจะตัดสินใจและคิดเองได้ หนูจึวอยากขอคำแนะนำหรือตำหนิจากพี่ๆในกลุ่มค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ🙇♀️