บางครั้งโอกาสก็ไม่ได้ผ่านมาทางเราเลยสักครั้ง เหมือนอย่างเรื่องราวของพี่รินคนนี้ ขออนุญาตเเล้วเหมือนเดิม
พี่รินเป็นวิศวกร หน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ก็เหมือนวิศวกรทั่วๆไป สายงานก่อสร้าง พี่รินไม่ชอบการเป็นวิศวกร ความฝันของพี่รินก็คือการเป็นแม่ครัวในร้านอาหาร เนื่องด้วยความฝัน ที่ ครอบครัวมองว่ามันไร้สาระ ไม่สามารถเลี้ยงดูตัวพี่รินได้เเน่ๆ ช่วงที่เข้าเรียน มหาวิทยาลัยพี่รินก็จำใจต้องเข้าเรียนที่ลาดกระบัง ในสาขาวิศวกรรมโยธา พี่รินเป็นคน เรียนเก่งอยู่เเล้วในการเรียนพี่ริน จึงไม่ได้เครียดหรือ เรียนไม่ได้ พี่รินคิดเสมอว่า ถ้าเรียนจบเเล้ว ทำงานสายงานนี้ไปสักพัก พอตัวเองมีเงินเก็บ ก็จะไปเรียนสายงานทำอาหาร ในวันหยุดของงานประจำ
เเต่พอพี่รินเรียนจบ มีการมีงานทำ มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดไว้ เพราะในวันหยุด ไม่มีเเรงที่จะทำอะไรเลย สายการก่อสร้างพี่รินบอกว่า มันเหนื่อยมาก ทั้งสภาพร่างกายต่องานภาคสนาม เเละความที่ไม่ชอบเป็นทุนเดิม ทำให้พี่ริน รู้สึกว่า ชีวิตมันต้องตายอย่างไร้ค่ากับงานนี้จริงๆหรอวะ
ต่อมาพี่รินหาเรียนเป็นคอร์สที่มีใบเซอร์ ประกอบการสมัครงานในสายงานการทำอาหาร ผลปรากฏว่า คอร์สนึง ก็ใช้เงินเยอะพอสมควร เเละ เงินเก็บที่มี ก็ยังไม่มากพอที่จะเเบ่งไปทำสิ่งนี้ ตอนนั้นพี่รินก็คิดว่า ไหนคนบอกว่า เรียนจบมาไม่ได้ทำตรงสาย เเต่ทำไมพี่รินถึงได้จมอยู่กับสิ่งนี้ ไม่เห็นเหมือนที่เขาว่ากันมาเลย ก็ตัดพ้อ ชีวิตไปสักพัก ก็ลุกมาทำงานต่อ 555
ในสายงานนี้ พี่รินไม่ชอบ ไม่ว่าจะ เป็นวิศวกรที่ทำอยู่ในออฟฟิศ หรือ ภาคสนาม พี่รินทร์ไม่ชอบทั้งนั้น มันเป็นความรู้สึกเกลียดเลยก็ว่าหลังจากทำงาน ในขณะนั้นพี่รินก็สมัครงานทุกอย่างที่ไม่ใช่วิศวกร ก็ไม่ได้มีการตอบรับมา ถึงจะย้ายงานไปที่ใหม่ งานที่ได้ ก็เป็นวิศวกร รุ่นพี่ หรือ Connection ที่มีก็เป็นสายงานก่อสร้างหมด พี่รินท้อมาก ตอนนั้นไม่สนว่า สายงานอื่นจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ ขอเเค่ได้ลองทำไปรอดหรือไม่รอดก็จะได้รู้กัน
จนพี่รินได้ไปสมัครงานร้านกาเเฟเเห่งนึง ผลก็คือไม่ผ่านอีก พี่รินยื่นร้านกาเเฟ ร้านอาหาร ยื่นเเม้เเต่พนักงานล้างร้าน พนักงานต้อนรับ พนักงานเสริฟ เเม่บ้านในร้านอาหารก็เคยยื่น เเต่ไม่มีผลตอบรับกับมาเลยสักอย่าง จนคิดได้ว่า ความฝัน คนก็เเค่ความฝันจริงๆ
จนกระทั่งตอนนี้ พี่รินก็ยังทำงานในสายงานก่อสร้างเหมือนเดิม มีคำพูดที่พี่รินพูดมาว่า
''ฉันเกลียดมันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเหมือนมีเเรงดึงดูดให้ฉันเข้าใกล้มันมากไปเท่านั้น''
ในตอนเด็ก เราต่างมีความฝันกันมากมาย หลากหลาย เเต่ก็น่าเสียดายที่ โลกความจริง ความฝันก็ไม่ได้ทำได้ง่าย ไม่ว่าจะ ปัจจัย การเงิน สังคม ครอบครัว สิ่งรอบข้าง ถึงจะรู้ว่าเป็นไปได้ยาก เราก็ยังคงฝันถึงมันอยู่ อาจจะมีเลือนลางไปบ้าง เเต่ก็ยังไม่หายไปสักที
ใครบอกว่าคนส่วนใหญ่ก็ทำงานไม่ตรงสาย
พี่รินเป็นวิศวกร หน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ก็เหมือนวิศวกรทั่วๆไป สายงานก่อสร้าง พี่รินไม่ชอบการเป็นวิศวกร ความฝันของพี่รินก็คือการเป็นแม่ครัวในร้านอาหาร เนื่องด้วยความฝัน ที่ ครอบครัวมองว่ามันไร้สาระ ไม่สามารถเลี้ยงดูตัวพี่รินได้เเน่ๆ ช่วงที่เข้าเรียน มหาวิทยาลัยพี่รินก็จำใจต้องเข้าเรียนที่ลาดกระบัง ในสาขาวิศวกรรมโยธา พี่รินเป็นคน เรียนเก่งอยู่เเล้วในการเรียนพี่ริน จึงไม่ได้เครียดหรือ เรียนไม่ได้ พี่รินคิดเสมอว่า ถ้าเรียนจบเเล้ว ทำงานสายงานนี้ไปสักพัก พอตัวเองมีเงินเก็บ ก็จะไปเรียนสายงานทำอาหาร ในวันหยุดของงานประจำ
เเต่พอพี่รินเรียนจบ มีการมีงานทำ มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดไว้ เพราะในวันหยุด ไม่มีเเรงที่จะทำอะไรเลย สายการก่อสร้างพี่รินบอกว่า มันเหนื่อยมาก ทั้งสภาพร่างกายต่องานภาคสนาม เเละความที่ไม่ชอบเป็นทุนเดิม ทำให้พี่ริน รู้สึกว่า ชีวิตมันต้องตายอย่างไร้ค่ากับงานนี้จริงๆหรอวะ
ต่อมาพี่รินหาเรียนเป็นคอร์สที่มีใบเซอร์ ประกอบการสมัครงานในสายงานการทำอาหาร ผลปรากฏว่า คอร์สนึง ก็ใช้เงินเยอะพอสมควร เเละ เงินเก็บที่มี ก็ยังไม่มากพอที่จะเเบ่งไปทำสิ่งนี้ ตอนนั้นพี่รินก็คิดว่า ไหนคนบอกว่า เรียนจบมาไม่ได้ทำตรงสาย เเต่ทำไมพี่รินถึงได้จมอยู่กับสิ่งนี้ ไม่เห็นเหมือนที่เขาว่ากันมาเลย ก็ตัดพ้อ ชีวิตไปสักพัก ก็ลุกมาทำงานต่อ 555
ในสายงานนี้ พี่รินไม่ชอบ ไม่ว่าจะ เป็นวิศวกรที่ทำอยู่ในออฟฟิศ หรือ ภาคสนาม พี่รินทร์ไม่ชอบทั้งนั้น มันเป็นความรู้สึกเกลียดเลยก็ว่าหลังจากทำงาน ในขณะนั้นพี่รินก็สมัครงานทุกอย่างที่ไม่ใช่วิศวกร ก็ไม่ได้มีการตอบรับมา ถึงจะย้ายงานไปที่ใหม่ งานที่ได้ ก็เป็นวิศวกร รุ่นพี่ หรือ Connection ที่มีก็เป็นสายงานก่อสร้างหมด พี่รินท้อมาก ตอนนั้นไม่สนว่า สายงานอื่นจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ ขอเเค่ได้ลองทำไปรอดหรือไม่รอดก็จะได้รู้กัน
จนพี่รินได้ไปสมัครงานร้านกาเเฟเเห่งนึง ผลก็คือไม่ผ่านอีก พี่รินยื่นร้านกาเเฟ ร้านอาหาร ยื่นเเม้เเต่พนักงานล้างร้าน พนักงานต้อนรับ พนักงานเสริฟ เเม่บ้านในร้านอาหารก็เคยยื่น เเต่ไม่มีผลตอบรับกับมาเลยสักอย่าง จนคิดได้ว่า ความฝัน คนก็เเค่ความฝันจริงๆ
จนกระทั่งตอนนี้ พี่รินก็ยังทำงานในสายงานก่อสร้างเหมือนเดิม มีคำพูดที่พี่รินพูดมาว่า
''ฉันเกลียดมันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเหมือนมีเเรงดึงดูดให้ฉันเข้าใกล้มันมากไปเท่านั้น''
ในตอนเด็ก เราต่างมีความฝันกันมากมาย หลากหลาย เเต่ก็น่าเสียดายที่ โลกความจริง ความฝันก็ไม่ได้ทำได้ง่าย ไม่ว่าจะ ปัจจัย การเงิน สังคม ครอบครัว สิ่งรอบข้าง ถึงจะรู้ว่าเป็นไปได้ยาก เราก็ยังคงฝันถึงมันอยู่ อาจจะมีเลือนลางไปบ้าง เเต่ก็ยังไม่หายไปสักที