หรือจะหมดหวังแล้ว! ชี้ เมื่ออายุ 30 แล้วยังไม่รวย ชีวิตต่อจากนี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ
30 ปีแล้ว… แต่ยังไม่มีเงินเก็บ ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ยังคงต้องดิ้นรนใช้เงินเดือนชนเดือน หรือแย่กว่านั้น ดันเป็นหนี้สินพะรุงพะรัง ชีวิตคุณเป็นแบบนี้ มันคือความล้มเหลวใช่ไหม?
1. คุณพลาดช่วงเวลาทองของชีวิตไปแล้ว
วัย 20 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเสี่ยง กล้าลงทุน ลองทำธุรกิจ หาโอกาสใหม่ ๆ แต่ถ้าคุณปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึง 30 ปี โดยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง อยู่ไม่รู้เรื่อง ชีวิตหลังจากนี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคุณเริ่มมีภาระเพิ่มขึ้น ทั้งค่าครองชีพ ค่ารักษาพยาบาล ความคาดหวังจากครอบครัว และโอกาสที่เคยมีตอนยังหนุ่มสาวก็ลดน้อยลง
2. แรงคุณลด แต่ภาระคุณเพิ่ม
ตอนนี้คุณอาจยังมีแรงวิ่งเต้นหางาน ทำโอที หรือรับจ๊อบเสริมได้ แต่คิดดูสิ อีก 10 ปีข้างหน้า คุณจะยังทนทำงานหนักแบบนี้ได้หรือไม่? ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จแล้วตอนอายุ 30+ เขากำลังขยายธุรกิจ ลงทุน สร้างความมั่นคง บางคนรวยเป็น 100ล้าน ในขณะที่คุณยังต้องเริ่มจากศูนย์ เสียเวลาชีวิตมาก
3. ความฝันเริ่มไกลออกไปเรื่อย ๆ
คุณเคยฝันจะมีบ้าน มีรถ มีชีวิตที่ดี แต่ตอนนี้อะไรทำให้คุณยังไปไม่ถึง? หากตอนนี้คุณยังต้องกังวลกับเงินเดือนแค่พอใช้ จะเอาที่ไหนไปลงทุน จะเอาที่ไหนไปเสี่ยงเพื่อโอกาสใหม่ ๆ ชีวิตคุณถูกกักอยู่ในวังวนของความจน
4. คุณไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่มีใครให้โอกาสซ้ำ
ในวัย 20 ถ้าคุณล้มเหลว คุณยังเริ่มใหม่ได้ คนรอบข้างอาจยังให้โอกาส แต่เมื่ออายุ 30 ความอดทนของคนรอบตัวคุณเริ่มลดลง นายจ้างคาดหวังว่าคุณต้องมีความสามารถ ธุรกิจต้องการคนที่มีประสบการณ์ ไม่ใช่คนที่ยังต้องเริ่มต้นใหม่ คนอายุ 30 ที่ยังไม่มั่นคง คือคนที่โลกเริ่มเพิกเฉย และ ปล่อยมันให้หายไปเอง
5. หนทางข้างหน้ามืดมน และคุณอาจไม่มีเวลาพอให้แก้ตัว
บางคนอาจปลอบใจว่า “ยังมีเวลา” แต่ความจริงคือ เวลาของคุณเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ คุณต้องไล่ตามคนที่นำหน้าคุณไปแล้ว 10 ปี คุณต้องเริ่มจากจุดที่คนอื่นผ่านไปนานแล้ว และโลกปัจจุบันมันโหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งถูกกดให้ต่ำลง ถ้าคุณยังไม่ตื่นตัวตอนนี้ คุณอาจไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอีกเลย
สงสารพ่อแม่บ้างไหม? ท่านจะยอมรับความล้มเหลวของคุณได้เหรอ หรือจะลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายมากเกินไปกว่านี้ มันยากมากนะ?
หรือจะหมดหวังแล้ว! ชี้ เมื่ออายุ 30 แล้วยังไม่รวย ชีวิตต่อจากนี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ
30 ปีแล้ว… แต่ยังไม่มีเงินเก็บ ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ยังคงต้องดิ้นรนใช้เงินเดือนชนเดือน หรือแย่กว่านั้น ดันเป็นหนี้สินพะรุงพะรัง ชีวิตคุณเป็นแบบนี้ มันคือความล้มเหลวใช่ไหม?
1. คุณพลาดช่วงเวลาทองของชีวิตไปแล้ว
วัย 20 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเสี่ยง กล้าลงทุน ลองทำธุรกิจ หาโอกาสใหม่ ๆ แต่ถ้าคุณปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึง 30 ปี โดยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง อยู่ไม่รู้เรื่อง ชีวิตหลังจากนี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคุณเริ่มมีภาระเพิ่มขึ้น ทั้งค่าครองชีพ ค่ารักษาพยาบาล ความคาดหวังจากครอบครัว และโอกาสที่เคยมีตอนยังหนุ่มสาวก็ลดน้อยลง
2. แรงคุณลด แต่ภาระคุณเพิ่ม
ตอนนี้คุณอาจยังมีแรงวิ่งเต้นหางาน ทำโอที หรือรับจ๊อบเสริมได้ แต่คิดดูสิ อีก 10 ปีข้างหน้า คุณจะยังทนทำงานหนักแบบนี้ได้หรือไม่? ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จแล้วตอนอายุ 30+ เขากำลังขยายธุรกิจ ลงทุน สร้างความมั่นคง บางคนรวยเป็น 100ล้าน ในขณะที่คุณยังต้องเริ่มจากศูนย์ เสียเวลาชีวิตมาก
3. ความฝันเริ่มไกลออกไปเรื่อย ๆ
คุณเคยฝันจะมีบ้าน มีรถ มีชีวิตที่ดี แต่ตอนนี้อะไรทำให้คุณยังไปไม่ถึง? หากตอนนี้คุณยังต้องกังวลกับเงินเดือนแค่พอใช้ จะเอาที่ไหนไปลงทุน จะเอาที่ไหนไปเสี่ยงเพื่อโอกาสใหม่ ๆ ชีวิตคุณถูกกักอยู่ในวังวนของความจน
4. คุณไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่มีใครให้โอกาสซ้ำ
ในวัย 20 ถ้าคุณล้มเหลว คุณยังเริ่มใหม่ได้ คนรอบข้างอาจยังให้โอกาส แต่เมื่ออายุ 30 ความอดทนของคนรอบตัวคุณเริ่มลดลง นายจ้างคาดหวังว่าคุณต้องมีความสามารถ ธุรกิจต้องการคนที่มีประสบการณ์ ไม่ใช่คนที่ยังต้องเริ่มต้นใหม่ คนอายุ 30 ที่ยังไม่มั่นคง คือคนที่โลกเริ่มเพิกเฉย และ ปล่อยมันให้หายไปเอง
5. หนทางข้างหน้ามืดมน และคุณอาจไม่มีเวลาพอให้แก้ตัว
บางคนอาจปลอบใจว่า “ยังมีเวลา” แต่ความจริงคือ เวลาของคุณเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ คุณต้องไล่ตามคนที่นำหน้าคุณไปแล้ว 10 ปี คุณต้องเริ่มจากจุดที่คนอื่นผ่านไปนานแล้ว และโลกปัจจุบันมันโหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งถูกกดให้ต่ำลง ถ้าคุณยังไม่ตื่นตัวตอนนี้ คุณอาจไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอีกเลย
สงสารพ่อแม่บ้างไหม? ท่านจะยอมรับความล้มเหลวของคุณได้เหรอ หรือจะลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายมากเกินไปกว่านี้ มันยากมากนะ?