👹👹👹
จากหนังดังในอดีตตั้งแต่ปี 2548 ลองของ ภาคแรกออกฉายแล้วก็เป็นที่โจษจันกับความสยองซี๊ดปาก กับฉากต่างๆ ที่หนังใส่เข้ามาแบบสุดสยอง ผ่านไป 3 ปี ก็มี ลองของ 2 ออกมาในปี 2551 ที่ทำออกมาเป็นเรื่องราวย้อนอดีตแล้วผูกเรื่องเข้าด้วยกัน มาปีนี้ ลองของ กลับมาอีกครั้งในรูปแบบของต้นกำเนิดตัวละครที่เป็นตำนานความสยองของเรื่อง นั่นคือ พนอ


👹👹👹
เรื่องราวของ พนอ สาวรุ่นวัยบริสุทธิ์ เธอเกิดมาในวันที่มีคนในหมู่บ้านทำพิธีปล่อยของ ทุกคนรังเกียจกล่าวหาว่าเธอเป็นตัวเสนียด ใครอยู่ใกล้มักจะมีอันเป็นไปจากการถูกคุณไสยเล่นงาน และด้วยความบังเอิญพนอก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่กำเนิดนั้น มันคือมนต์ดำที่ใครสักคนทำให้เธอต้องพบเจอเรื่องราวอย่างนี้ ชะตากรรมอันชั่วร้ายที่ติดตัวพนอมาตั้งแต่กำเนิดคืออะไร ? และความลับด้านมืดที่พนอต้องเผชิญหน้าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ? เตรียมพบกับปฐมบทแห่งเรื่องราวไสยศาสตร์เสียวสยองที่ทุกคนจะต้องจดจำชื่อของเธอไปจนวันตาย


👹👹👹
การเอาหนังตำนานกลับมาเล่นใหญ่ มันต้องมีทั้งข้อดีและจ้อเสียแน่นอนอยู่แล้ว ด้วยของเดิมมันทำได้ดีจนกลายเป็นตำนาน การที่จะเอาเรื่องราวมาบอกเล่าใหม่หรือมาแตกแขนงออกมา มันก็มีความเสี่ยงอยุ่เหมือนกัน สำหรับ ลองของ นี้แน่นอนว่าเรารู้กันอยู่แล้วว่า ครูพนอ ตัวละครหลักของเรื่องที่เป็นเจ้าแม่แห่งความโหดสยองที่เคยรับบทโดย นภคปภา นาคประสิทธิ์ นักแสดงสาวที่มีหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มีทั้งความเซ็กซี่ยั่วยวนและความน่ากลัวอยู่ในตัวเอง กับการได้ เฌอปราง อารีย์กุล ไอดอลวัยรุ่นที่มีฝีมือพอตัว แต่กับบทที่หนักอึ้งขนาดนี้ก็ต้องมีคำถามแน่นอน


👹👹👹
ในตัวบทหนังนั้น หนังเน้นหลักไปที่จุดกำเนิดของ พนอ เด็กสาวที่เหมือนเป็นตัวกาลกิณีของหมู่บ้าน ที่เกิดมาก็มีแต่เรื่องยาวแย่ๆ กับคนรอบตัว แถมยังโดนเพื่อนๆ รุมแกล้งกระทำสารพัด มันจึงเป็นเหตุให้ พนอ ต้องระเบิดความแค้นออกมาและเอาคืนให้สาสม แต่หนังกลับสร้างปมเหตุขึ้นมาอีกเส้นเรื่อง นั่นคือเรื่องของลัทธิเทพสามตาที่มีเรื่องของการถ่ายทอดพันธุกรรมซุปเปอร์ฮีโร่ไสยเวทย์จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่มีอะไรให้ผมเอ๊ะหลายอย่าง แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันไหมนะ


👹👹👹
การที่ตัว พนอ ต้องกลายเป็นคนแบกรับชะตากรรมของเจ้าลัทธิ มันเลยทำให้หนังมันมีเส้นเรื่องโผล่ขึ้นมาอีกเรื่องราว ที่มันพาให้จากที่เราจะโฟกัสที่ความสยองของการเอาคืนของ พนอ กลับเป็นว่าเราต้องไปโฟกัสอีกเรื่องคือเรื่องของการถล่มลัทธิที่เหมือนเป็นสิ่งครอบงำคนทั้งหมู่บ้าน แถมยังกลายเป็นเส้นเรื่องหลักที่ทำให้เราดูการต่อสู้กันของจอมขมังเวทย์สองรุ่นอีกต่างหาก มันเลยกลายเป็นหนังมันไปแบบสะเปะสะปะไปหน่อย ถ้าโฟกัสอยู่แค่ความสยองของการเล่นของน่าจะดีและกระชับกว่านี้


👹👹👹
ฉากที่ออกมาทุกฉากเรียกว่าสร้างความขนลุกให้คนดูได้เป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อเทียบกับของเดิมที่สยองอยู่แล้ว ในยุคนี้ CG และการตกแต่งความสยองที่พัฒนาขึ้นเยอะมาก ยิ่งทำให้ฉากเหล่านั้นดูขนลุกและอี๋ทุกฉาก หนังต้องการเล่นกับตรงนี้อยู่แล้ว มันเลยทำให้หนังจัดฉากต่างๆ เหล่านี้มาเต็มกราฟ
👹👹👹
ตัว น้องเฌอปราง เอง ผมว่าบทนี้เป็นบทที่หนักที่สุดของน้องแล้ว ตั้งแต่ดูหนังหลายๆ เรื่องที่น้องแสดงมา เพราะส่วนใหญ่จะได้รับบทเป็นเด็กใสๆ ตามคาแรคเตอร์ แต่บท พนอ เป็นบทที่ มะหมี่ เล่นไว้ได้จนกลายเป็นตัวละครตำนาน พอ เฌอปราง มารับบทนี้ การบ้านหนักแน่ๆ แต่น้องก็ทำออกมาได้ดี เรียกว่าดีมากเลยล่ะ สำหรับการแสดงที่คุ้มคลั่งขนาดนี้ แต่ผมติดอย่างเดียว บางทีน้องพูดแล้วฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ อาจจะติดการพูดแบบเป็นตัวเองมากไป
👹👹👹
และอีกจุดหนึ่งที่ผมบอกว่ายังมีคำถาม อันนี้คือคำถามส่วนตัวที่ผมเอ๊ะขึ้นมา คือการที่ พนอ เป็นครูสาวสุดโหด และทำสิ่งต่างๆ ด้วยความแค้น แต่ต้นกำเนิดของ พนอ กลับกลายเป็นเด็กจิตใจดีที่มีแต่การให้และคอยรับทุกสิ่งทุกอย่างของทุกคนมาไว้ที่ตัวเอง กลายเป็นดราม่า เกิดแต่ตม ชีวิตเปื้อนฝุ่น และเป็นนางเอกแสนดีที่ไม่ได้กินน้ำส้ม อะไรทำนองนั้น ซึ่งมันไม่น่าจะมาผูกกับความเป็น ครูพนอ ใน ลองของ ทั้งสองภาคได้ เพราะเรียกว่าเกือบจะเป็นคนละคนกัน และไอ้คุณไสย์แบบนี้ มันดูดผ่านสายสะดือกันได้ด้วยเหรอ นี่แหละที่น่าสงสัย
👹👹👹
เป็นหนังไทยเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งที่ออกมาต้อนรับต้นปีและเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ดึงกระแสหนังไทยให้กลับมาให้ได้ เพราะหนังไทยค่อนข้างซบเซาไปเยอะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะหาหนังไทยที่ดูแล้วไม่เสียดายเงินค่อนข้างยาก แต่อยากให้ลองไปดูหนังเรื่องนี้กัน แล้วความสยองจะติดตาเลยล่ะ

ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai