เราเป็นคนหนึ่งที่เติบโตมาโดยไม่มีพ่อแม่ดูแล ทิ้งกันไปตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยส่งเสีย ไม่เคยติดต่อ ไม่เคยมีตัวตนในชีวิตเลย จนกระทั่งโตมาทำงาน หาเลี้ยงตัวเองได้ทุกบาททุกสตางค์
แต่รู้ไหม? ตามกฎหมายแล้ว เราสามารถใช้ "ความเป็นพ่อแม่" ของพวกเขามาลดหย่อนภาษีได้
หลักการคือ
1. ต้องมีข้อมูลเลขบัตรประชาชน (การหาข้อมูลนี้ ขึ้นอยู่กับวิธีของแต่ละบ้าน)
2. บิดามารดามีอายุ 60 ปีขึ้นไป (ไม่จำเป็นต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันกับผู้มีเงินได้)
เงื่อนไขอื่นๆ >>
การหักค่าลดหย่อนบิดามารดาของผู้มีเงินได้ รวมทั้งบิดามารดาของสามีหรือภริยาของผู้มีเงินได้ ตามมาตรา 47(1)(ญ) แห่งประมวลรัษฎากร มีหลักเกณฑ์ดังนี้ ตามประกาศอธิบดีฯ ภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 136) ลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาทต่อคน
ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยทำหน้าที่พ่อแม่เลย แต่ในทางกฎหมาย เขายังเป็นพ่อแม่เราอยู่ดี และสิทธิ์นี้เราสามารถใช้ได้
ใครที่รายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี อย่าลืมใช้สิทธิ์นี้ อย่างน้อยก็ให้พวกเขามีบทบาทในชีวิตเราบ้าง ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวเลขในใบลดหย่อนภาษีก็ตาม
แต่ก็ต้องเช็กให้ดีว่าเขามีรายได้เกินเกณฑ์ไหม และยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
และปีนี้ได้ภาษีเงินคืน จะเอาไปดูแลตัวเอง เป็นขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไป
พ่อแม่ทิ้งไปแต่เด็ก แต่เรายังเอาเขามาลดหย่อนภาษีได้ อย่างน้อยก็ให้เขาได้มีหน้าที่เป็นพ่อแม่บ้าง
แต่รู้ไหม? ตามกฎหมายแล้ว เราสามารถใช้ "ความเป็นพ่อแม่" ของพวกเขามาลดหย่อนภาษีได้
หลักการคือ
1. ต้องมีข้อมูลเลขบัตรประชาชน (การหาข้อมูลนี้ ขึ้นอยู่กับวิธีของแต่ละบ้าน)
2. บิดามารดามีอายุ 60 ปีขึ้นไป (ไม่จำเป็นต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันกับผู้มีเงินได้)
เงื่อนไขอื่นๆ >> การหักค่าลดหย่อนบิดามารดาของผู้มีเงินได้ รวมทั้งบิดามารดาของสามีหรือภริยาของผู้มีเงินได้ ตามมาตรา 47(1)(ญ) แห่งประมวลรัษฎากร มีหลักเกณฑ์ดังนี้ ตามประกาศอธิบดีฯ ภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 136) ลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาทต่อคน
ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยทำหน้าที่พ่อแม่เลย แต่ในทางกฎหมาย เขายังเป็นพ่อแม่เราอยู่ดี และสิทธิ์นี้เราสามารถใช้ได้
ใครที่รายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี อย่าลืมใช้สิทธิ์นี้ อย่างน้อยก็ให้พวกเขามีบทบาทในชีวิตเราบ้าง ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวเลขในใบลดหย่อนภาษีก็ตาม
แต่ก็ต้องเช็กให้ดีว่าเขามีรายได้เกินเกณฑ์ไหม และยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
และปีนี้ได้ภาษีเงินคืน จะเอาไปดูแลตัวเอง เป็นขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไป