ขอบคุณที่มา:
https://mgronline.com/local/detail/9680000010245
อุบลราชธานี-จับได้แล้วมือวางเพลงเผา รพ.สมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม สารภาพว่า ถูกโกงเงินค่าขายที่ดินมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทเศษ ทำให้สติแตก และเครียดจัด จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการประชดสังคม
หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อบ่ายวันนี้(31 ม.ค.)เจ้าหน้าที่ ต้องระดมกำลังเคลื่อนย้ายคนป่วยออกจากตึกที่ไฟไหม้ได้อย่างปลอดภัย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนนั้น ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจำอำเภอนาเยีย มีคนร้ายขับรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีดำ ทะเบียน กว 3486 อุบลราชธานี เข้าไปในโรงพยาบาลและขับไล่ชนคน ซึ่งก่อนหน้าก็ได้ขับรถชน จยย.มาแล้ว 2 คัน ทำให้มีคนบาดเจ็บ 3 คน ขณะนี้ คนร้ายได้ลงจากรถหลบหนีเข้าไปในป่าข้างโรงพยาบาล
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ไล่ตาม เพื่อจับตัวคนร้ายทราบชื่อภายหลังว่า นายพิบูลย์ ราชาธรรมกุล อายุ 40 ปี เป็นคนอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้เช่ารถคันดังกล่าวมาจากเต้นท์เช่ารถในสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี แล้วได้แวะซื้อน้ำมันใส่แกนลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตรจำนวน 2 ถัง เพื่อบรรจุน้ำมันใส่ถุงพลาสติกนำไปโยนใส่เตียงคนไข้ในที่ชั้น 3 ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม แล้วจุดไฟเผา เพื่อระบายความเครียด
ระหว่างนั้น มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพยายามนำถังดับเพลิงเคมีมาดับไฟที่กำลังลุกไหม้ จึงได้ใช้ปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่ 1 นัด แต่ไม่ถูกใคร ก่อนขับรถหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ก่อนมาก่อเหตุขับรถไล่ชนคนตามรายทางที่จะกลับเข้าตัวจังหวัดอุบลราชธานี จนมาถูกจับได้
ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้รุดเข้ามาสอบสวนผู้ต้องหาในสถานีตำรวจเดชอุดม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ถูกโกงเงินค่าขายที่ดินมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทเศษ ทำให้สติแตก และเครียดจากเรื่องดังกล่าว จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการประชดสังคม โดยไม่มีจุดหมายว่าต้องมาวางเพลิงที่ใด ทำอย่างสะเปะสะปะ ขอเพียงได้ระบายความเครียด ส่วนการขับรถไล่ชนคนก็เช่นกัน ต้องการประชดและระบายความเครียดเช่นกัน
เบื้องต้นจากการสอบสวนได้แจ้งข้อหาวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ มีอาวุธปืนอยู่ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนพยายามฆ่าผู้อื่น ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นฯลฯ นำตัวเข้าห้องควบคุม เพื่อรอการนำตัวส่งไปฝากขังต่อศาลจังหวัดต่อไป
จับแล้ว!มือวางเพลิงเผาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชอุบลฯ
ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/local/detail/9680000010245
อุบลราชธานี-จับได้แล้วมือวางเพลงเผา รพ.สมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม สารภาพว่า ถูกโกงเงินค่าขายที่ดินมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทเศษ ทำให้สติแตก และเครียดจัด จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการประชดสังคม
หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อบ่ายวันนี้(31 ม.ค.)เจ้าหน้าที่ ต้องระดมกำลังเคลื่อนย้ายคนป่วยออกจากตึกที่ไฟไหม้ได้อย่างปลอดภัย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนนั้น ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจำอำเภอนาเยีย มีคนร้ายขับรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีดำ ทะเบียน กว 3486 อุบลราชธานี เข้าไปในโรงพยาบาลและขับไล่ชนคน ซึ่งก่อนหน้าก็ได้ขับรถชน จยย.มาแล้ว 2 คัน ทำให้มีคนบาดเจ็บ 3 คน ขณะนี้ คนร้ายได้ลงจากรถหลบหนีเข้าไปในป่าข้างโรงพยาบาล
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ไล่ตาม เพื่อจับตัวคนร้ายทราบชื่อภายหลังว่า นายพิบูลย์ ราชาธรรมกุล อายุ 40 ปี เป็นคนอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้เช่ารถคันดังกล่าวมาจากเต้นท์เช่ารถในสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี แล้วได้แวะซื้อน้ำมันใส่แกนลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตรจำนวน 2 ถัง เพื่อบรรจุน้ำมันใส่ถุงพลาสติกนำไปโยนใส่เตียงคนไข้ในที่ชั้น 3 ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม แล้วจุดไฟเผา เพื่อระบายความเครียด
ระหว่างนั้น มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพยายามนำถังดับเพลิงเคมีมาดับไฟที่กำลังลุกไหม้ จึงได้ใช้ปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่ 1 นัด แต่ไม่ถูกใคร ก่อนขับรถหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ก่อนมาก่อเหตุขับรถไล่ชนคนตามรายทางที่จะกลับเข้าตัวจังหวัดอุบลราชธานี จนมาถูกจับได้
ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้รุดเข้ามาสอบสวนผู้ต้องหาในสถานีตำรวจเดชอุดม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ถูกโกงเงินค่าขายที่ดินมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทเศษ ทำให้สติแตก และเครียดจากเรื่องดังกล่าว จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการประชดสังคม โดยไม่มีจุดหมายว่าต้องมาวางเพลิงที่ใด ทำอย่างสะเปะสะปะ ขอเพียงได้ระบายความเครียด ส่วนการขับรถไล่ชนคนก็เช่นกัน ต้องการประชดและระบายความเครียดเช่นกัน
เบื้องต้นจากการสอบสวนได้แจ้งข้อหาวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ มีอาวุธปืนอยู่ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนพยายามฆ่าผู้อื่น ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นฯลฯ นำตัวเข้าห้องควบคุม เพื่อรอการนำตัวส่งไปฝากขังต่อศาลจังหวัดต่อไป