ไม่เผาศพลูกเหยื่อ'ห้องฉุกเฉิน'ปิด รพ.ขอรับผิดทุกกรณี
พ่อแม่ลั่น !ไม่เผาศพลูก เหยื่อ “ห้องฉุกเฉินรพ.ปิด”จนกว่าจะได้รับการเยียวยา แถมตร.ทำแปลกไม่ยอมรับแจ้งตาย ด้าน ผอ.แถลงยอมรับผิด แจงคาดสื่อสารผิดเตรียมสอบลงโทษลูกน้อง
เสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2561 เวลา 17.44 น.
จากกรณีเกิดกระแสวิจารณ์ หลังสมาชิกเฟซบุ๊ก "Marut Khunmee" ออกมาเปิดเผยอ้างว่า น้องกวาง หลานชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิตเนื่องจากท้องเสียและมีไข้สูง เหตุนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจ.สระแก้ว แต่ห้องฉุกเฉินปิดทำการ ต้องรอหลายขั่วโมง สุดท้ายเด็กตาเหลือกช่วยไม่ทันเสียชีวิตรุ่งเช้า ต่อมาทางโรงพยาบาลแจ้งว่ายินดีจ่ายเงิน 4แสนบาท เพื่อเยียวยาเบื้องต้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 5 พ.ค. นพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นพ.ภูวดลกิตติวัฒนาสาร ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว น.พ.สมคิด ยึนประโคน รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชฯ นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจังหวัดสระแก้ว และนายพรชัย ทัดละมัย น.ส.สุพรรษา สีชมภู พ่อแม่น้องกวาง ผู้เสียชีวิต พร้อมญาติๆ ร่วมประชุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ห้องประชุมชั้น3 รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยนพ.อภิรัต กล่าวว่า ได้เชิญทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันแถลงข่าว ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้วพบว่าเกิดความผิดพลาดจริงกับกรณีดังกล่าว ของระบบการสื่อสารของโรงพยาบาลฯซึ่งความเป็นจริงตึกอุบัติเหตุไม่มีการปิดทำการอยู่แล้วจะต้องสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นกราบขออภัยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซึ่งนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผวจ.สระแก้ว ก็ได้ทราบเรื่องและกำชับมาให้ดำเนินการแก้ไขดูแลผู้เสียหายให้ดีที่สุด
ด้าน นพ.ภูวดล ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว กล่าวว่า น้องกวาง อายุ 1 ขวบ มารดาพามาตรวจที่รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้วที่ห้องฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลา 14.00 น. ด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น อาเจียน และถ่ายท้องตรวจพบไข้ 40 องศา ชีพจร 110 ครั้งต่อนาที เด็กรู้สึกตัวและตื่นดี แพทย์วินิจฉัยว่า ลำไส้อักเสบให้การดูแลรักษาก่อนให้กลับไปรักษาต่อที่บ้าน ต่อมาวันที่ 4 พ.ค. เวลาประมาณ 6.13 น.มารดาพาผู้ป่วยมาที่ห้องฉุกเฉินแล้วพบพนักงานที่หน้าห้องฉุกเฉินได้พูดคุยกับมารดา ซึ่งทำให้เข้าใจว่าห้องฉุกเฉินปิดบริการ และเปิดบริการอีกครั้งตอน 07.00 น.มารดาจึงอุ้มลูกไปรับบริการที่ตึกผู้ป่วยนอก มารดาเห็นว่าลูกไม่ดีขึ้นจึงพามาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน พบว่าเด็กตัวเขียว แพทย์และเจ้าหน้าที่จึงทำการช่วยเหลือ โดยเด็กมีอาการหัวใจหยุดเต้นและช่วยฟื้นคืนชีพ ซึ่งฟื้นมาเป็นช่วงๆทำการช่วยฟื้นคืนชีพทั้งหมด 3 ครั้ง จนเสียชีวิตในเวลา 09.35 น. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจอย่างมาก และน้อมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยสามารถไปที่ห้องฉุกเฉินได้เลย ส่วนเรื่องการทำบัตรประวัติก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเนื่องจากเป็นเรื่องการสื่อสารระบบที่ผิดพลาดไปและจะนำข้อผิดพลาดดังกล่าวไปแก้ไขส่วนการเอาผิดลงโทษกับ เจ้าหน้าที่แผนก ฉุกเฉินจะสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดก็จะลงโทษตามขั้นตอนระเบียบราชการอย่างแน่นอน
ขณะที่นายพรชัย ทัดละมัย และ น.ส.สุพรรษา สีชมภู พ่อและญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จะไปแจ้งความแต่ตำรวจไม่รับแจ้งความนั้นยังคาใจอยู่ตั้งแต่น้องเสียชีวิต แต่วันนี้กลับให้ตำรวจไปติดต่อให้มาแจ้งความเกิดอะไรขึ้นญาติไม่เข้าใจ แล้วญาติๆได้ปรึกษากันแล้วว่าจะยังไม่ทำการเผาร่างของน้องจนกว่าจะได้รับการเยียวยา ซึ่งขณะนี้มีเพียงพวงหรีดพวงเดียวตั้งแต่เกิดเรื่องโดยจะเก็บศพใส่โลงตั้งไว้ในบ้านไม่ทำการเผาจนกว่าจะได้รับการเยียวยาและมีหลักฐานเอกสารให้มั่นใจก่อน....
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/regional/641843
[เดลินิวส์] ไม่เผาศพลูกเหยื่อ'ห้องฉุกเฉิน'ปิด รพ.ขอรับผิดทุกกรณี
พ่อแม่ลั่น !ไม่เผาศพลูก เหยื่อ “ห้องฉุกเฉินรพ.ปิด”จนกว่าจะได้รับการเยียวยา แถมตร.ทำแปลกไม่ยอมรับแจ้งตาย ด้าน ผอ.แถลงยอมรับผิด แจงคาดสื่อสารผิดเตรียมสอบลงโทษลูกน้อง
เสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2561 เวลา 17.44 น.
จากกรณีเกิดกระแสวิจารณ์ หลังสมาชิกเฟซบุ๊ก "Marut Khunmee" ออกมาเปิดเผยอ้างว่า น้องกวาง หลานชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิตเนื่องจากท้องเสียและมีไข้สูง เหตุนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจ.สระแก้ว แต่ห้องฉุกเฉินปิดทำการ ต้องรอหลายขั่วโมง สุดท้ายเด็กตาเหลือกช่วยไม่ทันเสียชีวิตรุ่งเช้า ต่อมาทางโรงพยาบาลแจ้งว่ายินดีจ่ายเงิน 4แสนบาท เพื่อเยียวยาเบื้องต้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 5 พ.ค. นพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นพ.ภูวดลกิตติวัฒนาสาร ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว น.พ.สมคิด ยึนประโคน รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชฯ นายสมชาย แก้วสุทธิ นายกสมาคมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจังหวัดสระแก้ว และนายพรชัย ทัดละมัย น.ส.สุพรรษา สีชมภู พ่อแม่น้องกวาง ผู้เสียชีวิต พร้อมญาติๆ ร่วมประชุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ห้องประชุมชั้น3 รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยนพ.อภิรัต กล่าวว่า ได้เชิญทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันแถลงข่าว ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้วพบว่าเกิดความผิดพลาดจริงกับกรณีดังกล่าว ของระบบการสื่อสารของโรงพยาบาลฯซึ่งความเป็นจริงตึกอุบัติเหตุไม่มีการปิดทำการอยู่แล้วจะต้องสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นกราบขออภัยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซึ่งนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผวจ.สระแก้ว ก็ได้ทราบเรื่องและกำชับมาให้ดำเนินการแก้ไขดูแลผู้เสียหายให้ดีที่สุด
ด้าน นพ.ภูวดล ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว กล่าวว่า น้องกวาง อายุ 1 ขวบ มารดาพามาตรวจที่รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้วที่ห้องฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลา 14.00 น. ด้วยอาการไข้สูง หนาวสั่น อาเจียน และถ่ายท้องตรวจพบไข้ 40 องศา ชีพจร 110 ครั้งต่อนาที เด็กรู้สึกตัวและตื่นดี แพทย์วินิจฉัยว่า ลำไส้อักเสบให้การดูแลรักษาก่อนให้กลับไปรักษาต่อที่บ้าน ต่อมาวันที่ 4 พ.ค. เวลาประมาณ 6.13 น.มารดาพาผู้ป่วยมาที่ห้องฉุกเฉินแล้วพบพนักงานที่หน้าห้องฉุกเฉินได้พูดคุยกับมารดา ซึ่งทำให้เข้าใจว่าห้องฉุกเฉินปิดบริการ และเปิดบริการอีกครั้งตอน 07.00 น.มารดาจึงอุ้มลูกไปรับบริการที่ตึกผู้ป่วยนอก มารดาเห็นว่าลูกไม่ดีขึ้นจึงพามาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน พบว่าเด็กตัวเขียว แพทย์และเจ้าหน้าที่จึงทำการช่วยเหลือ โดยเด็กมีอาการหัวใจหยุดเต้นและช่วยฟื้นคืนชีพ ซึ่งฟื้นมาเป็นช่วงๆทำการช่วยฟื้นคืนชีพทั้งหมด 3 ครั้ง จนเสียชีวิตในเวลา 09.35 น. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจอย่างมาก และน้อมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยสามารถไปที่ห้องฉุกเฉินได้เลย ส่วนเรื่องการทำบัตรประวัติก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเนื่องจากเป็นเรื่องการสื่อสารระบบที่ผิดพลาดไปและจะนำข้อผิดพลาดดังกล่าวไปแก้ไขส่วนการเอาผิดลงโทษกับ เจ้าหน้าที่แผนก ฉุกเฉินจะสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดก็จะลงโทษตามขั้นตอนระเบียบราชการอย่างแน่นอน
ขณะที่นายพรชัย ทัดละมัย และ น.ส.สุพรรษา สีชมภู พ่อและญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จะไปแจ้งความแต่ตำรวจไม่รับแจ้งความนั้นยังคาใจอยู่ตั้งแต่น้องเสียชีวิต แต่วันนี้กลับให้ตำรวจไปติดต่อให้มาแจ้งความเกิดอะไรขึ้นญาติไม่เข้าใจ แล้วญาติๆได้ปรึกษากันแล้วว่าจะยังไม่ทำการเผาร่างของน้องจนกว่าจะได้รับการเยียวยา ซึ่งขณะนี้มีเพียงพวงหรีดพวงเดียวตั้งแต่เกิดเรื่องโดยจะเก็บศพใส่โลงตั้งไว้ในบ้านไม่ทำการเผาจนกว่าจะได้รับการเยียวยาและมีหลักฐานเอกสารให้มั่นใจก่อน....
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/regional/641843