Steins;Gate หรือชื่อไทย ฝ่าวิกฤตพิชิตกาลเวลา เป็นอนิเมะแนว Sci-Fi เก่าที่ผมเคยดูทางทีวีประมาณช่วง ม.4 เมื่อสักสิบกว่าปีก่อนได้ หากพูดถึงความรู้สึกที่ได้ดูตอนนั้นจำได้แม่นเลยคือมัน เพลีย ครับ เป็นอนิเมะที่ดูแล้วให้บรรยากาศหน้าร้อนช่วงบ่ายๆ พร้อมกับเสียงพัดลม และเสียงจักจั่น ซึ่งเพิ่มความรู้สึกอ่อนล้าปนง่วง หิวน้ำ ละก็ดันเป็นเรื่องที่ผมเปิดมาเจอบ่อยซะด้วย แต่เพราะดูทางทีวีเลยไม่ปะติดปะต่อนัก ถึงอย่างนั้นก็พอจำเรื่องราวได้อยู่ ผ่านมาหลายปีได้มีโอกาสดูจนจบอีกครั้งช่วงมันมาลง Netflix ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมเลยคือมันดูแล้วเหนื่อย แต่ถ้าทนดูความสโลว์เบิร์นในช่วงแรกไปได้หลังจากนั้นคือสนุกเข้มข้นขึ้น แม้จะล้าแค่ไหนก็ตาม
โดยวันนี้จะไม่มาพูดถึงเนื้อหา แต่จะพูดถึงว่าเรื่องนี้เค้าใช้เทคนิคอะไรในการนำเสนอ Mood & Tone ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งนั่นคืองานภาพของเรื่องนี้ใช้แสงกับเงาได้คุ้ม มุมของแสงที่มาจากด้านบน และสาดลงมา มันช่างจ้าซะเหลือเกิน! อย่างที่บอกคือมันให้ความรู้สึกเหมือนช่วงที่ร้อนสุดของวัน
มีการคุมโทนที่เน้นสีเทาๆ เป็นหลัก ให้ความรู้สึกขาดชีวิตชีวา ดูเหนื่อยๆ
ชอบใช้มุมภาพแบบย้อนแสง
เน้นเงาที่ตกกระทบกับวัตถุ
มีการบล็อกกิ้ง วางองค์ประกอบภาพแบบหนัง มีการจัดตำแหน่งแทบทุกฉาก
โดยเฉพาะฉากในห้องก็มีการจัดแสงอย่างสวย
ซึ่งทั้งหมดนี้มีประโยชน์ต่อการสร้างความรู้สึกร่วมของคนดูกับตัวละครเป็นอย่างมาก ไม่ว่าความเครียด ความกังวลสับสน ความเหนื่อยล้า ความเพลีย ของการพยายามแก้ปัญหาที่ไม่สามารถหาผลลัพธ์ที่ถูกต้องได้สักที แถมบางครั้งบรรยากาศแบบนี้ก็มีความโรแมนติกได้ด้วย ซึ่งนี่ก็คือเสน่ห์ของอนิเมะเรื่องนี้
บรรยากาศในอนิเมะ Steins;Gate ทำให้คนดูรู้สึกเหนื่อยล้า และอินไปกับอารมณ์ของเรื่องได้อย่างดี
โดยวันนี้จะไม่มาพูดถึงเนื้อหา แต่จะพูดถึงว่าเรื่องนี้เค้าใช้เทคนิคอะไรในการนำเสนอ Mood & Tone ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งนั่นคืองานภาพของเรื่องนี้ใช้แสงกับเงาได้คุ้ม มุมของแสงที่มาจากด้านบน และสาดลงมา มันช่างจ้าซะเหลือเกิน! อย่างที่บอกคือมันให้ความรู้สึกเหมือนช่วงที่ร้อนสุดของวัน
มีการคุมโทนที่เน้นสีเทาๆ เป็นหลัก ให้ความรู้สึกขาดชีวิตชีวา ดูเหนื่อยๆ
ชอบใช้มุมภาพแบบย้อนแสง
เน้นเงาที่ตกกระทบกับวัตถุ
มีการบล็อกกิ้ง วางองค์ประกอบภาพแบบหนัง มีการจัดตำแหน่งแทบทุกฉาก
โดยเฉพาะฉากในห้องก็มีการจัดแสงอย่างสวย
ซึ่งทั้งหมดนี้มีประโยชน์ต่อการสร้างความรู้สึกร่วมของคนดูกับตัวละครเป็นอย่างมาก ไม่ว่าความเครียด ความกังวลสับสน ความเหนื่อยล้า ความเพลีย ของการพยายามแก้ปัญหาที่ไม่สามารถหาผลลัพธ์ที่ถูกต้องได้สักที แถมบางครั้งบรรยากาศแบบนี้ก็มีความโรแมนติกได้ด้วย ซึ่งนี่ก็คือเสน่ห์ของอนิเมะเรื่องนี้