ที่รถไฟ 3 สนามบินเกิดช้า บางทีรถไฟความเร็วสูงอาจจะยังเร็วเกินไปสำหรับบ้านเรา เปลี่ยนแผนต่อไปฟิวเจอร์ฯก่อนก็ดี

หลายคนก็มุ่งหวังว่า รถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินจะต้องเกิดขึ้นให้เร็วเพื่อขนส่งคนจากกรุงเทพไปยังภาคตะวันออกด้วยเวลาอันรวดเร็ว สร้างเสร็จแล้วต้องมีผู้โดยสารใช้บริการมากมายแน่นอน
  
  แต่เมื่อเราดูจริงๆ การใช้บริการรถสาธารณะแต่ละประเภท ตั้งแต่รถบัส รถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง จะมีลำดับขั้นตอนในการเติบโตเป็นขั้นๆ

  ในกรุงเทพ ก่อนที่จะสร้างรถไฟฟ้า คนก็ใช้รถเมล์กันเยอะแล้ว เจอปัญหารถติดหนัก อยากเดินทางให้ที่หมายให้เร็วกว่านี้ รถไฟฟ้าจึงเกิด และมีผู้ใช้บริการมาก

  รถไฟฟ้าหลายสายในกรุงเทพจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างตอบโจทย์การเดินทางแทนรถเมล์ได้ในเรื่องของจุดลงรถจะอยู่ไม่ไกลกัน จะขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน หรือรถเมล์ไปทำงาน ก็เดินเข้าที่ทำงานไม่ยาก ให้สังเกตดูว่า ระยะห่างของสถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพส่วนมากไม่ต่างจากระยะห่างของป้ายรถเมล์ ระยะห่าง 1 สถานีรถไฟฟ้า จะอยู่ประมาณ 3 ป้ายรถเมล์ หรือแค่ 2 ป้ายรถเมล์ ทำให้คนพอมีเงินส่วนมากเลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่หมาย เพราะสถานีรถไฟฟ้าที่ตัวเองลงรถก็ใกล้ๆกับที่ทำงาน ไม่ค่อยต่างจากการลงป้ายรถเมล์ แต่รถไฟฟ้าเดินทางถึงเร็วกว่า นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานดีกว่า ใครโชคดี รถไฟฟ้าก็จอดหน้าที่ทำงานเลย แต่บางคน สถานีรถไฟฟ้าก็อาจจะอยู่ห่างที่ทำงานไปหน่อย ก็ต้องเดินบ้าง แต่หลายคนก็เลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้า แล้วเดินอีกหน่อยเพื่อถึงที่ทำงาน แต่ก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เลือกนั่งรถเมล์ ด้วยราคาที่ถูกกว่า หรือป้ายรถเมล์ที่ตัวเองลงจากรถ สะดวกต่อการเดินเข้าที่ทำงานมากกว่า

  รถไฟความเร็วสูง ก็ควรจะเป็นการเดินทางในขั้นที่ถัดจากรถไฟธรรมดา คือเราต้องบริหารจัดการรถไฟทางคู่ความเร็ว 120-160 km/h ชั่วโมงให้ดีก่อน ให้รถไฟตรงเวลา เดินทางรวดเร็ว มีรถไฟธรรมดาด่วนพิเศษที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารแบบเมืองต่อเมือง เช่น จากกรุงเทพ ไปอยุธยา จากอยุธยาไปสระบุรี จากสระบุรีไปปากช่อง จากปากช่องไปโคราช โดยไม่ต้องรับจอดตามสถานีเล็กๆของเมืองนั้น 

  เมื่อรถไฟธรรมดาด่วนพิเศษวิ่งรับส่งผู้โดยสารเฉพาะเมืองใหญ่จนมีผู้ใช้บริการมากแล้ว คนชอบเดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษเยอะแล้ว เราค่อยขยับไปทำรถไฟความเร็วสูง ซึ่งทำให้การให้บริการของรถไฟความเร็วสูงเติบโตได้อย่างมั่นคง เพราะ demand ความต้องการใช้บริการยานพาหนะแบบรถไฟด่วนพิเศษที่มีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงรถไฟความเร็วสูงไดัเติบโตมาแล้ว คนเริ่มคุ้นชินกับการเดินทางลักษณะนี้แล้ว ช่วยให้รถไฟความเร็วสูงได้ลูกค้าจำนวนมาก ใครที่ฐานะการเงินดีก็นั่งรถไฟความเร็วสูง หรือคนฐานะพอกินพอใช้แต่มีเหตุต้องจำเป็นเร่งด่วนต้องทำธุระในช่วงเส้นทางจังหวัดที่มีรถไฟความเร็วสูง ก็จะมาใช้บริการถไฟความเร็วสูงแทนรถไฟธรรมดา

   ที่รถไฟไทยจีนสายกรุงเทพ-โคราชสร้างเสร็จช้าๆก็เป็นเรื่องดีเรื่องนึง รอให้คนไปใช้บริการรถไฟธรรมดาด่วนพิเศษแบบทางคู่สายกรุงเทพ-โคราชให้เยอะๆก่อนซักพักใหญ่ รถไฟวิ่งจอดรับตามสถานีใหญ่ๆคล้ายรถไฟความเร็วสูง เดี๋ยวรถไฟความเร็วสูงไทยจีนก็จะโตไปเองอย่างมั่นคง 

  ถ้าต้องการให้รถไฟ 3 สนามบินเติบโตอย่างมั่นคง ก็ควรให้บริการรถไฟทางคู่สายตะวันออกอย่างสมบูรณ์แบบก่อน มีรถด่วนพิเศษที่จอดรับตามสถานีใหญ่ๆจนมีผู้ใช้บริการมากแล้ว ก็จะช่วยให้รถไฟ 3 สนามบินมีผู้ใช้บริการมากไปด้วย 

  เวลานี้เอาจริงๆยังเร็วไปสำหรับรถไฟ 3 สนามบิน ถามว่าถ้ารถไฟ 3 เปิดให้บริการเร็วๆนี้ จะมีผู้โดยสารมั้ย ก็คงมีในระดับนึง แต่สู้กับการที่ให้รถไฟทางคู่สายตะวันออกเติบโตอย่างสมบูรณ์มาก่อนไม่ได้หรอก ให้รถไฟทางคู่สายตะวันออกสมบูรณ์แบบก่อน คนนิยมใช้รถไฟด่วนพิเศษสายตะวันออกที่วิ่งด้วยความเร็ว 120-160 km/h ได้ซักพักนึงแล้ว ค่อยให้บริการรถไฟความเร็วสูงความเร็ว 250 km/h

  น่าจะวางแผนอย่างนี้ว่า ทำทางคู่สายตะวันออกให้สมบูรณ์มีระบบปิดถึงระยอง ให้มีรถไฟด่วนพิเศษสายตะวันออกวิ่งวันละ 5 รอบต่อวัน พอรถไฟ 3 สนามบินเสร็จ ก็ให้รถไฟ 3 สนามบินวิ่งซัก 5-6 รอบต่อวัน หรือมากกว่านี้ก็ได้ ตามความต้องการของผู้ใช้บริการ ส่วนรถไฟธรรมดาด่วนพิเศษจะเหลือวิ่งแค่ 1-2 รอบต่อวัน รอบเช้าเย็นอะไรอย่างนี้

   ที่ผ่านมา สายตะวันออกก็มีรถไฟให้บริการส่งถึงพัทยาอยู่ แต่การบริการแย่มาก ช้าและไม่ตรงเวลา คนจึงหันไปใช้บริการรถบัสหมด ถ้าทำให้รถไฟตรงเวลาและเดินทางรวดเร็วกว่ารถบัส คนหันมาใช้รถไฟมากแน่

   ให้สังเกตดูรถโดยสารสายกรุงเทพ-พัทยา จะมีรถจากกรุงเทพที่มุ่งสู่พัทยาเยอะมาก หลายจุดในกรุงเทพ ขนส่งหมอชิต ขนส่งเอกมัย ขนส่งสายใต้ ขนส่งรังสิต ขนส่งสุวรรณภูมิ รถจะออกจากขนส่งทุกวัน ห่างกันรอบละ 1-2 ชั่วโมง แต่รถไฟสายตะวันออกจะให้บริการเดินทางไปพัทยา แค่วันเสาร์-อาทิตย์ วันละ 1 รอบ แสดงว่าการให้บริการของรถไฟกับรถบัสห่างชั้นมาก คนหนีเที่ยวจากรถไฟมาขึ้นรถตู้และรถบัสกันหมด ทั้งที่ถ้าทำรถไฟให้ดีๆ คนก็ต้องหันมาใช้รถไฟกันมากกว่ารถบัส เหมือนในกรุงเทพที่คนเปลี่ยนจากรถเมล์มาใช้รถไฟฟ้ากันมาก

  ทางคู่สายตะวันออกควรเริ่มต้นที่ลาดกระบังไปจนถึงระยอง เพราะมีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์มาส่งถึงตรงนี้อยู่แล้ว เฟส 2 หัวหมาก-ลาดกระบัง เฟส 3 บางซื่อ-หัวหมาก

    จริงๆแล้ว ถ้ารถไฟทางคู่สายตะวันออกทำมาอย่างดีเป็น 10 ปีก่อนที่จะประมูลรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน ตอนที่ประมูลรถไฟ 3 สนามบินก็คงจะมีคู่แข่งประมูลมากกว่านี้ เอกชนสามารถเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้รัฐได้มากกว่านั เพราะมีผู้ใช้บริการยานพาหนะลักษณะนี้มาก่อนแล้ว เห็น demand การเติบโตง่ายกว่า

  การทำสถานีรถไฟสายตะวันออกก็น่าจะทำแบบรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ นึกถึงสถานีมักกะสันกับหัวหมาก ที่ในตัวสถานีจะมี 4 เลน ไว้รอหลีกรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ด่วนพิเศษที่วิ่งด่วนตั้งแต่มักกะสันตรงถึงสุวรรณภูมิได้สะดวก สายสีแดงอ่อนบางสถานีก็อาจจะต้องมี 4 เลนไว้รอหลีกรถไฟด่วนพิเศษที่จอดเฉพาะจังหวัดต่อจังหวัดหรือเฉพาะสถานีใหญ่ของจังหวัดนั้นๆ

  ความจริงแล้ว ถ้าจะทำรถไฟ 3 สนามบินให้คุ้มแบบไม่นึกถึงสัญญาที่ทำกับภาครัฐ ก็เร่งทำตรงพญาไทไปบางซื่อ แล้วก็ทำเส้นทางบางซื่อ-ดอนเมือง-ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ลงทุนสร้างจากดอนเมืองไปฟิวเจอร์พาร์ครังสิตก็ดี เพราะคนต้องการให้มีรถไฟฟ้าอยู่หน้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตกันมาก จากดอนเมืองไปฟิวเจอร์พาร์ครังสิตนั้นให้สร้างแบบลงรถไฟใต้ดิน เพราะพื้นที่ถนนสายนี้ปักเสายาก มีสะพานอะไรเยอะแล้ว ควรสร้างลงใต้ดินตั้งแต่ดอนเมืองจนถึงฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และจะให้มีสถานีเซียร์รังสิตมาอยู่ระหว่างกลางด้วยยิ่งดี  ตรงนี้เป็นห้างสรรพสินค้า ที่ผ่านมาคนก็ไปเดินห้างนี้เยอะอยู่ หรือจะตัดสถานีตรงเซียร์รังสิตก็ได้ ต้องพิจารณาความคุ้มค่าก่อนแล้วจึงทำ 

    ถ้าจะทำรถไฟความเร็วสูงจากสุวรรณภูมิมาอู่ตะเภา ควรรอให้สายสีแดงอ่อนครอบคลุมเขต eec และเปิดใช้บริการจนได้ลูกค้าเยอะแลัว ค่อยสร้างจากสุวรรณภูมิมาอู่ตะเภา
 อย่างนี้จะเกิดความคุ้มค่ามากกว่ารีบสร้างรถไฟความเร็วสูงจากสุวรรณภูมิมาอู่ตะเภาโดยตรง ต้องวางแผนให้ดีเพื่อให้เกิดความค้มค่ามากที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่