JJNY : ปชน.ชู‘สุพจน์’พร้อมแก้ปัญหาให้ชาวมุกดาหาร│ชาวบ้านบ่นอุบ คนจีนจุดพลุ│อากาศเย็นกำลังอ่อนลง│ศาลสหรัฐเบรกคำสั่งทรัมป์

ชน.ปลุกกาเพื่อเปลี่ยน เลือกนายก อบจ.- ส.อบจ.ยกทีม ชู ‘สุพจน์’ พร้อมแก้ปัญหาให้ชาวมุกดาหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_5022175
 
 
 
ปชน.ปราศรัยใหญ่ อบจ.มุกดาหาร ปลุกชาวมุกกาเพื่อเปลี่ยน เลือกนายก อบจ.- ส.อบจ.พรรคประชาชนยกทีม บริหารงบ 1,300 ล้านยกระดับคุณภาพชีวิต ลั่น อบจ. ไม่ใช่ลูกน้องรัฐบาล ถึงเวลาปักหมุดการเมืองท้องถิ่นแบบใหม่เอาชนะใจประชาชนด้วยนโยบาย   

เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ว่าการอำเภอเมืองมุกดาหาร พรรคประชาชนเปิดเวทีปราศรัยรณรงค์การเลือกตั้ง อบจ.มุกดาหาร ซึ่งพรรคประชาชนส่ง นายสุพจน์ สุอริยพงษ์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.มุกดาหาร เบอร์ 1 พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.อบจ. 24 เขต โดยมีทั้งแกนนำ ส.ส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมการปราศรัยและพบปะประชาชนในวันนี้อย่างคับคั่ง
 
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้มาที่มุกดาหารหลายครั้งเพื่อมาดูงานและศึกษาปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบการแพทย์ทางไกล ปัญหาน้ำเพื่อการเกษตร ปัญหาที่ดิน ปัญหาการค้าชายแดน และยังมีอีกหลายเรื่องที่รอการตัดสินใจของชาวมุกดาหารว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตของลูกหลาน ซึ่งตนมั่นใจอย่างยิ่งว่าทุกนโยบาย สุพจน์และทีม ส.อบจ. ของพรรคประชาชนจะเข้าไปผลักดันจนเป็นผลสำเร็จได้
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ตนมั่นใจเพราะตอนนี้พรรคประชาชน เป็นพรรคเดียวในสภาฯ ที่เสนอกฎหมายเปลี่ยนประเทศมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดิน การกระจายอำนาจ การศึกษา การปฏิรูปกองทัพยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร แต่อีกหลายปัญหาลำพังการทำงานในสภาไม่เพียงพอ เช่น แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เป็นปัญหาที่หลายคนมองว่าเกิดขึ้นจากการอยู่นอกพื้นที่ชลประทานซึ่งต้องรองบประมาณจากกรมชลประทานลงมา แต่สำหรับตนแล้วไม่ใช่ กว่ากรมชลประทานจะของบแล้วสร้างเสร็จต้องใช้เวลาหลายปี แต่กลไกที่แก้ไขปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรได้เลยคือนายก อบจ.
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล มาจนเป็นพรรคประชาชน สิ่งหนึ่งที่พวกเราสื่อสารอย่างชัดเจนมาโดยตลอดก็คือพวกเราตั้งใจเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้ประชาชนทุกคน การชนะการเลือกตั้ง การได้ตำแหน่ง นายก อบจ. ส.อบจ. หรือ ส.ส. ในสภา เป็นเพียงเครื่องมือที่ทำให้เรามีอำนาจสร้างการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้ และเราต้องการทำงานการเมืองระยะยาว มีความสม่ำเสมอ คงเส้นคงวา มั่นคงในเป้าหมายในหลักการ
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายสุพจน์คือคนที่มีคุณสมบัติครบทุกด้านข้างต้น ทำงานรับใช้ประชาชนมาโดยตลอด มีประสบการณ์ทำงานตรงในฝ่ายบริหารของ อปท. มาก่อน มีความมั่นคง ยึดหลักการตรงไปตรงมา เมื่อครั้งสมัยคณะก้าวหน้า ชาวมุกดาหารมอบความไว้วางใจให้เป็นอันดับ 3 ต่อมาการเลือกตั้งปี 2566 นายสุพจน์ได้ลงเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกลในเขต 1 ซึ่งชาวมุกดาหารได้มอบความไว้วางใจให้เป็นอันดับ 2 แต่จะแพ้กี่สนามสุพจน์ก็ไม่เคยท้อถอย ถือเป็นความพ่ายแพ้เล็กๆ แต่เป้าหมายนั้นยิ่งใหญ่กว่า คนแบบนี้คือคนที่จะเข้ามาเป็นผู้แทน เป็นปากเสียงแก้ไขปัญหาให้ชาวมุกดาหารได้จริงๆ
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกทั้ง อบจ. และ ส.อบจ. โดยหน้าที่ของ ส.อบจ. ที่สำคัญคือการผ่านงบประมาณในสภา อบจ. นั่นเท่ากับว่านายก อบจ. ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ แต่ต้องใช้คนที่ผลักดันนโยบายร่วมกันไปในทิศทางเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้นจึงต้องกาพรรคประชาชนทั้งสองใบ
 
การเลือกตั้งสี่วันต่อจากนี้ ปากกาในมือของทุกคนมีมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท หรือก็คืองบประมาณของ อบจ.มุกดาหาร 4 ปีต่อจากนี้ การตัดสินใจกาของทุกท่านจะเป็นการตัดสินใจว่าเงินภาษีของทุกคนจะถูกใช้จ่ายอย่างไร ไม่มีใครสามารถปกป้องเงินภาษีของทุกท่านได้นอกจากประชาชนทุกคน ช่วยกันเปลี่ยนมุกดาหารให้เป็นบ้านแห่งความสุขสำหรับทุกคนไปด้วยกัน” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าในฐานะผู้ช่วยหาเสียง กล่าวว่า ประชาธิปไตยคืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ประชาชนไม่ได้มีอำนาจแค่ช่วงหย่อนบัตรเลือกตั้ง แต่ยังสามารถตรวจสอบ เรียกร้อง วิจารณ์ ถอดถอนนักการเมืองได้ ไม่ใช่ยกอำนาจให้นักการเมืองไปทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ประชาธิปไตยจึงไม่ใช่ “คณาธิปไตย” ที่คนกลุ่มหนึ่งเอาอำนาจสูงสุดของประชาชนไปใช้กันเองให้เป็นประโยชน์แก่พวกพ้อง แบ่งสันปันส่วนในครอบครัวตัวเอง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นอกจากเป็นการเลือกคนมาบริหารงบประมาณของ อบจ.มุกดาหาร เพื่อนำมาจัดทำบริการสาธารณะที่เกิดประโยชน์สูงสุดคืนแก่คนมุกดาหาร ยังเป็นโอกาสที่คนมุกดาหารจะได้เลือกระหว่างการเมืองท้องถิ่นแบบเดิมกับแบบใหม่ การเมืองท้องถิ่นแบบเดิมคือการเมืองท้องถิ่นของครอบครัว ซึ่งอาจจะดี ประสบความสำเร็จในบางช่วงเวลา แต่วันนี้พรรคประชาชนกำลังเสนอทางเลือกใหม่ คือการเมืองท้องถิ่นของประชาชนคนมุกดาหาร
 
การเมืองคือเรื่องของคนทุกคน คือการตัดสินใจว่าจะเอาเงินของเราไปทำอะไรเพื่อสร้างสวัสดิการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การเมืองสำคัญขนาดนี้ เราจึงไม่สามารถอนุญาตให้การเมืองกลายเป็นเรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ไม่ใช่วันนี้สามีเป็น พรุ่งนี้ภรรยาเป็น วันหนึ่งส่งให้น้อง วันหนึ่งส่งให้พี่ ส่งให้ลูก ส่งให้หลานเป็น การเมืองท้องถิ่นแบบนี้ถึงเวลาต้องจบได้แล้ว ถึงเวลาที่การเมืองต้องเอาชนะใจประชาชนกันที่นโยบาย ไม่ใช่เมื่อต้องการได้คะแนนเสียง ก็มุ่งสร้างอิทธิพลผ่านเครือข่ายกลไกรัฐ ผ่านอิทธิพลเงินทอง
 
แม้มีนักการเมืองคนไหนเอาเงินมาแจก วันหนึ่งเมื่อได้อำนาจรัฐเขาคงจะเอาคืนแน่ จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเราเปลี่ยนมาดูที่นโยบาย ถ้ามุกดาหารมีน้ำประปาสะอาดดื่มได้ทั่วทั้งจังหวัด จะมีคุณค่ามากกว่าเงินที่ใช้แล้วหมดไปแน่นอน
 
บางพรรคการเมืองมีผู้ช่วยหาเสียงกิตติมศักดิ์ พรรคการเมืองเหล่านั้นส่งผู้สมัคร อบจ. หลายที่ภายใต้แคมเปญที่ต้องการให้นายก อบจ. เป็นพวกเดียวกับเขา เพื่อจะได้ประสานงานแบบไร้รอยต่อ นี่คือวิธีคิดที่มององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นลูกน้องของรัฐบาล แต่ตนต้องยืนยันว่าที่นี่ อบจ. มุกดาหาร ไม่ใช่กระทรวงมุกดาหารของรัฐบาล การกระจายอำนาจตามหลักการ รัฐบาลควรทำหน้าที่สนับสนุนส่งเสริม ไม่ใช่บังคับบัญชาสั่งการ เพราะ อบจ. มีความเป็นอิสระทางอำนาจ งบประมาณ บุคลากร ไม่ใช่ลูกน้องรัฐบาล ไม่ใช่กลไกเหมือนกระทรวง อบจ.มุกดาหาร เลือกโดยคนมุกดาหารและจะทำงานให้คนมุกดาหาร  แผ่นดินอีสานมีประวัติศาสตร์การต่อสู้ ความเจริญต่างๆ ในอดีตหลายร้อยปีเคยอยู่ที่นี่ แต่แล้วมีช่วงเวลาหนึ่งที่ถูกดึงอำนาจไปไว้ส่วนกลาง ถึงเวลาต้องทวงคืนอำนาจกลับมาที่มุกดาหาร
 
1 กุมภาพันธ์ถือเป็นหมุดหมายเริ่มต้นทวงคืนอำนาจกลับมาไว้ที่มุกดาหาร ถ้าพี่น้องต้องการเห็นมุกดาหารแบบใหม่ เห็นเงินภาษีเอาไปใช้อย่างคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เห็นการบริหารอย่างโปร่งใส เห็นน้ำประปาสะอาดดื่มได้ ต้องเริ่มต้นด้วยการกาหมายเลข 1 ส่งสุพจน์เป็นนายก อบจ.มุกดาหาร
 
ในส่วนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่างบประมาณของ อบจ. มุกดาหารปีละกว่า 300 ล้านบาท รวมกัน 4 ปีราว 1,300 ล้านบาท เราเชื่อว่าถ้ามีการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ไม่ทุจริต เราจะสร้างมุกดาหารที่ดีกว่านี้ให้ประชาชนได้

หลายปีที่ผ่านมาตนมีโอกาสมามุกดาหารหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ ต.โพนทราย ที่คณะก้าวหน้าได้ทำงานด้วยกันกับ อปท. ร่วมจัดการขยะ ทำโครงการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ทำมา 3 ปีเงินที่ได้นำไปเก็บไว้ในกองทุนฌาปนกิจ ลดขยะที่นำไปทิ้งในบ่อขยะได้เดือนละ 25 ตัน จนถึงวันนี้ลดขยะไปแล้ว 700 ตัน ขยะที่เอาไปขายได้ 3.5 ล้านบาท มาที่ ต.หนองแคน คณะก้าวหน้าทำงานร่วมกับนายก อปท. เรื่องการแพทย์ทางไกลหรือ “หมอตู้” ประชาชนสามารถตรวจสัญญาณชีพสำคัญ ส่งข้อมูลไปที่โรงพยาบาล ส่งยามาถึงหน้าบ้าน ข้อมูลถูกเก็บไว้ในคลาวด์เป็นระเบียนเวชดิจิทัลที่สามารถดูย้อนหลังได้ ประชาชนไม่ต้องไปแออัดที่โรงพยาบาล นี่คือสิ่งที่เราทำสำเร็จมาแล้วที่มุกดาหาร
 
นายธนาธรกล่าวต่อไปว่านโยบายของสุพจน์มีตั้งแต่การพัฒนาระบบรถเมล์ในมุกดาหาร เชื่อมต่อ 7 อำเภอในมุกดาหารด้วย 2 เส้นทาง ต่อไปเดินทางข้ามอำเภอไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่ใช้รถเมล์ของ อบจ. ได้ ติดตามสายผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ ตั้งเป้าไว้ 400 ป้ายรถเมล์ เชื่อมโยงระหว่าง บขส. โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ว่าการอำเภอ ชุมชน และตลาดใหญ่เข้าหากัน ให้คนมีทางเลือกในการเดินทาง
 
การมีรถเมล์ดี มีน้ำประปาสะอาด มีการแพทย์ปฐมภูมิที่ดี มีการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เรียกว่าความเจริญ อนาคตจังหวัดมุกดาหารจะเป็นอย่างไร อนาคตลูกหลานชาวมุกดาหารจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การตัดสินใจของทุกคน วันนี้ตนมาที่นี่เพื่อยืนยันกับทุกคนว่าถ้าให้ความไว้วางใจสุพจน์และผู้สมัคร ส.อบจ. ของพรรคประชาชนทั้งหมด พวกเขาจะไม่โดดเดี่ยว เพราะอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล และแกนนำปัจจุบันของพรรคประชาชน จะมาช่วยกันใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทางเหล่านี้มาพัฒนามุกดาหารร่วมกัน พรรคประชาชนมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมากมาย ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม การศึกษา รัฐบาลดิจิทัล การท่องเที่ยว เราพร้อมยืนข้างเดินร่วมทางผู้สมัครของเราทุกคน พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของนายก อบจ. คนต่อไปจากพรรคประชาชน
 
ทุกคนเอาแต่บ่นว่าทำไมการจัดเก็บขยะไม่ดี โรงพยาบาลแออัด น้ำประปาไม่มีคุณภาพ แต่กาเบอร์เดิมแล้วมันจะแก้ปัญหาได้อย่างไร 1,300 ล้านบาทมีคุณค่ามีความหมายและมาจากภาษีของทุกคน ไม่ได้หล่นลงมาจากท้องฟ้า มาทำให้ภาษีของพวกเรามีความหมาย ตอบสนองคุณภาพชีวิตของพวกเรา ทำให้ภาษีของพวกเราสร้างสังคมที่ดีกว่านี้ สร้างจังหวัดที่ดีกว่านี้ให้คนรุ่นต่อไป” นายธนาธรกล่าว



ชาวบ้านบ่นอุบ คนจีนจุดพลุฉลองตรุษจีน ไม่แคร์ตำรวจ สะเก็ดไฟลามติดป่าหญ้า รถดับเพลิงดับวุ่น
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9610622

ชาวบ้านบ่นอุบ คนจีนจุดพลุฉลองตรุษจีน ไม่แคร์ตำรวจ สะเก็ดไฟลามติดป่าหญ้า รถดับเพลิงดับวุ่น สัตว์เลี้ยงหมาแมวพากันแตกตื่นตกใจ
 
เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา พบว่าในโซเชียลมีการโพสต์ร้องเรียนเรื่องการจุดพลุในหลายพื้นที่ของกทม. เช่นย่านห้วยขวาง พระราม9 ศรีนครินทร์ 
กรุงเทพกรีฑา รามคำแหง โดยชาวบ้านต่างพากันได้รับความเดือดร้อนจากเสียงพลุ อีกทั้งสะเก็ดไฟยังไปติดโดนป่าหญ้าข้างทางแล้วเกิดลุกลาม
โดยเพจบิ๊กเกรียน โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความระบุว่า 

คนจีนรวมตัวกันจุดพลุ ตำรวจมา ก็แยกย้าย แล้วกลับมาจุดใหม่ จนไฟไหม้ทุ่งหญ้า รถดับเพลิงมาค่ะ บิ๊ก​เกรียน​ พอมีทางช่วยเหลือมั้ยคะ เจอแบบนี้ทุกปีค่ะ มีผู้ใหญ่เป็น โรคหัวใจ เด็กเล็ก รวมถึงน้องหมาแมว ตกใจกันค่ะทางเข้าหมู่บ้าน วีเว่ พระราม 9 นันทวัน พระราม 9 – ศรีนครินทร์ วีเว่ กรุงเทพกรีฑา
 
ขณะที่เพจ Drama-addict แจ้งว่า ลูกเพจแจ้งมาแถวห้วยขวาง มีการจุดพลุเยอะมาก ไม่รู้จุดทำไม ฉลองตรุษจีนเรอะ แต่หมาแมวแถวนั้นแตกตื่นกันมาก ระวังกันด้วย
 
จ่าคะ ขอรบกวนช่วยหน่อยค่ะ อยากให้จนท. เข้มงวดมากๆ มีการจุดพลุมาจากทางซอยรามคำแหง 68 จุดมาตั้งแต่หัวค่ำ จน 4 ทุ่มแล้วยังจุดอยู่ เสียงดัง รบกวนมากๆ ค่ะ จุดทุกเทศกาล ตั้งแต่ลอยกระทง ปีใหม่ นี่ตรุษจีนก็จุดอีก สร้างความเดือดร้อนรำคาญมาก แจ้ง 191 แจ้งสน.หัวหมาก ตำรวจบอกส่งจนท. ไปแล้ว มันก็ยังจุด เป็นหมู่บ้านใหม่ เห็นว่าคนจีนอยู่กันเยอะ ตัวเองอยู่หมู่บ้านติดกัน เสียงกระหึ่มมากค่ะ

https://www.facebook.com/thebigkren/videos/1337352470753476/

https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/pfbid02KnDaPTPPUBM2mTPFc8UFq1iXxuZravZFnDWWT8v24PxKw98ZTo56jdjD52Kuzfu1l

https://www.facebook.com/DramaAdd/videos/2609463485926583/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่