วันที่ 26 มกราคม 2568 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสนใจในวงกว้าง เมื่อ นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เสก โลโซ" นักร้องชื่อดัง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกลางดึก เนื่องจากมี
อาการวูบ โดยมีภรรยา คุณกานต์ วิภากร คอยดูแลอยู่ข้างๆ รายงานระบุว่าช่วงหลัง เสก โลโซ มีอาการวูบบ่อยครั้ง และครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดจนต้องเข้ารับการรักษา
เหตุการณ์นี้ไม่ได้สะท้อนเพียงสุขภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนที่ควรได้รับความสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงต่ออาการดังกล่าว อาการวูบอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น โรคประจำตัว การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต หรือการขาดสารอาหาร การทำความเข้าใจและการป้องกันอาการวูบในผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้
อาการวูบในผู้สูงอายุ สาเหตุและความเสี่ยง :
- ระบบไหลเวียนโลหิตผิดปกติ ความดันโลหิตต่ำ การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองไม่เพียงพอ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ปัญหาสุขภาพพื้นฐาน เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบประสาท
- พฤติกรรมเสี่ยง การอดอาหาร พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเครียดสะสม
ในบางกรณี อาการวูบอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าของโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะหัวใจล้มเหลว หากไม่รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะรุนแรงหรืออันตรายถึงชีวิตได้
การสังเกตสัญญาณเตือน :
- อาการหน้ามืด ตาพร่า
- หายใจติดขัด หรือหัวใจเต้นผิดปกติ
- อ่อนแรง หรือหมดสติชั่วคราว
- เหนื่อยล้า หรืออ่อนเพลียผิดปกติในชีวิตประจำวัน
แนวทางการป้องกันอาการวูบในผู้สูงอายุ :
1. ดูแลสุขภาพพื้นฐาน
- ควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
2. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
เช่น การเดินเบาๆ การทำโยคะ หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
3. พักผ่อนให้เพียงพอ:
ผู้สูงอายุควรนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยเกินไป
4. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ:
การพบแพทย์เพื่อเช็คสุขภาพเป็นระยะสามารถช่วยตรวจพบปัญหาที่อาจนำไปสู่อาการวูบได้
การดูแลเมื่อเกิดอาการวูบ :
- ประคองให้นอนราบและยกขาสูง เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนกลับไปยังสมอง
- คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่น และช่วยให้หายใจสะดวก
- รีบแจ้งหน่วยแพทย์ หรือพาไปพบแพทย์โดยเร็ว
บทสรุป :
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เสก โลโซ เป็นกรณีตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการใส่ใจสัญญาณเตือนของอาการวูบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูง ครอบครัวและผู้ใกล้ชิดจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและป้องกันอาการดังกล่าว เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว
-------------------------------------------
สาระน่ารู้เพื่อผู้สูงอายุ
Facebook :
https://www.facebook.com/thaiseniormarket
Youtube :
https://www.youtube.com/@ThaiSenior
เว็บไซต์ :
http://www.thaiseniormarket.com/article.php
Sticker LINE :
https://store.line.me/stickershop/product/1235514
อาการวูบในผู้สูงอายุ สัญญาณเตือนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วันที่ 26 มกราคม 2568 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสนใจในวงกว้าง เมื่อ นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เสก โลโซ" นักร้องชื่อดัง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกลางดึก เนื่องจากมี อาการวูบ โดยมีภรรยา คุณกานต์ วิภากร คอยดูแลอยู่ข้างๆ รายงานระบุว่าช่วงหลัง เสก โลโซ มีอาการวูบบ่อยครั้ง และครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดจนต้องเข้ารับการรักษา
เหตุการณ์นี้ไม่ได้สะท้อนเพียงสุขภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนที่ควรได้รับความสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงต่ออาการดังกล่าว อาการวูบอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น โรคประจำตัว การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต หรือการขาดสารอาหาร การทำความเข้าใจและการป้องกันอาการวูบในผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้
อาการวูบในผู้สูงอายุ สาเหตุและความเสี่ยง :
- ระบบไหลเวียนโลหิตผิดปกติ ความดันโลหิตต่ำ การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองไม่เพียงพอ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ปัญหาสุขภาพพื้นฐาน เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบประสาท
- พฤติกรรมเสี่ยง การอดอาหาร พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเครียดสะสม
ในบางกรณี อาการวูบอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าของโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะหัวใจล้มเหลว หากไม่รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะรุนแรงหรืออันตรายถึงชีวิตได้
การสังเกตสัญญาณเตือน :
- อาการหน้ามืด ตาพร่า
- หายใจติดขัด หรือหัวใจเต้นผิดปกติ
- อ่อนแรง หรือหมดสติชั่วคราว
- เหนื่อยล้า หรืออ่อนเพลียผิดปกติในชีวิตประจำวัน
แนวทางการป้องกันอาการวูบในผู้สูงอายุ :
1. ดูแลสุขภาพพื้นฐาน
- ควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
2. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
เช่น การเดินเบาๆ การทำโยคะ หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
3. พักผ่อนให้เพียงพอ:
ผู้สูงอายุควรนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยเกินไป
4. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ:
การพบแพทย์เพื่อเช็คสุขภาพเป็นระยะสามารถช่วยตรวจพบปัญหาที่อาจนำไปสู่อาการวูบได้
การดูแลเมื่อเกิดอาการวูบ :
- ประคองให้นอนราบและยกขาสูง เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนกลับไปยังสมอง
- คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่น และช่วยให้หายใจสะดวก
- รีบแจ้งหน่วยแพทย์ หรือพาไปพบแพทย์โดยเร็ว
บทสรุป :
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เสก โลโซ เป็นกรณีตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการใส่ใจสัญญาณเตือนของอาการวูบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูง ครอบครัวและผู้ใกล้ชิดจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและป้องกันอาการดังกล่าว เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว
-------------------------------------------
สาระน่ารู้เพื่อผู้สูงอายุ
Facebook : https://www.facebook.com/thaiseniormarket
Youtube : https://www.youtube.com/@ThaiSenior
เว็บไซต์ : http://www.thaiseniormarket.com/article.php
Sticker LINE : https://store.line.me/stickershop/product/1235514