3:10 to Yuma
ชื่อไทยว่า ชาติเสือแดนทมิฬ เป็นภาพยนต์แบบตะลุยตะวันตกที่เราเรียกว่าหนังคาวบอยนะครับ เนื้อเรื่องโดยรวมเป็นคณะเดินทางกลุ่มนึงเดินทางข้ามเมืองเพื่อไปขึ้นรถไฟให้ทันเที่ยว บ่ายสามสิบนาทีที่สถานีรถไฟยูม่า
ในเรื่องมีหัวรถจักร มีขบวนรถไฟ มีการสร้างทางรถไฟ มีรางรถไฟ น่าจะมีมีดหมุดตอกรางรถไฟด้วย เอิ้ก เอิ้ก
เป็นหนังดีน่าดูนะครับ สำหรับท่านที่ชอบดูหนังดิบๆเถื่อนๆหรือหนังคาวบอย ในเรื่องนี้มีให้ดูครบถ้วนตามที่หนังตะวันตกที่ดีควรมี ตั้งแต่คาวบอย วัว เด็กเลี้ยงวัว สิงห์ปืนไว โจร พวกนอกกฏหมาย นายทุนใจร้าย ชาวไร่ชาวสวนผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ บาร์เหล้า อินเดียนแดง รถไฟ ปืน และคนตาย
ที่ไม่มีก็น่าจะเป็นสาวๆอกโตในชุดกระโปรงบานๆรัดรูปละมั้ง
โดยความเห็นส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้ปราณีตงดงามพอจะจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกับภาพยนต์ตะวันตกคลาสสิกเรื่องอื่นๆ อย่าง the good the bad and the ugly หรือ unforgiven ได้โดยไม่ยากนัก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีคนพูดถึงหนังเรื่องนี้ซักเท่าใด
ผมจะพูดถึงรายละเอียดคร่าวๆของหนังเรื่องนี้โดยไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญเผื่อบางท่านอยากไปหามาชมดูบ้าง
พระเอกหรือตัวเอกมีสองคนก็ว่าได้ครับผม คนนึงเป็นชาวไร่อีกคนเป็นโจร คนที่เป็นชาวไร่มีครอบครัวเล็กๆโทรมๆ มีชีวิตแร้นแค้นและเป็นพ่อของลูกชายสองคน
ทั้งชาวไร่และโจรนี่ชะตากรรมนำพาให้ต้องมาร่วมขบวนเดินทางไปด้วยกัน อย่างที่ว่าครับ ไปให้ทันขึ้นรถไฟเที่ยวสามโมงสิบนาทีที่สถานียูม่า
ก็เป็นตามแนวหนังตะวันตกครับผม มีคนที่อยากไปให้ถึง มีคนที่ไม่อยากไป และมีคนที่อยากให้ไปถึงและไม่อยากให้ไปถึง ปนเปกันอีก แต่ที่แน่ๆไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยาก ทุกคนก็ต้องไป ไปสู่จุดหมาย โดยเฉพาะจุดหมายของผู้กล้า ต้องเดินบนเส้นทางของผู้กล้าเท่านั้น ผู้ไม่กล้าไม่สามารถร่วมทางหรือเดินสายเดียวกันได้
การเดินทางก็ยากลำบาก ก็ต้องอย่างนั้นนะครับ ถ้าไปง่ายๆมันก็ไม่มัน เอามาเล่าให้ใครฟังก็ไม่อยากจะฟัง มีอันตรายไปตลอด เฉพาะบุกป่าฝ่าเขาก็เหนื่อยพอแรง ยังมีคนคอยจะฆ่าระหว่างทางอีก ผู้กล้าก็ย่อมเป็นผู้กล้า ยังไงซะก็ต้องไปให้สุดทาง
เส้นทางมันมีหลายสาย บางครั้งสายเดียวกันก็ยังต่างกันที่จุดหมายได้ เราให้ความสำคัญกับจุดหมายหรือระหว่างทางมากกว่ากัน บางทีเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในการเดินทางก็สร้างความสุขให้เราได้ไม่แพ้จุดหมายปลายทาง ซึ่งบางครั้งเรายังจดจำมันได้ดีกว่าซะด้วย
เส้นทางชีวิตของคนมันมีได้หลายจุดหมาย แต่ปลายทางยังคงเป็นที่เดียวกัน ทางเดินของคนเราก็มองดูได้ไม่ยากว่ามันแตกต่างกัน บางทีก็คล้ายกัน บางทีก็ไม่มีอะไรเหมือนกันโดยสิ้นเชิง โดยแท้แล้วชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์ ทุกข์โดยหลักธรรมชาติ แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้ความสุขเกิดขึ้นมาได้บ้าง
วันนี้เราทุกคนก็ยังอยู่ในเส้นทาง ใช้มันให้คุ้มค่า สร้างความสุขให้เพื่อนร่วมทุกข์ผู้ร่วมเดินทาง รักตัวเองให้มาก รักคนข้างๆให้มากกว่า ใช้เวลาของชีวิตด้วยความสุนทรียะ ยิ้มตลอดเส้นทางมีความสุขกับทุกย่างก้าว
เส้นทางแม้ยาวไกลหากได้ไปกับผู้รู้ใจมันก็ไม่น่ากลัว
3:10 to Yuma
ชื่อไทยว่า ชาติเสือแดนทมิฬ เป็นภาพยนต์แบบตะลุยตะวันตกที่เราเรียกว่าหนังคาวบอยนะครับ เนื้อเรื่องโดยรวมเป็นคณะเดินทางกลุ่มนึงเดินทางข้ามเมืองเพื่อไปขึ้นรถไฟให้ทันเที่ยว บ่ายสามสิบนาทีที่สถานีรถไฟยูม่า
ในเรื่องมีหัวรถจักร มีขบวนรถไฟ มีการสร้างทางรถไฟ มีรางรถไฟ น่าจะมีมีดหมุดตอกรางรถไฟด้วย เอิ้ก เอิ้ก
เป็นหนังดีน่าดูนะครับ สำหรับท่านที่ชอบดูหนังดิบๆเถื่อนๆหรือหนังคาวบอย ในเรื่องนี้มีให้ดูครบถ้วนตามที่หนังตะวันตกที่ดีควรมี ตั้งแต่คาวบอย วัว เด็กเลี้ยงวัว สิงห์ปืนไว โจร พวกนอกกฏหมาย นายทุนใจร้าย ชาวไร่ชาวสวนผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ บาร์เหล้า อินเดียนแดง รถไฟ ปืน และคนตาย
ที่ไม่มีก็น่าจะเป็นสาวๆอกโตในชุดกระโปรงบานๆรัดรูปละมั้ง
โดยความเห็นส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้ปราณีตงดงามพอจะจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกับภาพยนต์ตะวันตกคลาสสิกเรื่องอื่นๆ อย่าง the good the bad and the ugly หรือ unforgiven ได้โดยไม่ยากนัก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีคนพูดถึงหนังเรื่องนี้ซักเท่าใด
ผมจะพูดถึงรายละเอียดคร่าวๆของหนังเรื่องนี้โดยไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญเผื่อบางท่านอยากไปหามาชมดูบ้าง
พระเอกหรือตัวเอกมีสองคนก็ว่าได้ครับผม คนนึงเป็นชาวไร่อีกคนเป็นโจร คนที่เป็นชาวไร่มีครอบครัวเล็กๆโทรมๆ มีชีวิตแร้นแค้นและเป็นพ่อของลูกชายสองคน
ทั้งชาวไร่และโจรนี่ชะตากรรมนำพาให้ต้องมาร่วมขบวนเดินทางไปด้วยกัน อย่างที่ว่าครับ ไปให้ทันขึ้นรถไฟเที่ยวสามโมงสิบนาทีที่สถานียูม่า
ก็เป็นตามแนวหนังตะวันตกครับผม มีคนที่อยากไปให้ถึง มีคนที่ไม่อยากไป และมีคนที่อยากให้ไปถึงและไม่อยากให้ไปถึง ปนเปกันอีก แต่ที่แน่ๆไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยาก ทุกคนก็ต้องไป ไปสู่จุดหมาย โดยเฉพาะจุดหมายของผู้กล้า ต้องเดินบนเส้นทางของผู้กล้าเท่านั้น ผู้ไม่กล้าไม่สามารถร่วมทางหรือเดินสายเดียวกันได้
การเดินทางก็ยากลำบาก ก็ต้องอย่างนั้นนะครับ ถ้าไปง่ายๆมันก็ไม่มัน เอามาเล่าให้ใครฟังก็ไม่อยากจะฟัง มีอันตรายไปตลอด เฉพาะบุกป่าฝ่าเขาก็เหนื่อยพอแรง ยังมีคนคอยจะฆ่าระหว่างทางอีก ผู้กล้าก็ย่อมเป็นผู้กล้า ยังไงซะก็ต้องไปให้สุดทาง
เส้นทางมันมีหลายสาย บางครั้งสายเดียวกันก็ยังต่างกันที่จุดหมายได้ เราให้ความสำคัญกับจุดหมายหรือระหว่างทางมากกว่ากัน บางทีเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในการเดินทางก็สร้างความสุขให้เราได้ไม่แพ้จุดหมายปลายทาง ซึ่งบางครั้งเรายังจดจำมันได้ดีกว่าซะด้วย
เส้นทางชีวิตของคนมันมีได้หลายจุดหมาย แต่ปลายทางยังคงเป็นที่เดียวกัน ทางเดินของคนเราก็มองดูได้ไม่ยากว่ามันแตกต่างกัน บางทีก็คล้ายกัน บางทีก็ไม่มีอะไรเหมือนกันโดยสิ้นเชิง โดยแท้แล้วชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์ ทุกข์โดยหลักธรรมชาติ แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้ความสุขเกิดขึ้นมาได้บ้าง
วันนี้เราทุกคนก็ยังอยู่ในเส้นทาง ใช้มันให้คุ้มค่า สร้างความสุขให้เพื่อนร่วมทุกข์ผู้ร่วมเดินทาง รักตัวเองให้มาก รักคนข้างๆให้มากกว่า ใช้เวลาของชีวิตด้วยความสุนทรียะ ยิ้มตลอดเส้นทางมีความสุขกับทุกย่างก้าว
เส้นทางแม้ยาวไกลหากได้ไปกับผู้รู้ใจมันก็ไม่น่ากลัว