ฝุ่น PM 2.5 ทวีความรุนแรง ประชาชนแห่ซื้อเครื่องฟอกอากาศจนขาดตลาด ยอดขายพุ่ง 2-3 เท่า ค้าปลีก-ผู้ผลิต ต้องเปิดจอง เพิ่มจำนวนนำเข้า
ผู้สื่อข่าว มติชน สำรวจการซื้อขายเครื่องฟองอากาศภายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า พบว่า ผู้ประกอบการยืนยันความต้องการเครื่องฟอกอากาศสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 แต่ความต้องการสูงเกินกว่าช่วงปกติอย่างมีนัยะ จนเกิดสินค้าเครื่องฟอกอากาศและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องขาดตลาดในบางพื้นที่ จนบางพื้นที่ห้างและร้านค้า ต้องเปิดรับจองสินค้า และกำหนดส่งมอบอย่างเร็วภายใน 15-30 วัน
พนักงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น กล่าวกับมติชนว่า ความต้องการเครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น พฤติกรรมซื้อเครื่องที่สองและสามมากขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญ จนทำให้ยอดจองภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มกว่าปกติ 2-3 เท่าตัว
“ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อความต้องการมาก ทำให้สต๊อกบางสาขาไม่เพียงพอ ลูกค้าจึงขอจองล่วงหน้า และบางรายมาซื้อซ้ำในช่วง 2 เดือน เพราะมีการซื้อเพื่อคนในครัวเรือนและผู้สูงวัยเป็นหลัก เกรงว่าสินค้าอาจทิ้งช่วง ไม่ทันใช้กับภาวะฝุ่นที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรง”
นายอำนาจ สิงห์จันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ส่งผลให้ความต้องการเครื่องฟอกอากาศเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดชั่วคราวในหลายพื้นที่ จึงส่งผลให้ความต้องการเครื่องฟอกอากาศของแอลจีเพิ่มต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แอลจีได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ด้วยแผนการจัดการที่ครอบคลุม ทั้งการเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าเดือนละ 1,000 เครื่อง ตลอดช่วงมกราคม-มีนาคม 2568 การปรับเปลี่ยนการขนส่งจากทางเรือเป็นทางอากาศเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว รวมถึงการบริหารจัดการนำสินค้าจากตลาดเวียดนามที่ยังไม่ประสบปัญหามลพิษทางอากาศในช่วงเวลานี้ มาเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดไทย และบริษัทยืนยันไม่มีนโยบายปรับขึ้นราคาสินค้าช่วงวิกฤตนี้
“แอลจี คาดการณ์ช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 มีความรุนแรง หรือระหว่างมกราคม-มีนาคมนี้ ยอดขายเครื่องฟอกอากาศในกลุ่มพรีเมียมของแอลจีเติบโตสูง 40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยจากแรงหนุนจากมาตรการ Easy E-Receipt ประกอบกับสถานการณ์ฝุ่นทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี” นายอำนาจกล่าว
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ประชาชนมีความต้องการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มป้องกันฝุ่น PM 2.5 อาทิ หน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ และอุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่พบว่ามีสินค้าขาดแคลนหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการ และราคาจำหน่ายยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด
และเพื่อเป็นการช่วยลดภาระให้กับประชาชน กรมได้ร่วมมือกับผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้า และห้างร้านต่างๆ จัดโปรโมชันลดราคาสินค้าในกลุ่มป้องกันฝุ่น PM 2.5 ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการดูแลสุขภาพ ด้วยการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการจัดโปรโมชันผ่านช่องทางออนไลน์ จะเป็นการช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อีกช่องทางหนึ่ง
ที่มา : prachachat
เครื่องฟอกอากาศขาดตลาด รับ PM 2.5 รุนแรง ยอดขายพุ่ง 2-3 เท่า
ผู้สื่อข่าว มติชน สำรวจการซื้อขายเครื่องฟองอากาศภายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า พบว่า ผู้ประกอบการยืนยันความต้องการเครื่องฟอกอากาศสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 แต่ความต้องการสูงเกินกว่าช่วงปกติอย่างมีนัยะ จนเกิดสินค้าเครื่องฟอกอากาศและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องขาดตลาดในบางพื้นที่ จนบางพื้นที่ห้างและร้านค้า ต้องเปิดรับจองสินค้า และกำหนดส่งมอบอย่างเร็วภายใน 15-30 วัน
พนักงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น กล่าวกับมติชนว่า ความต้องการเครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น พฤติกรรมซื้อเครื่องที่สองและสามมากขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญ จนทำให้ยอดจองภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มกว่าปกติ 2-3 เท่าตัว
“ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อความต้องการมาก ทำให้สต๊อกบางสาขาไม่เพียงพอ ลูกค้าจึงขอจองล่วงหน้า และบางรายมาซื้อซ้ำในช่วง 2 เดือน เพราะมีการซื้อเพื่อคนในครัวเรือนและผู้สูงวัยเป็นหลัก เกรงว่าสินค้าอาจทิ้งช่วง ไม่ทันใช้กับภาวะฝุ่นที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรง”
นายอำนาจ สิงห์จันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ส่งผลให้ความต้องการเครื่องฟอกอากาศเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดชั่วคราวในหลายพื้นที่ จึงส่งผลให้ความต้องการเครื่องฟอกอากาศของแอลจีเพิ่มต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แอลจีได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ด้วยแผนการจัดการที่ครอบคลุม ทั้งการเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าเดือนละ 1,000 เครื่อง ตลอดช่วงมกราคม-มีนาคม 2568 การปรับเปลี่ยนการขนส่งจากทางเรือเป็นทางอากาศเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว รวมถึงการบริหารจัดการนำสินค้าจากตลาดเวียดนามที่ยังไม่ประสบปัญหามลพิษทางอากาศในช่วงเวลานี้ มาเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดไทย และบริษัทยืนยันไม่มีนโยบายปรับขึ้นราคาสินค้าช่วงวิกฤตนี้
“แอลจี คาดการณ์ช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 มีความรุนแรง หรือระหว่างมกราคม-มีนาคมนี้ ยอดขายเครื่องฟอกอากาศในกลุ่มพรีเมียมของแอลจีเติบโตสูง 40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยจากแรงหนุนจากมาตรการ Easy E-Receipt ประกอบกับสถานการณ์ฝุ่นทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี” นายอำนาจกล่าว
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ประชาชนมีความต้องการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มป้องกันฝุ่น PM 2.5 อาทิ หน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ และอุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่พบว่ามีสินค้าขาดแคลนหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการ และราคาจำหน่ายยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด
และเพื่อเป็นการช่วยลดภาระให้กับประชาชน กรมได้ร่วมมือกับผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้า และห้างร้านต่างๆ จัดโปรโมชันลดราคาสินค้าในกลุ่มป้องกันฝุ่น PM 2.5 ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการดูแลสุขภาพ ด้วยการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการจัดโปรโมชันผ่านช่องทางออนไลน์ จะเป็นการช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อีกช่องทางหนึ่ง
ที่มา : prachachat