บทความชิ้นนี้ จะมาวิเคราะห์ว่า พม่า ประเทศเพื่อนบ้านของเรา จะเดินทางไปถึงจุดไหน ด้วยสถานการ์ณการสู้รบกับชนกลุ่มน้อย ที่เรียกว่า ยิงปราบยิ่งโต วันนี้ คือวันที่ 24/01/2025
แสดงรูปรัฐต่างๆในพม่า
ทางออกแรกคือ
1.การจัดตั้งสหพันธรัฐ หมายถึง ทุกรัฐยังเป็นประเทศเดียวกันตาม "กฎหมายระหว่างประเทศ" มีการจัดเก็บภาษีเอง ส่งให้ส่วนกลางบางส่วน และมีกองกำลังบางส่วนของตัวเอง มีเขตแดนของตัวเอง โดยอาจจะยึดจากสัญญาปางหลวงเป็นหลัก
และหากการจัดตั้ง "สหพันธรัฐ" ดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนการปฎิวัติ หรืออย่างน้อยที่สุด คือหลังปฏิวัติใหม่ๆ ที่ยังไม่มีการปราบปรามประชาชน ทางออกนี้จะดีเยี่ยมมากๆ นั้นเพราะ มีรัฐบาลเป็นพลเรือน และมีกองทัพที่เข้มแข็ง การพูดคุยกับชนกลุ่มน้อยเรียกว่ามีแต้มต่อที่ดีมากๆ
แต่โอกาสนี้กลับถูกทำลายด้วยทหารพม่าเอง ที่มีความคิดแบบเดิมๆ ไม่รู้จักการประณีประนอม กดขี่ชนกลุ่มน้อยได้ก็กดขี่ เหมือนเป็นลักษณะนิสัยดั้งเดิมของทหารพม่าเอง จนเหตุการ์ณ และความท้าทายดำเนินไปสู่ขั้นตอนที่ 2 คือ
แสดงรูปสหภาพยุโรป
2.แยกเป็นประเทศเอกราชก่อน แล้วค่อยมารวมเป็นสหภาพตามความสมัครใจ (ถอดแบบมาจากสหภาพยุโรป)
ในวันนี้ ประเทศพม่าจะสงบได้ ต้องแตกเป็นประเทศเล็กๆ เพื่อให้กลไก "กฎหมายระหว่างประเทศ" ดูแลไม่ให้รัฐใหญ่อย่างพม่ารังแกชนกลุ่มน้อยได้อีก หากชนกลุ่มน้อยไปลงนามเอกสารเรื่อง "สหพันธรัฐ" ถือว่า โง่ซ้ำซาก เพราะจะเป็นเหมือนสัญญา "ปางหลวง" เวอร์ชั่น 2 ที่เมื่อ รัฐพม่าเข้มแข็งก็จะรังแกชนกลุ่มน้อยอีก
เพราะจากอดีตที่ผ่านมา บ่งบอกว่าพม่าไว้ใจไม่ได้ ซึ่งจะทำให้สงครามไม่มีวันจบ และไม่เป็นผลดีกับใครเลย โดยเฉพาะกับไทย หรือ จีน หรือกับคนพม่าเอง เพราะมันรบกันมา เกือบจะ 100 ปีแล้ว ถ้ารูปแบบเดิมมันดีจริง มันควรจะสงบไปตั้งนานแล้ว ส่วนคนที่คิดว่ารัฐเล็กจะอยู่ไม่ได้ ให้ดู ประเทศภูฏาน เป็นตัวอย่างซะนะ เล็กนิดเดียว แถมอยู่บนเขาหิมาลัยอีก (อายไหมนั้น)
ดังนั้นเลิกขายไอเดีย สหพันธรัฐซะ แล้วมาขายไอเดียแตกเป็นประเทศเล็กๆ เพื่อให้กฎหมายระหว่างประเทศคุ้มครองรัฐเล็กดีกว่า แล้วค่อยมารวมกันเป็นสหภาพตามความสมัครใจ (ถอดแบบมาจากสหภาพยุโรป) เพราะต่อให้รัฐบาล NUG ชนะ และได้เป็นรัฐบาลได้ในอนาคต ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่า อาจจะมีนายทหารพม่าบางคนลุกขึ้นมายึดอำนาจ แล้วก็ใช้อำนาจปราบชนกลุ่มน้อยอีก ดังนั้น นี้ ...คือทางออกที่ดีที่สุด ..... เพราะพม่าสร้างปัญหาให้ไทยมามากเกินไปแล้ว
แสดงรูปท่อก๊าซจีน-พม่า
อยากจะมาวิเคราะห์ต่อว่าแต่ละประเทศจะวางตัวแบบไหน
เริ่มด้วยจีน ที่มีผลประโยชน์สูงสุดในพม่า เนื่องด้วย เป็นหลังบ้านของจีน ที่มีทั้งท่อแก๊ส ท่อน้ำมัน ทางหลวง ในอนาคตก็จะมีทางรถไฟ ผมขอวิเคราะห์ว่าจีนเองไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายในพม่า แต่ปัญหานี้ มันใหญ่เกินกว่าที่จีนจะจัดการอะไรได้ เพราะถ้าจีนเข้าแทรกแทรง มหาอำนาจอื่นก็จะเข้ามาด้วย จะวุ่นวายไปกันใหญ่ ดังนั้นทางออกคือ เป็นมิตรกับทุกฝ่าย ช่วยเหลือทุกฝ่าย ปรามทุกฝ่าย เพื่อให้จีนเข้าไปมีอิทธิพลอย่างสูงสุดในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ค่อยๆส่งทหารเข้าไปดูแลผลประโยชน์ของจีนโดยเฉพาะท่อแก๊ส จีนอาจจะส่งทหารเข้าไปในนาม "บริษัท" รักษาความปลอดภัย ค่อยๆส่งเข้าไปที่ละนิด จากหลักสิบ เป็นหลักร้อย หรือหลักพัน บางทีอาจจะถึงหลักหมื่นนาย
และส่งคนเข้าไปทำงาน ไปอยู่ ไปอาศัย ไปทำธุรกิจ เพื่อให้พม่ารวมถึงประเทศเล็กๆที่อาจจะเกิดใหม่หลังจากนี้กลายเป็นหลังบ้านของจีนทาง "พฤตินัย" จริงๆ บางฝ่ายอาจมองว่าจีนอาจจะสนับสนุนให้รัฐบาลทหารพม่าปราบปรามชนกลุ่มน้อยอย่างสุดกำลัง แต่ผมมองว่า จีนก็มองว่า หากพม่าเข้มแข็ง รวมเป็นปึกแผ่นได้ พม่าจะต่อต้านจีน ซึ่งจีนไม่ชอบ ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดเป็นประเทศเล็กๆ โดยการสนับสนุนจากจีนก็มีโอกาสสูงมาก ส่วนไทยจะวางตัวอย่างไร ก็ให้ไปคิดเอาเอง
พม่าจะแตกออกเป็นประเทศเล็กๆ ไทยรับมืออย่างไร
แสดงรูปรัฐต่างๆในพม่า
ทางออกแรกคือ
1.การจัดตั้งสหพันธรัฐ หมายถึง ทุกรัฐยังเป็นประเทศเดียวกันตาม "กฎหมายระหว่างประเทศ" มีการจัดเก็บภาษีเอง ส่งให้ส่วนกลางบางส่วน และมีกองกำลังบางส่วนของตัวเอง มีเขตแดนของตัวเอง โดยอาจจะยึดจากสัญญาปางหลวงเป็นหลัก
และหากการจัดตั้ง "สหพันธรัฐ" ดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนการปฎิวัติ หรืออย่างน้อยที่สุด คือหลังปฏิวัติใหม่ๆ ที่ยังไม่มีการปราบปรามประชาชน ทางออกนี้จะดีเยี่ยมมากๆ นั้นเพราะ มีรัฐบาลเป็นพลเรือน และมีกองทัพที่เข้มแข็ง การพูดคุยกับชนกลุ่มน้อยเรียกว่ามีแต้มต่อที่ดีมากๆ
แต่โอกาสนี้กลับถูกทำลายด้วยทหารพม่าเอง ที่มีความคิดแบบเดิมๆ ไม่รู้จักการประณีประนอม กดขี่ชนกลุ่มน้อยได้ก็กดขี่ เหมือนเป็นลักษณะนิสัยดั้งเดิมของทหารพม่าเอง จนเหตุการ์ณ และความท้าทายดำเนินไปสู่ขั้นตอนที่ 2 คือ
แสดงรูปสหภาพยุโรป
2.แยกเป็นประเทศเอกราชก่อน แล้วค่อยมารวมเป็นสหภาพตามความสมัครใจ (ถอดแบบมาจากสหภาพยุโรป)
ในวันนี้ ประเทศพม่าจะสงบได้ ต้องแตกเป็นประเทศเล็กๆ เพื่อให้กลไก "กฎหมายระหว่างประเทศ" ดูแลไม่ให้รัฐใหญ่อย่างพม่ารังแกชนกลุ่มน้อยได้อีก หากชนกลุ่มน้อยไปลงนามเอกสารเรื่อง "สหพันธรัฐ" ถือว่า โง่ซ้ำซาก เพราะจะเป็นเหมือนสัญญา "ปางหลวง" เวอร์ชั่น 2 ที่เมื่อ รัฐพม่าเข้มแข็งก็จะรังแกชนกลุ่มน้อยอีก
เพราะจากอดีตที่ผ่านมา บ่งบอกว่าพม่าไว้ใจไม่ได้ ซึ่งจะทำให้สงครามไม่มีวันจบ และไม่เป็นผลดีกับใครเลย โดยเฉพาะกับไทย หรือ จีน หรือกับคนพม่าเอง เพราะมันรบกันมา เกือบจะ 100 ปีแล้ว ถ้ารูปแบบเดิมมันดีจริง มันควรจะสงบไปตั้งนานแล้ว ส่วนคนที่คิดว่ารัฐเล็กจะอยู่ไม่ได้ ให้ดู ประเทศภูฏาน เป็นตัวอย่างซะนะ เล็กนิดเดียว แถมอยู่บนเขาหิมาลัยอีก (อายไหมนั้น)
ดังนั้นเลิกขายไอเดีย สหพันธรัฐซะ แล้วมาขายไอเดียแตกเป็นประเทศเล็กๆ เพื่อให้กฎหมายระหว่างประเทศคุ้มครองรัฐเล็กดีกว่า แล้วค่อยมารวมกันเป็นสหภาพตามความสมัครใจ (ถอดแบบมาจากสหภาพยุโรป) เพราะต่อให้รัฐบาล NUG ชนะ และได้เป็นรัฐบาลได้ในอนาคต ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่า อาจจะมีนายทหารพม่าบางคนลุกขึ้นมายึดอำนาจ แล้วก็ใช้อำนาจปราบชนกลุ่มน้อยอีก ดังนั้น นี้ ...คือทางออกที่ดีที่สุด ..... เพราะพม่าสร้างปัญหาให้ไทยมามากเกินไปแล้ว
แสดงรูปท่อก๊าซจีน-พม่า
อยากจะมาวิเคราะห์ต่อว่าแต่ละประเทศจะวางตัวแบบไหน
เริ่มด้วยจีน ที่มีผลประโยชน์สูงสุดในพม่า เนื่องด้วย เป็นหลังบ้านของจีน ที่มีทั้งท่อแก๊ส ท่อน้ำมัน ทางหลวง ในอนาคตก็จะมีทางรถไฟ ผมขอวิเคราะห์ว่าจีนเองไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายในพม่า แต่ปัญหานี้ มันใหญ่เกินกว่าที่จีนจะจัดการอะไรได้ เพราะถ้าจีนเข้าแทรกแทรง มหาอำนาจอื่นก็จะเข้ามาด้วย จะวุ่นวายไปกันใหญ่ ดังนั้นทางออกคือ เป็นมิตรกับทุกฝ่าย ช่วยเหลือทุกฝ่าย ปรามทุกฝ่าย เพื่อให้จีนเข้าไปมีอิทธิพลอย่างสูงสุดในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ค่อยๆส่งทหารเข้าไปดูแลผลประโยชน์ของจีนโดยเฉพาะท่อแก๊ส จีนอาจจะส่งทหารเข้าไปในนาม "บริษัท" รักษาความปลอดภัย ค่อยๆส่งเข้าไปที่ละนิด จากหลักสิบ เป็นหลักร้อย หรือหลักพัน บางทีอาจจะถึงหลักหมื่นนาย
และส่งคนเข้าไปทำงาน ไปอยู่ ไปอาศัย ไปทำธุรกิจ เพื่อให้พม่ารวมถึงประเทศเล็กๆที่อาจจะเกิดใหม่หลังจากนี้กลายเป็นหลังบ้านของจีนทาง "พฤตินัย" จริงๆ บางฝ่ายอาจมองว่าจีนอาจจะสนับสนุนให้รัฐบาลทหารพม่าปราบปรามชนกลุ่มน้อยอย่างสุดกำลัง แต่ผมมองว่า จีนก็มองว่า หากพม่าเข้มแข็ง รวมเป็นปึกแผ่นได้ พม่าจะต่อต้านจีน ซึ่งจีนไม่ชอบ ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดเป็นประเทศเล็กๆ โดยการสนับสนุนจากจีนก็มีโอกาสสูงมาก ส่วนไทยจะวางตัวอย่างไร ก็ให้ไปคิดเอาเอง