อายุใกล้30แล้ว แต่แม่ยังเช็คโทรศัพท์ โซเชี่ยล ยังไม่ให้อิสระ ยังบังคับทุกอย่าง พอเปิดใจว่าขอตัดสินใจเอง แม่ดราม่า

กระทู้นี้เราขอคำตอบสร้างสรรค์และรบกวนไม่ซ้ำเติมเรานะคะ แค่นี้เราก็รู้สึกแย่มามากพอแล้วค่ะ

เรารู้สึกว่า ครอบครัวเราไม่ปกติมาตั้งแต่เด็กค่ะ เรามีแม่ที่ใช้ความรุนแรง แกชอบตี ทุบ ด่าทอคำหยาบคายเรา ถ้าทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ แม่เราชอบมีความคิดว่า ความคิดแม่ถูกสุด ห้ามใครขัด ขอเล่าย้อนกลับไป

ตอนเด็กๆ แม่เราเข้มงวดมากๆ บางคนอาจจะคิดว่า ก็ดีสิแม่ทำไปเพราะรัก แต่เรารู้สึกว่าไม่เป็นแบบนั้นเลย เรารู้สึกว่าแม่ทำไปเพราะมีจุดประสงค์อย่างอื่น เช่นเอาไปพูดคุยในวงเพื่อนๆ หรือสมาคมผู้ปกครอง หรือเพื่อควบคุมเรา พอเราโตมาอ่านบทความต่างๆไม่แน่ใจว่า แม่เราเข้าข่าย narcissist รึเปล่า แม่จะเคร่งเรื่องเกรดมากๆ เราต้องอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนถึง3-4ทุ่ม เราจำได้ว่า ตั้งแต่ ป.3 ตอนเรา9ขวบเลย ถ้าเราได้คะแนนน้อยกว่าลูกเพื่อนแม่ เช่นเราได้18 ลูกเพื่อนแม่ได้20 หรือถ้าเราไปแข่งขันวิชาการตอนประถม เราได้เหรียญเงิน เพราะขาดอีก2คะแนนจะได้เหรียญทอง เราจะโดนแม่ตี ด่าอย่างนั้น พูดซ้ำๆ ขุดมาพูด ตลอดทั้งเทอม

แม่เลี้ยงเราแบบเข้มงวดมากค่ะ ห้ามกินdairy queen kfc ฟาสฟู้ดต่างๆ ของอร่อยที่ฮิตๆสมัยนั้นเราจะไม่ได้กินค่ะ ห้ามเข้าโรงหนัง ห้ามไปเที่ยว(ตอนเด็กเราได้เที่ยวกับแม่แค่ข้ามจังหวัด ไม่กี่กิโลเท่านั้นค่ะ เพราะแม่มีความเชื่อว่าเสียเวลาทบทวนหนังสือ) กลับบ้านก่อน5โมงเย็น เพื่อมาทบทวนหนังสือ ถ้าเราขัดเช่น แม่จับได้ว่าเราซื้อ mister donut มากิน เราจะโดนด่า โดนตีค่ะ เพราะ แม่มีความเชื่อว่าอาหารพวกนั้นทำลายสมอง ทำให้การเรียนแย่ลง เราต้องกินอาหารคล้ายๆอาหารเจห้ามปรุงที่แม่เลือกให้ค่ะ ถ้าแม่รู้ว่าเราไปกินอาหารจากร้านอื่น แกจะแสดงอาหารน้อยใจรุนแรงค่ะ แม้แต่เสื้อผ้า แต่งตัวเรายังไม่เคยมีอิสระ

พอมาม.ปลาย แม่เราติดกล้องวงจรปิดในห้องค่ะ แม่บอกว่าอยากให้เราทบทวนหนังสือเยอะๆแม่จะเช็คว่าเราตั้งใจจริงรึเปล่า มีวันนึงเราเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เข้าห้องน้ำถี่ และนาน แม่ด่าเรา ตีเรา หาว่าเราไม่ตั้งใจ ทั้งๆที่มันทรมานมากๆค่ะ

ขอเล่าตัดมาตอนมหาลัย+หลังเรียนจบ ที่จริงแม่เลือกมหาลัยคณะให้เราเรียบร้อยค่ะ เราสอบติดที่แม่เลือกให้ค่ะ แต่เราไม่อยากทรมานกับปัญหาครอบครัวอีกแล้ว เราเลยสละสิทธิ์ เททุกอย่างที่แม่เลือกให้ มาเรียนที่กทม.ค่ะ ทั้งๆที่คุยเปิดใจแล้ว แม่ไม่เข้าใจสักที แกชอบคิดว่าความคิดแกถูก ห้ามใครขัด ทะเลาะกันใหญ่โตถึงขั้นไล่ออกจากบ้านเลยค่ะ

ตอนนั้นพอย้ายมากทม.เรามีอิสระขึ้นมานิดนึงค่ะ เช่น ได้ไปโรงหนัง กิน kfc  swensen dairy queen ร้านต่างๆเราเพิ่งมาได้กินตอนโตค่ะ ได้ไปวัด ไปพิพิธภัณฑ์ ทำกิจกรรมกับเพื่อน แต่ไม่เล่าให้แม่ฟังค่ะ ทั้งๆที่คุยกันทุกวัน เพราะถ้าเล่า จะทะเลาะกับแม่ค่ะ

แม่เราแกจะเช็คโซเชี่ยล อยากรู้ว่าเราแชร์อะไร โพสอะไร มีเพื่อนชื่ออะไร ตั้งแต่เด็กตอนเราเริ่มมีโทรศัพท์ค่ะ มีขอ password ถ้าเป็นเพื่อนเราที่แม่รู้ว่าเรียนอ่อนหรือแม่ไปด่วนตัดสินเองว่าไม่ดีแม่จะไม่ให้เราคบค่ะ เรื่องเช็คโซเชี่ยล เช็คโทรศัพท์ ดูอัลบั้มรูปภาพ แม่เช็คมาเรื่อยๆๆๆ จนเราจะ30แล้วค่ะ เคยเปลี่ยนpassword ทะเลาะกันใหญ่โต แม่คิดว่าเรามีอะไรปิดบังเหรอ ไม่รักแม่เหรอ พูดเปิดใจไปหลายรอบไม่เคยได้ผลเลยค่ะ จนเราเหนื่อยใจมากค่ะ

เรื่องคบเพื่อน ถ้าแม่เรารู้ว่าเราคุยกับคนอื่น ไม่ว่าจะเพศอะไร ก็ตาม แม่เราจะกระวนกระวายมากๆ แสดงอาการน้อยใจรุนแรง จะทะเลาะกับแม่ใหญ่โต ส่วนมาก เพื่อนที่แม่จะให้เราคบ หรือคนที่แม่จะให้เราคุยด้วย แม่แค่ญาติ หรือวงลูกเพื่อนแม่เท่านั้น

พอเราย้ายมาทำงานกรุงเทพ แม่เราจะสร้างกฎมาเยอะมากๆ จากเดิมที่กฎเยอะอยู่แล้ว เช่น จะแม่เรารู้ว่า เราเลิกงานเวลานี้ แม่จะโทรหาเราถี่ๆๆๆๆ เพื่อให้เรากลับไปวิดีโอคอลกับเขา (มีครั้งนึงตอนเรา ทำงานที่เก่า แม่โทรหา ผจก.เราค่ะ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อให้เรากลับบ้านค่ะ ตอนนี้เราลาออกจากที่นั่นแล้วค่ะ เพราะอึดอัด ที่แม่โทรไปที่นั่นบ่อยๆจนทำให้เราโดนบุลลี่จากคนที่ไม่เข้าใจปัญหาครอบครัวเรา)

พอวิดีโอคอล จะไม่ค่อยคุยเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขเท่าไรค่ะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องกฎที่แม่สร้างขึ้นมา เช่น จ่ายค่านั่นค่านี่ให้หน่อย โอนเงินให้ญาติยืมหน่อย เราใส่เสื้อที่แม่ให้ใส่มั้ย(ถ้าเราไม่ใส่แกจะน้อยใจแล้วทะเลาะกัน ทำให้เราอึดอัดมาก หลังๆเราแก้โดยการยอมเปลี่ยนเสื้อก่อนวิดีโอคอลกับแม่) กินยาสมุนไพรที่แม่บอกรึเปล่า(เป็นยาอะไรไม่รู้ค่ะ ที่แม่ไปเอามาจากวัดแล้วบังคับให้กิน) แม่จะบังคับให้เราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ค่ะ เช่น เพื่อนfb แม่เห็นเขาไม่ดี บล็อกเดี๋ยวนี้เลยนะ

หรือคุยเรื่องความกตัญญู เนรคุณอะไรวนๆไปค่ะ แม่เราอยากให้เรากลับไปอยู่บ้านกับเขาที่ตจว.ค่ะ แกชอบบอกว่าถ้าเรารักแม่จริงต้องมาดูแล ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี  ลูกคนอื่นเขารักแม่กันทั้งนั้น

  แต่ตอนนี้เราทำงาน กทม. เรารู้สึกแยกบ้าน แต่คุยกันทางไกลยังจะดีกว่าค่ะ เรารู้สึกอึดอัดค่ะ ถ้าต้องไปอยู่บ้านเดียวกับแม่แล้วต้องมารองรับอารมณ์ของแม่ ต้องมาทนเวลามาขึ้นเสียง กฎต่างๆที่แม่สร้างขึ้นมา รวมถึงกล้องวงจรปิดในห้องก็ยังมีค่ะ ตอนเรากลับบ้านช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่ทรมานสำหรับเรามากๆ เพราะ แม่ยังเช็คกล้องวงจรปิดอยู่ เช็คโทรศัพท์ โซเชี่ยลเราแม่เช็คทุกวันค่ะจากการเอาpassword ไป

เราเปิดใจไปหลายรอบมากๆ เราพูดเรื่องกฎ เรื่องบังคับต่างๆ การด่าทอ ใช้ความรุนแรง ทุบตี แม่บอกว่า ฉันไม่เคยบังคับ อย่ามาพูดมั่วๆ ใส่ร้ายฉัน ,ฉันจำได้ไม่เคยมีเหตุการณ์นี้  บางครั้งพูดไป แม่จะตอบว่าที่ฉันทำไปเพราะรักและหวังดีกับเธอทั้งนั้น (แต่เราไม่รู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ มันทรมานใจเรามากๆ เป็นบาดแผลในใจค่ะ)

เราพูดเปิดใจไปเมื่อวาน บอกว่าเราอายุใกล้30แล้วขอตัดสินใจทุกอย่างเอง คิดเองนะ แม่ตอบเราว่า ที่ผ่านมาแม่ให้อิสระเราเยอะมากๆนะ ทำไมเราทำเพื่อแม่ไม่ได้เหรอ ฉันเลี้ยงลูกดีที่สุด ไม่มีพ่อแม่คนไหนเลี้ยงลูกดีเท่าฉันแล้ว (คำว่าให้อิสระที่แม่พูด  เราคิดว่า มันเป็นสิทธิที่เราควรจะได้อยู่แล้วค่ะ เช่น การเลือกคณะ การเลือกอาหาร การแต่งตัว การเลือกงานที่จะทำ ถ้ามันไม่ได้เสื่อมเสีย)

เราคุยจนเหนื่อยค่ะ เคยชวนแม่ไปหาจิตแพทย์แล้วค่ะ แกยืนยันว่าไม่ไปค่ะ แกคิดว่า เราจะโจมตีให้ร้ายแกค่ะ แม่เราคิดว่าไปหาจิตแพทย์ทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย ไร้สาระ แม่เราเป็นคนที่ถ้าเราพูดความจริง แกจะรับไม่ได้ค่ะ

เราอึดอัดมากค่ะ เราคงเป็นลูกที่แย่ค่ะ  อยากแก้ปัญหานี้จริงๆ ให้มันจบๆค่ะ ขอคำปรึกษา หน่อยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่