วันที่ 3 ของการเดินทาง
ป้าๆ Search เจอ “ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์” กับ “แก่นมะกรูด” ซึ่งเป็น Unseen Thailand เราก็ต้องไป และแถมอีกที่คือวัดถ้ำเขาวงถึงจะไม่ Unseen แต่ก็สวยเชิดหน้าชูตาได้
ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์อยู่ไม่ไกลจากที่พัก
มันก็คือฝายกั้นน้ำดีๆ นี่แหละ ถ้าขับรถผ่านเฉยๆ ไม่รู้มาก่อน อาจจะคิดว่าเป็นเขื่อนกั้นน้ำธรรมดา แต่จอดลงไปดูเถอะอลังการมาก ฝายนี้ชุมชนสร้างเพื่อชะลอการไหลของน้ำ แต่มีลักษณะต่างจากฝายทั่วไปฝายนี้มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมเป็นหลุม น้ำที่ตกลงไปในหลุมเลยกลายเป็นม่านน้ำสวยงาม และสามารถเดินลงไปถ่ายรูปกับน้ำตกได้
ขับรถผ่านดูไม่รู้หรอกว่าเป็นฝาย ถ้าไม่จอดรถลงดู
มีห้องแบบนี้ 2 ห้อง หน้าฝนน้ำเยอะน่าจะสวย
แนะนำให้มาฤดูฝน หรือต้นฤดูหนาว เพราะจะเห็นสายน้ำสวยงาม แต่ถ้าฝนตกหนักมาก น้ำเยอะเกินไป ก็ไม่สวย และถ้าน้ำแรงมากอาจเกิดอันตรายด้วย ป้าไปน้ำน้อยแล้ว เลยไม่ค่อยเห็น แต่ก็สวยนะ วันเสาร์อาทิตย์มีร้านขายของชุมชน อาหาร ขนม สินค้าพื้นเมือง ป้าไปวันธรรมดา ไม่มีของขาย และที่สำคัญไม่ค่อยมีคน ทำให้ถ่ายรูปกันได้สบายเลย ใกล้ๆ ฝายมีที่จอดรถแล้วเดินต่อไปนิดหน่อย
เมื่อสิ่งที่ฝันกับสิ่งที่เป็นจริงมันต่างกัน เพราะป้าลืมว่าตอนนี้เป็นหน้าหนาว 555
การเดินเข้าไปถ่ายรูปไม่ยาก แต่ต้องเตรียมใจว่าเปียกแน่นอน รองเท้าที่ใส่ลงไปต้องเปียกได้ และแนะนำให้ใส่รองเท้า เพราะช่วงน้ำแรง น้ำจะไม่ใสทำให้มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้บ้าง ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์จะมีชาวบ้านเอารองเท้าบูทมาให้เช่า ตัวฝายอยู่ใต้สะพาน มองจากข้างบนลงไปได้ มีบันไดทางลงเดินสะดวก พื้นล่างของคลองเป็นพื้นปูน ไม่ลื่น มีชิงช้าให้ถ่ายรูปด้วย ก็แล้วแต่จะชอบนะ
ทางเดินลง ปลอดภัยไม่ลื่น
มาวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีร้านขายของชุมชน
จากปางสวรรค์ ไปต่อกันที่ แก่นมะกรูด ซึ่งเค้าเคลมว่า “หนาวสุดกลางสยาม”
เพราะตำบลนี้อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง-ทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งถือเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทยและเอซียตะวันออกเฉียงใต้ กินพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และตาก และยังเชื่อมต่อไปยังอุทยานแห่งชาติในจังหวัด สุพรรณบุรี นครสวรรค์ อีกด้วย
ที่น่าสนใจคือที่นี่มีลักษณะคล้ายๆ กับจังหวัดทางภาคเหนือ อากาศเย็นตลอดปี เพราะยังเป็นป่าที่สมบูรณ์อยู่ มีกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น กระเหรี่ยง ละว้า ขมุ ถนนดี แต่ต้องฝีมือแน่หน่อยนะ มือใหม่ไม่แนะนำเพราะมีโค้งลาดชันที่อาจแหกโค้งได้ง่ายหลายโค้ง ป้าเองก็เพิ่งรู้ ดีนะที่ป้ามือเก่า ถ้าใครเคยขับรถขึ้นเขาค้อทางหล่มสัก สมัยที่ยังไม่ทำถนนดีอย่างปัจจุบัน อารมณ์เดียวกันเลย ป้าไม่เคยคิดจริงๆ ว่าอุทัยธานีมีที่แบบนี้อยู่
มาเที่ยว “เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ ไม้เมืองหนาว แก่นมะกรูด” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2
เหมาะกับสายถ่ายรูป ใครที่อยากไปยังทันนะ เค้าจัดถึง 31 ม.ค.68
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมุมถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆ ทั้งมุมสูงมุมต่ำ พื้นที่ไม่กว้างนัก แดดแรงมาก ป้าไม่ค่อยได้รูป เพราะกลัวแดด 555
ใกล้ๆ กันมีร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน พวกเสื้อผ้า งานฝีมือ ร้านอาหารของชาวบ้าน
วันที่ป้าไป กำลังสบาย 23 องศา
มุมถ่ายรูปสวยๆ
ถัดไปจากงานแสดงไม้ดอกเมืองหนาว ก็เป็นจุดแสดง 7 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งห้วยขาแข้ง มีควายป่า เสือโคร่ง เสือดาว สมเสร็จ กระทิง วัวแดง ช้างป่าและมีอนุสาวรีย์ของ คุณสืบ นาคะสเถียร
จุดหมายต่อไป วัดถ้ำเขาวง วัดสวยทรงไทย 4 ชั้น อยู่ติดเขา
ตัววัดเป็นไม้มีทั้งหมด 4 ชั้น แต่เดิมทุกอย่างของวัดอยู่ในทรงไทย 4 ชั้นนี้ ทั้งโบสถ์ กุฏิ ร้านขายของ (ป้าเคยไปตอนที่ยังเป็นแบบนั้น) ปัจจุบันส่วนที่เป็นไม้เริ่มทรุดโทรม กำลังซ่อมแซมบางส่วนให้เป็นปูน สร้างพระอุโบสถใหม่ใกล้ๆ กับเรือนไทยเดิม และมีกุฏิอยู่ด้านนอกเรือนไทย สาเหตุที่ชื่อว่าวัดถ้ำ ก็เพราะภูเขาด้านหลังมีถ้ำธรรมชาติ เป็นที่สำหรับวิปัสนาของพระสงฆ์
ปัจจุบันการเข้าวัดเดินรถทางเดียว (เมื่อก่อนเข้าออกทางเดียว ปัจจุบันเปิดทางเข้าใหม่ และทางเข้าเดิมเป็นทางออก) ป้าบอกไว้เผื่อคนที่เคยไปมาแล้วแบบป้า และ GPS จะพาไปทางเก่าซึ่งเป็นทางออก ถ้าขับตาม GPS ใกล้ๆ ถึง จะเห็นป้ายทางเข้า เชื่อป้ายด้วยนะ เข้าไปเลย จะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาใหม่
จากวัดถ้ำเขาวง ป้าๆ ก็เข้าที่พัก วันนี้ป้าพักที่ “บ้านชุบชูใจ”
รีสอร์ทน่ารัก ใหม่กิ๊ก กลางไร่อ้อย ที่ถ้าเข้ามาตอนกลางคืนต้องคิดว่า GPS พามาผิดทาง และตอนที่ป้าหาทางออกไปกินข้าว GPS ก็พาไปในทางที่โหดมาก จนต้องอาศัยความจำของตัวเองออกไป
ที่นี่ทั้งรีสอร์ทมีแค่ 3 หลัง จัดตกแต่งได้น่ารัก ลงตัวทั้งความสวยและประโยชน์ใช้สอย ป้าชอบม่านของเค้ามาก เหมือนเอาผ้ามาตัดเย็บเองน่ารักดี ขวดสบู่กับแชมพูก็น่ารัก รอบๆ บ้านเป็นสวนดอกไม้พวกดอกไม้ในวรรณคดี ดอกไม้ไทยโบราณ เช่น ราชาวดี พุดตาน ชมนาด อาคารด้านหน้าเป็นล็อบบี้ที่เรามากินอาหารเช้า แต่ที่โล่ง ถ้าเป็นหน้าร้อนอาจจะแดดแรงไปหน่อย
มี Welcom Drink และขนมด้วยนะ จัดจานมาอย่างดีสวยงาม
ห้องพักใหม่สะอาด หลังคาสูง คิดว่าหน้าร้อนก็ไม่น่าจะร้อนมาก
ป้าชอบขวด กับผ้าม่านเค้ามาก
เก็บข้าวของเสร็จก็ออกหาอาหารเย็น เจ้าของรีสอร์ทแนะนำอีกที่หนึ่ง แต่ป้าๆ ไป search เจออีกที่วิวสวย เลยลองไปดู ชื่อ Good View Coffee House ก็ Good View จริงๆ แหละ วิวสวย อาหารอร่อย ราคาทั่วๆ ไป มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์ ริมระเบียง และ Open air ก็เลือกตามถนัดเลย ตอนป้าๆ เข้าไป ไม่มีลูกค้าเลย จนคิดว่าร้านเค้าปิดแล้วหรือเปล่า แต่พอนั่งซักพัก มากันเต็ม
Good View สมชื่อ มีทั้งร้านกาแฟ และร้านอาหาร
เลือกมุมนั่งตามสบาย ป้าๆ นั่งบนระเบียง
วิวจากระเบียง สวยงาม
กลับเข้าที่พัก นั่งเมาท์มอย วางแผนการท่องเที่ยววันต่อไป เพราะเป็นวันสุดท้ายที่พวกป้าต้องกลับแล้ว ควรเก็บ Unseen ให้หมด
ถ้าป้าหลบงานได้ จะมารีวิวต่อนะ
ติดตาม Trip วันอื่นๆ ได้ที่
อุทัยธานี....มีดีกว่าที่คิด EP1 :
https://ppantip.com/topic/43210815
อุทัยธานี....มีดีกว่าที่คิด EP2 :
https://ppantip.com/topic/43213227
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้ที่เพจ "หลากหลาย By Artima"
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964
อุทัยธานี....มีดีกว่าที่คิด EP3 :
ป้าๆ Search เจอ “ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์” กับ “แก่นมะกรูด” ซึ่งเป็น Unseen Thailand เราก็ต้องไป และแถมอีกที่คือวัดถ้ำเขาวงถึงจะไม่ Unseen แต่ก็สวยเชิดหน้าชูตาได้
ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์อยู่ไม่ไกลจากที่พัก
มันก็คือฝายกั้นน้ำดีๆ นี่แหละ ถ้าขับรถผ่านเฉยๆ ไม่รู้มาก่อน อาจจะคิดว่าเป็นเขื่อนกั้นน้ำธรรมดา แต่จอดลงไปดูเถอะอลังการมาก ฝายนี้ชุมชนสร้างเพื่อชะลอการไหลของน้ำ แต่มีลักษณะต่างจากฝายทั่วไปฝายนี้มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมเป็นหลุม น้ำที่ตกลงไปในหลุมเลยกลายเป็นม่านน้ำสวยงาม และสามารถเดินลงไปถ่ายรูปกับน้ำตกได้
ขับรถผ่านดูไม่รู้หรอกว่าเป็นฝาย ถ้าไม่จอดรถลงดู
มีห้องแบบนี้ 2 ห้อง หน้าฝนน้ำเยอะน่าจะสวย
แนะนำให้มาฤดูฝน หรือต้นฤดูหนาว เพราะจะเห็นสายน้ำสวยงาม แต่ถ้าฝนตกหนักมาก น้ำเยอะเกินไป ก็ไม่สวย และถ้าน้ำแรงมากอาจเกิดอันตรายด้วย ป้าไปน้ำน้อยแล้ว เลยไม่ค่อยเห็น แต่ก็สวยนะ วันเสาร์อาทิตย์มีร้านขายของชุมชน อาหาร ขนม สินค้าพื้นเมือง ป้าไปวันธรรมดา ไม่มีของขาย และที่สำคัญไม่ค่อยมีคน ทำให้ถ่ายรูปกันได้สบายเลย ใกล้ๆ ฝายมีที่จอดรถแล้วเดินต่อไปนิดหน่อย
เมื่อสิ่งที่ฝันกับสิ่งที่เป็นจริงมันต่างกัน เพราะป้าลืมว่าตอนนี้เป็นหน้าหนาว 555
การเดินเข้าไปถ่ายรูปไม่ยาก แต่ต้องเตรียมใจว่าเปียกแน่นอน รองเท้าที่ใส่ลงไปต้องเปียกได้ และแนะนำให้ใส่รองเท้า เพราะช่วงน้ำแรง น้ำจะไม่ใสทำให้มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้บ้าง ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์จะมีชาวบ้านเอารองเท้าบูทมาให้เช่า ตัวฝายอยู่ใต้สะพาน มองจากข้างบนลงไปได้ มีบันไดทางลงเดินสะดวก พื้นล่างของคลองเป็นพื้นปูน ไม่ลื่น มีชิงช้าให้ถ่ายรูปด้วย ก็แล้วแต่จะชอบนะ
ทางเดินลง ปลอดภัยไม่ลื่น
มาวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีร้านขายของชุมชน
จากปางสวรรค์ ไปต่อกันที่ แก่นมะกรูด ซึ่งเค้าเคลมว่า “หนาวสุดกลางสยาม”
เพราะตำบลนี้อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง-ทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งถือเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทยและเอซียตะวันออกเฉียงใต้ กินพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และตาก และยังเชื่อมต่อไปยังอุทยานแห่งชาติในจังหวัด สุพรรณบุรี นครสวรรค์ อีกด้วย
ที่น่าสนใจคือที่นี่มีลักษณะคล้ายๆ กับจังหวัดทางภาคเหนือ อากาศเย็นตลอดปี เพราะยังเป็นป่าที่สมบูรณ์อยู่ มีกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น กระเหรี่ยง ละว้า ขมุ ถนนดี แต่ต้องฝีมือแน่หน่อยนะ มือใหม่ไม่แนะนำเพราะมีโค้งลาดชันที่อาจแหกโค้งได้ง่ายหลายโค้ง ป้าเองก็เพิ่งรู้ ดีนะที่ป้ามือเก่า ถ้าใครเคยขับรถขึ้นเขาค้อทางหล่มสัก สมัยที่ยังไม่ทำถนนดีอย่างปัจจุบัน อารมณ์เดียวกันเลย ป้าไม่เคยคิดจริงๆ ว่าอุทัยธานีมีที่แบบนี้อยู่
มาเที่ยว “เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ ไม้เมืองหนาว แก่นมะกรูด” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2
เหมาะกับสายถ่ายรูป ใครที่อยากไปยังทันนะ เค้าจัดถึง 31 ม.ค.68
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมุมถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆ ทั้งมุมสูงมุมต่ำ พื้นที่ไม่กว้างนัก แดดแรงมาก ป้าไม่ค่อยได้รูป เพราะกลัวแดด 555
ใกล้ๆ กันมีร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน พวกเสื้อผ้า งานฝีมือ ร้านอาหารของชาวบ้าน
วันที่ป้าไป กำลังสบาย 23 องศา
มุมถ่ายรูปสวยๆ
ถัดไปจากงานแสดงไม้ดอกเมืองหนาว ก็เป็นจุดแสดง 7 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งห้วยขาแข้ง มีควายป่า เสือโคร่ง เสือดาว สมเสร็จ กระทิง วัวแดง ช้างป่าและมีอนุสาวรีย์ของ คุณสืบ นาคะสเถียร
จุดหมายต่อไป วัดถ้ำเขาวง วัดสวยทรงไทย 4 ชั้น อยู่ติดเขา
ตัววัดเป็นไม้มีทั้งหมด 4 ชั้น แต่เดิมทุกอย่างของวัดอยู่ในทรงไทย 4 ชั้นนี้ ทั้งโบสถ์ กุฏิ ร้านขายของ (ป้าเคยไปตอนที่ยังเป็นแบบนั้น) ปัจจุบันส่วนที่เป็นไม้เริ่มทรุดโทรม กำลังซ่อมแซมบางส่วนให้เป็นปูน สร้างพระอุโบสถใหม่ใกล้ๆ กับเรือนไทยเดิม และมีกุฏิอยู่ด้านนอกเรือนไทย สาเหตุที่ชื่อว่าวัดถ้ำ ก็เพราะภูเขาด้านหลังมีถ้ำธรรมชาติ เป็นที่สำหรับวิปัสนาของพระสงฆ์
ปัจจุบันการเข้าวัดเดินรถทางเดียว (เมื่อก่อนเข้าออกทางเดียว ปัจจุบันเปิดทางเข้าใหม่ และทางเข้าเดิมเป็นทางออก) ป้าบอกไว้เผื่อคนที่เคยไปมาแล้วแบบป้า และ GPS จะพาไปทางเก่าซึ่งเป็นทางออก ถ้าขับตาม GPS ใกล้ๆ ถึง จะเห็นป้ายทางเข้า เชื่อป้ายด้วยนะ เข้าไปเลย จะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาใหม่
จากวัดถ้ำเขาวง ป้าๆ ก็เข้าที่พัก วันนี้ป้าพักที่ “บ้านชุบชูใจ”
รีสอร์ทน่ารัก ใหม่กิ๊ก กลางไร่อ้อย ที่ถ้าเข้ามาตอนกลางคืนต้องคิดว่า GPS พามาผิดทาง และตอนที่ป้าหาทางออกไปกินข้าว GPS ก็พาไปในทางที่โหดมาก จนต้องอาศัยความจำของตัวเองออกไป
ที่นี่ทั้งรีสอร์ทมีแค่ 3 หลัง จัดตกแต่งได้น่ารัก ลงตัวทั้งความสวยและประโยชน์ใช้สอย ป้าชอบม่านของเค้ามาก เหมือนเอาผ้ามาตัดเย็บเองน่ารักดี ขวดสบู่กับแชมพูก็น่ารัก รอบๆ บ้านเป็นสวนดอกไม้พวกดอกไม้ในวรรณคดี ดอกไม้ไทยโบราณ เช่น ราชาวดี พุดตาน ชมนาด อาคารด้านหน้าเป็นล็อบบี้ที่เรามากินอาหารเช้า แต่ที่โล่ง ถ้าเป็นหน้าร้อนอาจจะแดดแรงไปหน่อย
มี Welcom Drink และขนมด้วยนะ จัดจานมาอย่างดีสวยงาม
ห้องพักใหม่สะอาด หลังคาสูง คิดว่าหน้าร้อนก็ไม่น่าจะร้อนมาก
ป้าชอบขวด กับผ้าม่านเค้ามาก
เก็บข้าวของเสร็จก็ออกหาอาหารเย็น เจ้าของรีสอร์ทแนะนำอีกที่หนึ่ง แต่ป้าๆ ไป search เจออีกที่วิวสวย เลยลองไปดู ชื่อ Good View Coffee House ก็ Good View จริงๆ แหละ วิวสวย อาหารอร่อย ราคาทั่วๆ ไป มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์ ริมระเบียง และ Open air ก็เลือกตามถนัดเลย ตอนป้าๆ เข้าไป ไม่มีลูกค้าเลย จนคิดว่าร้านเค้าปิดแล้วหรือเปล่า แต่พอนั่งซักพัก มากันเต็ม
Good View สมชื่อ มีทั้งร้านกาแฟ และร้านอาหาร
เลือกมุมนั่งตามสบาย ป้าๆ นั่งบนระเบียง
วิวจากระเบียง สวยงาม
กลับเข้าที่พัก นั่งเมาท์มอย วางแผนการท่องเที่ยววันต่อไป เพราะเป็นวันสุดท้ายที่พวกป้าต้องกลับแล้ว ควรเก็บ Unseen ให้หมด
ถ้าป้าหลบงานได้ จะมารีวิวต่อนะ
ติดตาม Trip วันอื่นๆ ได้ที่
อุทัยธานี....มีดีกว่าที่คิด EP1 : https://ppantip.com/topic/43210815
อุทัยธานี....มีดีกว่าที่คิด EP2 : https://ppantip.com/topic/43213227
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้ที่เพจ "หลากหลาย By Artima"
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964