หลอกลวงในหลักสูตรของสถาบันชื่อดัง เสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดีหลอกลวงในหลักสูตรอบรมจากสถาบันชื่อดังที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในวงการธุรกิจ เผยว่าตอนนี้มีเหยื่อ 2 รายจากวงการเครื่องมือแพทย์ได้รับความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท
เหยื่อรายแรกซึ่งเป็นนักธุรกิจในวงการเครื่องมือแพทย์ ระบุว่าได้สูญเงินกว่า 50 ล้านบาท หลังจากลงทะเบียนเรียนหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจ โดยได้รับการชักชวนจากที่ปรึกษาคนดังซึ่งเป็นตัวแทนโปรโมทหลักสูตร เหยื่อรายนี้กล่าวว่า
“คำพูดที่ปรึกษาทำให้เรารู้สึกว่าโอกาสนี้คือหนทางที่จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ แต่กลับกลายเป็นหลุมพรางทางการเงิน”
เหยื่อรายที่สอง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอีกคนในอุตสาหกรรมเดียวกัน สูญเงินสูงถึง 150 ล้านบาท โดยระบุว่าถูกโน้มน้าวให้ลงทุนในโครงการเสริมที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรดังกล่าว โดยมีการรับประกันผลตอบแทนที่สูงและเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับไม่มีผลตอบแทนใด ๆ เกิดขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: หลักฐานคลิปที่เกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คดีนี้มีหลักฐานสำคัญเป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกการสนทนาในระหว่างการประชุมที่ปรึกษาและผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งอาจเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงการกระทำที่เข้าข่ายฉ้อโกง
กรณีหลอกลวงในหลักสูตรของสถาบันชื่อดังที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้สร้างความตื่นตัวในแวดวงธุรกิจอย่างมาก การสูญเสียรวมกว่า 200 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องเล็ก และยังสะท้อนปัญหาใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของการอบรมหรือหลักสูตรพัฒนาตัวเอง
1. การตลาดที่มีความน่าเชื่อถือสูง
หลักสูตรนี้ได้รับการโปรโมทผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทในวงการธุรกิจ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวผู้แนะนำ
2. การโน้มน้าวใจด้วยผลตอบแทนที่ล่อตาล่อใจ
การสัญญาถึงผลตอบแทนที่สูงและรวดเร็ว โดยอ้างว่าหลักสูตรนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด
3. การใช้เทคนิคจิตวิทยาเพื่อดึงดูด
บรรยากาศของการอบรมและคำพูดของที่ปรึกษา ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกถึงแรงกดดันที่จะตัดสินใจทันที
บทเรียนสำคัญสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการ
1. ตรวจสอบแหล่งที่มาให้รอบคอบ
ก่อนลงทุนในหลักสูตรหรือโครงการใด ๆ ควรศึกษาประวัติของสถาบันและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบความคิดเห็นหรือรีวิวจากผู้ที่เคยเข้าร่วม
2. อย่าหลงเชื่อคำพูดที่เกินจริง
หากมีการการันตีผลตอบแทนที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง หรือเร่งรัดให้ตัดสินใจ ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน
3. เก็บหลักฐานและข้อมูลทุกครั้ง
หากต้องลงทุนเงินจำนวนมาก ควรจัดเก็บเอกสารหรือหลักฐานการพูดคุย รวมถึงเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ปกป้องสิทธิ์ของตนในอนาคต
ถูกหลอกในหลักสูตรของสถาบันชื่อดัง เสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท วงการเครื่องมือแพทย์เป๋ !
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดีหลอกลวงในหลักสูตรอบรมจากสถาบันชื่อดังที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในวงการธุรกิจ เผยว่าตอนนี้มีเหยื่อ 2 รายจากวงการเครื่องมือแพทย์ได้รับความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท
เหยื่อรายแรกซึ่งเป็นนักธุรกิจในวงการเครื่องมือแพทย์ ระบุว่าได้สูญเงินกว่า 50 ล้านบาท หลังจากลงทะเบียนเรียนหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจ โดยได้รับการชักชวนจากที่ปรึกษาคนดังซึ่งเป็นตัวแทนโปรโมทหลักสูตร เหยื่อรายนี้กล่าวว่า
“คำพูดที่ปรึกษาทำให้เรารู้สึกว่าโอกาสนี้คือหนทางที่จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ แต่กลับกลายเป็นหลุมพรางทางการเงิน”
เหยื่อรายที่สอง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอีกคนในอุตสาหกรรมเดียวกัน สูญเงินสูงถึง 150 ล้านบาท โดยระบุว่าถูกโน้มน้าวให้ลงทุนในโครงการเสริมที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรดังกล่าว โดยมีการรับประกันผลตอบแทนที่สูงและเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับไม่มีผลตอบแทนใด ๆ เกิดขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: หลักฐานคลิปที่เกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คดีนี้มีหลักฐานสำคัญเป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกการสนทนาในระหว่างการประชุมที่ปรึกษาและผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งอาจเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงการกระทำที่เข้าข่ายฉ้อโกง
กรณีหลอกลวงในหลักสูตรของสถาบันชื่อดังที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้สร้างความตื่นตัวในแวดวงธุรกิจอย่างมาก การสูญเสียรวมกว่า 200 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องเล็ก และยังสะท้อนปัญหาใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของการอบรมหรือหลักสูตรพัฒนาตัวเอง
1. การตลาดที่มีความน่าเชื่อถือสูง
หลักสูตรนี้ได้รับการโปรโมทผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทในวงการธุรกิจ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวผู้แนะนำ
2. การโน้มน้าวใจด้วยผลตอบแทนที่ล่อตาล่อใจ
การสัญญาถึงผลตอบแทนที่สูงและรวดเร็ว โดยอ้างว่าหลักสูตรนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด
3. การใช้เทคนิคจิตวิทยาเพื่อดึงดูด
บรรยากาศของการอบรมและคำพูดของที่ปรึกษา ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกถึงแรงกดดันที่จะตัดสินใจทันที
บทเรียนสำคัญสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการ
1. ตรวจสอบแหล่งที่มาให้รอบคอบ
ก่อนลงทุนในหลักสูตรหรือโครงการใด ๆ ควรศึกษาประวัติของสถาบันและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบความคิดเห็นหรือรีวิวจากผู้ที่เคยเข้าร่วม
2. อย่าหลงเชื่อคำพูดที่เกินจริง
หากมีการการันตีผลตอบแทนที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง หรือเร่งรัดให้ตัดสินใจ ควรตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน
3. เก็บหลักฐานและข้อมูลทุกครั้ง
หากต้องลงทุนเงินจำนวนมาก ควรจัดเก็บเอกสารหรือหลักฐานการพูดคุย รวมถึงเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ปกป้องสิทธิ์ของตนในอนาคต