[CR] No.137 มันดาลา (Rivulet of Universe) (2567) : ขีดเวลา ปลุกตำนาน เรียกศรัทธา สู่การค้นหา ของ คำว่า “บ้าน“


- หลังจากดูจบคือ มึน จับความไม่ถูกว่าเนื้อเรื่องคืออะไร ? กำลังพูดถึงอะไร ? ดูแค่ Poster อย่างเดียวก็อนุมานว่าคงจะเป็น Feel ลึกลับพิศวงขายวิถีไทบ้านที่คลับคลากับเรื่องที่เคยดูมาอย่าง ที่รัก : Eternity (2553) , เวลา : Anatomy Of Time (2564) หรือ หนังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง บ่มีวันจาก : The Long Walk (2019) แหล่ะ ซึ่งมันมีกลิ่นอายที่ว่านั่นแต่กว่าจะถึงนานมากแถมไม่ได้แสดงตรง ๆ ว่า Scene ไหนจะให้กูสะดุ้งแล้วกรี๊ดแตกออกมา มันค่อย ๆ พาเราดื่มด่ำไปกับสารที่แฝงนัยยะผ่านบรรยากาศผ่านห้วงเวลาตามอำเภอใจของผู้กำกับ ซึ่งมันเล่นกับความรู้สึกได้ผล ถึงแม้จะเข้าถึง Details แต่ละคำยากลำบากเหมือนเดินอยู่ในป่าลับแลยังไงยังงั้น

- ความที่เพิ่งเข้ามาดูตัวหนังก็ Run ไปแล้ว 10 นาทีก็เห็นภาพชายคนหนึ่งนั่งมองวิวข้างทางที่ห้อมล้อมด้วยทุ่งนาและภูเขาขจีราวกับเป็นพระเอก MV เพลงเพื่อชีวิตอยู่ในรถไฟสายหนึ่งที่ไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน ? จากนั้นภาพได้ตัดไปที่ชายคนนี้นั่งกินข้าวกลางวันร่วมกับเพื่อนพนักงานมีการเม้ามอยถามไถ่ชีวิตส่วนตัว เรื่องประจำวัน ยันเรื่องแกงที่กำลังตักเข้าปากแล้วภาพก็ได้เปลี่ยนเป็นฉากสีดำพร้อมกับชื่อเรื่องจ่าหัวตัวโต ตั้งแต่ตอนที่กลุ่มนักเรียนแสดงละครรำเกี่ยวกับตำนานนี้โดยมีเสียงเครื่องดนตรีไทยบรรเลงประกอบก่อนที่จะเผลอวูบไปทั้งที่เพิ่งผ่านชื่อเรื่องปรากฎได้ไม่นาน ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาตอนที่คู่ชาย-หญิงวัยฮอร์โมนนั่งถามไถ่สุขชีวิตตรงหน้าริมบึงมั้ง ? ว่าจะเรียนต่อที่ไหนดี ? แต่ยังเรียบเรียงไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะ Focus อะไรก่อนระหว่างตัวละครฝั่งวัยรุ่นหรือฝั่งผู้ใหญ่

- ถึงระหว่างดูมีอาการวูบ ๆ ตื่น ๆ บวกคำถาม มี Scene ที่ชอบอยู่ เช่น Scene วัยรุ่นชายขี่มอเตอร์ไซต์คันหนึ่งโดยมีสาวนั่งซ้อนท้ายพร้อมกับมีรถมอเตอร์ไซต์ขี่ตามหลังอยู่ 2 คันบนท้องถนนคิดในใจว่า 2 คันหลังจะแซงกันกี่โมง ?  ก่อนที่ทั้งคู่จะเลี้ยวไปอีกทางแล้วภาพก็หันมา Focus ที่วัยรุ่นกระโปรงบานขาสั้น 3 คนนั่งมองรถคันนั้นอยู่อีกฝั่งหนึ่ง กับ Scene ที่ จิต พิม ทัต นั่ง 3 เส้าบนท้ายรถกระบะด้วยวิธีการถ่ายภาพ Long Take แบบ One กับ Second Person View ก็ดีที่ Flow ข้างหน้ายาว ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ และช่วงที่ จิต ยืนประจันหน้ากับปราสาทพิมายแล้วภาพบนท้องฟ้าเหมือนมีคลื่นพลัง Cosmic จับตัวรวมกันพร้อมกับมีแสงแฟลร์กระทบสายตาที่มันจ้าซะเหลือเกิน ก็เป็น Scene ที่งดงามทั้งด้านภาพและทรงพลังทางความรู้สึกจนแอบคิดว่าเหมือนจ้าง JJ Abrams มากำกับ

- ถึงยังมึนอยู่แต่โดยรวมชอบที่หนังสามารถนำเรื่องเล่ามาตีความในมุมต่างออกไปได้น่าสนใจโดยยังคงรักษาความเป็นมาของตำนานท้าวปาจิตหรือปราสาทพิมายในอำเภอโคราชซึ่งเป็นหัวใจสำคัญจนอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าทราบมาก่อนจะ Get ในสิ่งที่หนังกำลังสื่อในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 34 นาทีได้ไม่ยาก ซึ่งสวนทางกับผมที่รู้สึกเหมือนดูขุนช้าง ขุนแผน เวอร์ชั่นลึกลับอิงประวัติศาสตร์ความเป็นไทบ้านร่วมสมัยมากกว่ามุ่งไปที่รัก 3 เส้า เปิดศึกชิงนางตัว ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการนำเสนอที่น่าสนใจ บางช่วงให้เวลากับ Part วัยรุ่นนานไปจนเกือบจะลืม Part ผู้ใหญ่ที่ปูปมไปก่อนหน้านี้ แต่พอได้พื้นที่คืนกลายเป็นว่ามันค่อย ๆ แสดงความลึกลับออกมาจนไหลไปทาง Fantasy นิด ๆ โดยเฉพาะบรรยากาศในป่าหลอนเรื่องอยู่ ก่อนจะกลับมาเป็นเนื้อเดียวกันเพื่อพักเบรกหย่อนใจก่อนจะ Start รถบิดคันเร่งที่มือแล้วเหยียบเกียร์เท้าออกไปจนเผลอพุ่งทะลุเพดานพังจนอึ้งรับประทานในช่วงท้าย 

- บ้าน สำหรับบางคนอาจไม่ใช่สถานที่เกิดหรือเติบโตมา บางทีอาจจะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ได้จำกัดแค่ตัววัตถุ บางคนอยากออกจากบ้านที่เคยอยู่มาแต่เกิดเพื่อออกไปแสวงหาที่อยู่ใหม่ที่ชื่อว่า บ้าน กับ บางคนก็อยากจะกลับ บ้าน เดิมที่เคยจากมานาน ขึ้นอยู่ว่าจะนิยามกันในมุมของคน ๆ นั้นอย่างไร ?
 
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
ชื่อสินค้า:   Review By EMistique
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่