-  เห็นด้วยกับเสียงตามเพจรีวิวหนังเรื่องนี้ว่า มึน และ งง เดาไม่ถูกเลยว่าแต่ละ Scene จะไปทางไหน แต่พอจะประติดประต่อกับอะไรเป็นยังไงกันได้ประมาณนึง ชอบในบรรยากาศความลึกลับพิศวงสไตล์ฟิลม์-นัวร์ยุค 90 ที่ไม่ได้เน้นกับอารมณ์ให้ตกใจตอนทีเผลอแต่เลือกที่จะถ่ายทอดภาพหม่น ๆ เก่า ๆ ผสมกับมุมกล้อง VHS ช่วยกระตุ้นไปกับความรู้สึกของเราให้มีส่วนร่วมกับเรื่องราวได้มากกว่าแต่เหมือนนำพาไปได้ไม่สุดทางเพราะดันใส่อะไรที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไปจนมันไปบดศทางของการเล่าเรื่องให้ยุ่งเหยิงเข้าไปอีก แม้ระยะทางจะดูขัดตาขัดใจไปหมดแต่ Details รายทางก็ทำให้เราเก็บไปคิดกันต่อได้ในภายหลังอยู่ไม่น้อย

-  ขณะเดียวกันมันก็มีจุดสังเกตุหลายอย่างที่ทำให้เราเอะใจ และ สงสัยอยู่เรื่อย ๆ เช่น ฉากเส้นถนนไฮเวย์ , ชายหน้าขาวลึกลับ , ม้วนวีดีโอ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนเป็นคนละคนขึ้นมาอย่างฉับพลัน ผมดันนึกถึงเรื่อง บอดี้ศพ#19 ขึ้นมาทันที แต่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้ถูกเล่าเพื่อโชว์ไอเดีย เบ่งวิสัยทัศน์ของผู้กำกับเพื่อแต่งเติมเนื้อเรื่องให้มีเนื้อที่เพิ่มขึ้นแค่นั้น โดยไม่ได้มีการขยี้ลงในส่วนต้นสายปลายเหตุให้เราเข้าใจลงลึกไปกับบทต่อได้แม้แต่น้อย โดยเฉพาะช่วงแรกเป็น Part ที่ผมรู้สึกพอใจที่สุด จึงปล่อยให้เป็นปริศนาธรรมกันต่อไป

-  เพราะการตัดต่อที่เร่งรีบ ข้ามจากฉากนึงไปอีกฉากนึงทันทีโดยไม่ทันได้เสพบริบทในขณะนั้นให้เสร็จเรียบร้อยแถมขาดความต่อเนื่องในการเชื่อมโยงระหว่างเนื้อเรื่องกับคนดูให้เข้าใจความอีก จึงขาดความสมเหตุสมผลของบทเป็นอย่างมากแต่ยังดูสนุก น่าติดตามต่อไปอยู่เพราะปมที่ค่อย ๆ เข้ามาทีละอย่างมันมีอะไรให้คิดตามกันอยู่เป็นระยะ อุปสรรคอีกอย่างคือ Timeline เล่นสลับไปมาจนปวดหัวและน่ารำคาญแถมยังวนอ่างอยู่กับฉาก Sex ซะส่วนมากจนกลายเป็นความพร่ำเพรื่อเกินเหตุแถมมันไปบดบังการเล่าเรื่องในส่วนอื่นที่ควรพูดถึงมากกว่าอย่างเช่น ปมของตัวละคร หรือ การสืบสวน ดูอ่อนบางทันทีแถมมั่วซั่วสะเปะสะปะไปหมด ผมว่าถ้าเลือกนำเสนอแบบง่าย ๆ ซื่อตรงตาม Pattern ใน Way ที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้น ไม่ต้องอธิบายท่ายากมากความ หนังเรื่องนี้จะน่าสนใจมากขึ้น เพราะยังไง Concept ของ Psychology-Thriller มันขายได้ในตัวของมันอยู่แล้ว

-  สรุปคือ ชอบบางส่วนและไม่ชอบหลายอย่าง เพราะมีอารมณ์มวลสารมากมายที่ให้พูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้เต็มไปหมด ขณะที่ดูไปแต่ละ Scene จึงเต็มไปด้วยคำถามตลอดทางตั้งแต่ต้นเรื่องกระทั่งบทสรุปของเรื่องก็ยังไม่รู้ว่าแก่นสารแท้จริงคืออะไร คำตอบคืออะไร ขนาดว่าผมดูหนังอินดี้มาหลายเรื่องแล้วมาเจอกับเรื่องนี้ถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน แต่พอปล่อยให้เวลาผ่านไปมีความรู้สึกว่าหนังมันมี Details หลายอย่างที่ตกตามทางให้เราเก็บไปคิดกันให้พูดถึงได้เรื่อย ๆ ตามทัศนคติ มุมมองของตนเอง ซึ่งมันก็สนุกไปอีกแบบนึงเหมือนกันชื่อเรื่องที่ตั้งขึ้นมีความน่าสนใจอยู่แต่ไม่ได้ถูกใช้ให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร อย่างน้อยได้พลังฝีมือการแสดงนำอย่าง Bill Pullman , Patricia Arquette , Balthazar Getty และลุงหน้าขาวที่รับบทโดย Robert Blake ช่วยประคองเรื่องได้ดีอยู่ เพียงแต่ว่าการเล่าเรื่องมันนมึน ๆ งง ๆ จึงไปกลบพลังการแสดงของพวกเขาให้ Drop ลงไปอย่างมาก ซึ่งแน่นอน Plot ไม่แปลกใหม่อยู่แล้วแต่สไตล์การนำเสนอของผู้กำกับ David Lynch ที่ทำตามใจฉันมากกว่าสนใจความคิดเห็นของคนดูว่าจะรู้สึกอย่างไรภาพรวมที่เห็นจึงกลายเป็นผลงานโชว์ของส่วนตัวของในเมื่อเรานำเสนอเรื่องของเราแล้วที่เหลือก็เป็นเรื่องของคุณที่จะทำอย่างไรต่อเท่านั้นเอง

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT และ Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ