[TACTIC] ลิเวอร์พูล 2000-01 เทรเบิ้ลแชมป์

ถ้าจะเข้าใจว่าทำไม "ไมเคิล โอเวน" ได้บัลลง ดอร์ 20001 ก็ต้องเข้าใจแผนการเล่นก่อน
มันเป็นแผนการเล่นที่ "โอเวน" รับภาระหนักมาก
ขอขอบคุณ goal.com/th สำหรับชื่อนักเตะภาษาไทย
ถ้าอยากดู Full Matchs ลิเวอร์พูลยุคเก่า Youtube ช่อง Dave Waller มีให้เลือกดูกันได้

ลิเวอร์พูลฤดูกาล 2000-2001 ต้องลงเล่นทั้งหมด 63 นัดในทุกรายการ เท่ากับฤดูกาล 2021-22 ที่ลุ้น 4 แชมป์
เชราร์ อุลลิเยร์ จึงต้องบริหารจัดการผู้เล่นอย่างละเอียดให้เล่นได้จนจบฤดูกาล
ผมใส่จำนวนนัดที่ลงเล่นแทนจำนวนประตูเพราะอยากให้เห็นการบริหารจัดการ

แผนการเล่นบนกระดานถึงจะเป็น 4-4-2 แต่เวลาเล่นจริงจะเป็น 4-1-3-1-1 ทั้งรุกและรับ

กองหลังเล่น 4 คน แต่ทั้ง 4 คน เป็นตัวเน้นรับหมดเลยไม่มีแบ็กเกมบุก 13 นัดในยูฟ่าคัพ ไม่เสียประตูถึง 9 นัด
ตัวจริงทั้ง 4 คน เล่นกันเกิน 50 นัดทุกคน

อองโชซ์ เป็นตัวชน วิ่งเข้าหาตัวรุกคู่ต่อสู้ ใช้ร่างกายเยอะจนหมดแรงในนัดชิงยู่ฟ่าคัพกับอลาเบส เกมนั้นเลยเสียประตูเยอะ
ฮูเปีย ตัวกวาด เก็บตกหลังจากที่ "อองโชซ์" เข้าปะทะไปก่อน แกคุมแผงหลังได้เป็นอย่างดี  จนได้อันดับ 18 บัลลง ดอร์ 2001
มาร์คุส บับเบิ้ล แบ็คขวาที่เน้นรับ แต่ก็ค่อยเติมขึ้นไปเติมต่อบอลกับพวกกลางรุกอยู่เสมอ
คาร์ราเกอร์ แบ็คซ้ายที่เน้นรับสุดๆวิ่งไล่บอลไม่มีหมด ความใจสู้ของแกช่วยทำให้ตัวรุกฝั่งตรงข้ามเล่นยาก 

กองกลางตัวรับ : ดีทมาร์ ฮามันส์ ผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง
เกมรุกคอยเคลื่อนที่ให้เพื่อนสามารถต่อบอลขึ้นไปจากแดนตัวเองได้ง่าย
เกมรับคอยวิ่งแก้ไขจังหวะผิดพลาดของเพื่อนร่วมทีม วิ่งไปช่วยปิดตัวรุกฝั่งตรงข้ามให้เพื่อนแย่งบอลได้ง่ายขึ้น
สรุปคือ การเคลื่อนที่ของ "ฮามันส์" ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ง่ายขึ้นทั้งรับและรุก

กองกลางตัวรุกเลือก 3 จาก 6 คอยหมุนเวียนกันลงเพื่อรักษาความฟิต  
ซมิเซอร์ เป็นตัวลากเลื้อยเล่นทั้งฝั่งซ้ายและขวา ตัวจริง 31 นัด สำรอง 18 นัด 
แม็คอัลลิสเตอร์ เป็นกองกลางที่จ่ายบอลแม่นมาก ลูกจ่ายของเขาพาทีมคว้าชัยในนัดชิงยูฟ่าคัพ ตัวจริง 31 นัด สำรอง 18 นัด
เมอร์ฟี กองกลางเทคนิคดี ยิงก็ได้จ่ายก็ได้ พื้นฐานเป็นกลางรุกธรรมชาติ ตัวจริง 28 นัด สำรอง 19 นัด
นิค บาร์มบี้ สายเทคนิคอีกนึ่งคน ตัวจริงครี่งฤดูกาลแรกก่อนเจ็บไปกลางฤดูกาล ตัวจริง 31 นัด สำรอง 15 นัด
แบร์เกอร์ เป็นตัวลากเลื้อยเท้าซ้ายธรรมชาติ ถ้าไม่เจ็บก็ถูกส่งลง แต่ดันเจ็บบ่อย ตัวจริง 15 นัด สำรอง 6 นัด

สตีเฟน เจอร์ราร์ด เป็นฤดูกาลที่เขาเล่นเป็น "กองกลาง" ได้ดีที่สุดจนได้อันดับ 25 บัลลงดอร์ ก่อนกลายพันธ์เป็นกลางสอดเข้าไปยิง
เจอร์ราร์ด มีทีเด็ดที่ลูกยิงไกล เล่นได้อย่างอดทน รู้ว่าจังหวะไหนควรเติม จังหวะไหนควรเข้าไปช่วยเกมรับ 
ฤดูกาลนี้ "เจอร์ราร์ด" เล่นไปถึง 50 นัด ตัวจริง 44 นัด ยิงไป 10 ประตู

กองหน้าตัวเป้า: เอมิล เฮสกีย์ 
ฤดูกาล 2000-01 ได้เล่นเป็นหน้าเป็าจริงๆ ยืนอยู่บนสุด คอยเก็บบอล พักบอล ชนกับกองหลังในกรอบและนอกกรอบเขตโทษ 
ก่อนที่ในฤดูกาลต่อๆมาต้องถอยลงมาเรื่อยๆ เพราะ เจอร์ราร์ด, เมอร์ฟี่ และ ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ เติมขึ้นสูงตลอดทั้งเกม 
เฮสกีย์ ลงเล่นถึง 56 นัด ทำไป 22 ประตู

กองหน้าที่ทำทุกอย่าง : ไมเคิล โอเว่น
หน้าที่ของ "โอเวน" ในฤดูกาลนี้หนักมาก 
1. คอยลงต่ำไปเล่นกับตัวรุก 3 คน เวลาที่ทำเกมบุกด้วยการต่อบอล
2. เวลาทีมถูกบุกก็ต้องไปช่วยเล่นเกมรับในแดนตัวเอง ทั้งยืนคุมโซน และวิ่งแย่งบอล
3. เวลาทีมจะสวนกลับเร็วก็ต้องวิ่งกลับขึ้นไปกรอบเขตโทษฝั่งตรงข้ามจากที่ยืนเล่นเกมรับแดนตัวเอง
4. ถ้ากลางรุกสามคนเติมสูงมาก "โอเวน" ก็ต้องลงต่ำไปคอยป้องกันคู่ต่อสู้สวนกลับเร็ว

มันเป็นแผนการเล่นที่ใช้งาน "โอเวน" หนักมาก ต้องวิ่งขึ้นลงระหว่างฝั่งตัวเอง กับกรอบเขตโทษคู่ต่อสู้
โอเวน ก็เป็นอีกคนที่หมดแรงในนัดชิงยูฟ่าคัพ ก่อนหน้านั้นแกจ่ายให้  "เจอร์ราร์ด" ยิง และเรียกจุดโทษไปแล้ว
แกถูกพักในถ้วยลีก คัพ เพื่อเก็บความสดในเกมยูฟ่า คัพ เพราะระหว่างทางเจองานหนักมากอย่าง โรม่า, บาร์เซโลน่า และปอร์โต้
โอเวน ลงเล่นทั้งหมด 46 นัด ทำไป 24 ประตู  

อาทิตย์หน้าจะเล่าถึง "บัลลง ดอร์" 2001 ใครมีผลงงานอะไรบ้างทำไม "โอเวน"ถึงได้ที่ 1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่