จากกระทู้ปลูกข้าว ที่เรามาแชร์ให้เพื่อนๆ เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา เราเกี่ยวข้าวไปเดือนพฤศจิกายน ได้ข้าวเปลือก 542 กก 
ก่อนที่เราจะเกี่ยวข้าว ในใจก็คิดว่าจะเอาไปขายยังไงดี แล้วจะมีคนมาซื้อข้าวเราบ้างมั๊ย พอคิดได้ว่าใกล้ปีใหม่ ถ้าเราทำชุดข้าวเป็นของขวัญปีใหม่น่าจะดี แต่ในใจก็คิดว่าแค่ข้าวถุงละ 1 กก จะทำยังไงให้ดูน่าซื้อ และ น่าสนใจนะ? แล้วใครจะมาสนใจข้าวเราละ?
ด้วยความไม่มั่นใจ แต่อยากขายข้าว ก็เลยคิดว่าจะหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาช่วยพิ่มความน่าสนใจ ในหัวก็คิดถึงแค่ 2  คนที่เรารู้จักก็คือพี่อรุณี จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรทฤษฎีใหม่หัวใจอินทรีย์ และพี่ยุทธ์ หรือ ไร่จอมยุทธ์ 
ด้วยความออร์แกนิคของแป้งกล้วยพี่ณี และ ไซรัปน้ำอ้อยออร์แกนิคจากไร่จอมยุทธ์ ทำให้เรามั่นใจขึ้นมานิดนึงว่า มันต้องขายได้บ้างละ เลยตัดสินใจสั่งมาอย่างละ 100 กระปุก เราก็สั่งกระเป๋าผ้าไปอีก 100 ใบ เราทำราคาไปชุดละ 300 บาท ซึ่งแอบคิดเอาเองว่าไม่แพงมากนัก
ปลายเดือน พ.ย เริ่มจากการโฆษณาขายพี่ๆ น้องๆ ได้ออร์เดอร์มา 2 ชุด ญาติแฟนไม่สนชุดของขวัญ แต่ช่วยซื้อข้าวไป 20 กก รู้สึกดีใจมากๆ ที่การปลูกข้าวครั้งแรก และสีข้าวเอง เราขายได้ตั้ง 20 กก ก็แอบเสียดายชุดของขวัญที่ตั้งใจทำ
ปลายเดือน ธ.ค หลังจากที่ไปทำงานมา 1 เดือน เรากลับไปใกล้ช่วงปีใหม่พอดี เราก็เริ่มสั่งป้าย ทำโฆษณาอยู่พักใหญ่ ก็ไม่มีวี่แวว ว่าชุดของขวัญปีใหม่เราจะขายได้เลย มาขายได้อีกทีคือหลังปีใหม่ 2 ชุด และ พี่ๆที่รู้จักกันอีก 1 ชุด เบ็ดเสร็จ ชุดของขวัญปีใหม่ 100 ชุด ออกไปแค่ 5 ชุด
ผิดหวังอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่มาก เพราะเผื่อใจไว้แล้วว่าของเราอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปต้องการ
จากความตั้งใจแรกที่จะขายชุดของขวัญ แต่ดันขายไม่ออก เราก็เน้นขายข้าวอย่างเดียวละ เพราะราคาไม่แรงเท่าแป้งกล้วยกับไซรัป ซื้อข้าวเยอะ เราก็แจกถุงผ้า แจกแป้งกล้วยไปเลยจ้า
ส่วนไซรัป ในเมื่อมันไม่ออก เราก็มาทำเป็นไซรัปน้ำอ้อยมะนาว ยังโชคดีที่เราเอาไปฝากขายที่ร้านพี่สาวได้ (แต่ร้านพี่เราก็ค่อนข้างเงียบเหงาเหมือนกัน)
ในความฝันที่กำลังจะดับลง พี่ที่รู้จักกันซื้อข้าวไปแจกเพื่อนบ้าน 10 กก และ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน มีลูกค้าที่ร้านพี่สาวซื้อข้าวไปแจกปีใหม่อีก 10 กก แล้วลูกค้าที่น่ารักทั้ง 2 คน ก็สั่งข้าวเราเพิ่มอีกคนละ 20 กก และ 24 กก บวกกับคนในหมู่บ้านอีก 13 กก ทำให้เราขายข้าวได้อีก 73  กก
ช่วงปีใหม่เราตั้งใจกลับมาสวน พอดีเจอน้องที่ซื้อที่ติดกัน คุยเรื่องข้าว และ สีข้าว แล้วครอบครัวนี้ก็กินข้าวออร์แกนิคอยู่แล้ว แถมปลูกผักกินเองอีก ทำให้เราได้ออร์เดอร์มาอีก 10 กก
คืนนั้นเราสองคนก็รีบสีข้าว แล้วก็สีเผื่อไปฝากขายที่ร้านด้วยอีกรวม 28  กก ตอนเช้าน้องแวะมารับข้าว เห็นข้าวในกล่องก็เลยเหมาไปหมดเลยทั้ง 28 กก
ผ่านปีใหม่ไปไม่กี่วัน น้องโทรมาอีกว่าคุณพ่อชอบข้าวกล้องของเรา และอยากสั่งให้สีเพิ่มอีก 20 กก ส่วนข้าวเปลือกที่เหลือทั้งหมดอีก 140 กก ก็จองไว้หมด ค่อยๆทยอยสีให้เดือนละ 20 กก
ส่วนพี่ที่ซื้อไปแจกน้องๆที่ทำงานก็ส่งข้อความมาให้ว่า ข้าวกล้องเราไม่แข็ง (แสดงว่าอร่อย)
สรุปว่าข้าวที่เราเกี่ยววันลอยกระทง 16 พย 2567 ทั้งหมด 540 กก เราขายได้ภายในเวลา 2 เดือน
แต่เราก็ยังดีใจไม่ได้ เพราะถ้าเราไม่มีร้านให้ฝากขาย ไม่มีคนรู้จักช่วยซื้อ แล้วเราจะขายยังไง สำหรับเรามันเป็นโจทย์ที่ยากมาก เหมือนกับตอนที่เราปลูกผัก แล้วก็ยังเป็นคำถามจนถึงทุกวันนี้ 
แต่เราก็ไม่ละความพยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และหวังว่าซักวันจะมีลูกค้าซักกลุ่มหนึ่งที่มองหาสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เหมือนกัน