เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5002521
CNBC สื่อรายใหญ่ของสหรัฐเคยออกรายงานวิเคราะห์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย ก่อนหน้าที่คณะรัฐมนตรีจะผ่านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในสัปดาห์นี้ โดยชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวอาจทำให้ไทยกลายเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของมาเก๊า ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในฐานะศูนย์กลางของการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลการวิจัยของ Maybank ชี้ว่า การเปิดคาสิโนในไทยจะสามารถสร้างรายได้ถึง 1.87 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเริ่มดำเนินการ ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังเดินหน้าตามแผนการใหม่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและเพิ่มยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วยคาสิโน
กลยุทธ์ดังกล่าวได้ผลชัดในมาเก๊า ซึ่งแซงหน้าลาสเวกัสและกลายเป็นศูนย์กลางของการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จในการเปิดคาสิโนมานานถึง 14 ปีแล้ว
ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมนี้บอกกับ CNBC ว่า หากร่างกฎหมายของไทยผ่านเป็นกฎหมาย ประเทศไทยอาจกลายเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของมาเก๊าและสิงคโปร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้
เบ็น ลี ผู้จัดการหุ้นส่วนของ IGamiX Management and Consulting กล่าวว่า พวกเขาได้เห็นแล้วว่าการสร้างคาสิโนช่วยอะไรสิงคโปร์ได้บ้าง และเห็นพลังของเงินจากการพนันในมาเก๊า หากประเทศไทยทำได้ถูกทาง สิ่งนี้อาจเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว
ลีกล่าวว่า ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ใหญ่โต และเป็นตลาดการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในภูมิภาคที่ทุกคนหวาดกลัว แต่ประเทศไทยยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดใหญ่ หากคาสิโนในไทยได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเหมาะสม ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมีศักยภาพที่จะแซงหน้าคาสิโนอื่นๆ ในเอเชียได้
การการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย แต่การเติบโตยังคงซบเซา จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากการระบาดของโควิด-19 และมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาแบบเต็มที่
ไทยซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 28 ล้านคนในปี 2023 ซึ่งห่างไกลจากนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนในปี 2019 ขณะที่ในปี 2567 รัฐบาลไทยระบุว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังไทยตลอดทั้งปีที่ 35.54 ล้านคน
แกรี่ บาวเวอร์แมน ผู้อำนวยการด้านการเดินทางและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค บริษัท Check-in Asia กล่าวว่า การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการแข่งขันสูง และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคกำลังพิจารณาหาวิธีที่จะทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นเสาหลักของการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
บาวเวอร์แมนกล่าวว่า การเปิดคาสิโนให้ถูกกฎหมายจะทำให้ประเทศไทยมีตำแหน่งที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยมีขนาดใหญ่และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่แล้ว
ประเด็นที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมดังกล่าวตั้งคำถามมากที่สุดคือ คาสิโนเหล่านี้จะถูกตั้งอยู่ที่ไหนในไทย แต่นักวิเคราะห์คาดว่ามันอาจไม่ได้อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยหยินจาก Maybank กล่าวว่า กรุงเทพเป็นเมืองที่พัฒนาแล้ว และไม่จำเป็นต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติมอีก เขายังนึกไม่ออกว่าจะมีที่ดินว่างเปล่าในกรุงเทพอีก
หยินกล่าวว่า คาสิโนน่าจะสร้างขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรน้อยกว่า เช่น ตามระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา หรือในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และพัทยา ก็คาดว่าจะมีคาสิโนด้วยเช่นกัน
อัลลัน เซมัน ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Lan Kwai Fong Group กล่าวว่า รัฐบาลหลายประเทศชอบที่จะตั้งคาสิโนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา เพราะคิดว่ามันจะช่วยพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นได้ แต่ถ้าคุณมีคาสิโนเพียงแห่งเดียวในเมืองที่กำลังพัฒนา มันจะไม่เหมือนกัน
บาวเวอร์แมนจาก Check-in Asia เสริมว่า ไทยน่าจะทำตามแบบจำลองของสิงคโปร์ในการสร้างรีสอร์ทที่มีการบูรณาการกิจกรรมที่รองรับผู้ที่ไม่ใช่นักพนันเข้าไว้ด้วยกัน อย่างเดียวกับ Marina Bay Sands ของสิงคโปร์ ที่มีบาร์สวยๆ อยู่ด้านบน สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ โรงแรม พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร คนหนุ่มสาวที่ไม่มาเล่นการพนันก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นเดียวกัน
ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจคาสิโนเห็นพ้องกันว่า หากไทยสร้างคาสิโนได้สำเร็จสัก 5-8 แห่งทั่วประเทศ ไทยอาจจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์ในแง่ของความนิยมและรายได้โดยรวม แต่มาเก๊าก็จะยังคงรั้งอันดับ 1 อยู่
ลีจาก IGamiX กล่าวว่า หากคาสิโนของไทยถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเหมาะสม ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพที่จะแซงหน้าแหล่งพนันอื่นๆ ในเอเชียได้ ยกเว้นมาเก๊า แต่ประเทศไทยสามารถเทียบเคียงใกล้มาเก๊าได้มาก หากคาสิโนของไทยได้รับการบริหารจัดการที่ดี
บาวเวอร์แมนย้ำว่า รัฐบาลไทยอาจกำหนดให้ผู้ประกอบการของสหรัฐที่ต้องการเข้าสู่วงการการพนันของไทยจะต้องทำงานร่วมกับบริษัทของไทย มันทำให้เกิดประโยชน์กับบริษัทท้องถิ่นและบริษัทของไทยจะต้องการมีส่วนร่วมด้วย และเขาเชื่อว่าโครงการในไทยจะดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่จากสหรัฐได้อย่างแน่นอน
“อุตสาหกรรมคาสิโนนั้นทำกำไรได้มากและจะนำเงินเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งจะสร้างรายได้และภาษีจำนวนมากเพื่อนำไปใช้ในกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่อไป” บาวเวอร์แมนกล่าว
ด้าน Citigroup คาดการณ์ว่า รายได้จากคาสิโนในไทยอาจสูงถึง 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.14 แสนล้านบาทในปี 2031 แซงหน้ารายได้จาก 8.3 พันล้านดอลลาร์ของสิงคโปร์ หากประเทศไทยดำเนินการเปิดคาสิโนอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการจัดสรรใบอนุญาตเปิดคาสิโน 2 แห่งในกรุงเทพ อีกทั้งให้ใบอนุญาตในพัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ที่ละแห่ง... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5002521
CNBC สื่อใหญ่อเมริกาวิเคราะห์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดันไทยผงาดคู่แข่งรายใหญ่มาเก๊า
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5002521
CNBC สื่อรายใหญ่ของสหรัฐเคยออกรายงานวิเคราะห์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย ก่อนหน้าที่คณะรัฐมนตรีจะผ่านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในสัปดาห์นี้ โดยชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวอาจทำให้ไทยกลายเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของมาเก๊า ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในฐานะศูนย์กลางของการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลการวิจัยของ Maybank ชี้ว่า การเปิดคาสิโนในไทยจะสามารถสร้างรายได้ถึง 1.87 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเริ่มดำเนินการ ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังเดินหน้าตามแผนการใหม่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและเพิ่มยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วยคาสิโน
กลยุทธ์ดังกล่าวได้ผลชัดในมาเก๊า ซึ่งแซงหน้าลาสเวกัสและกลายเป็นศูนย์กลางของการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จในการเปิดคาสิโนมานานถึง 14 ปีแล้ว
ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมนี้บอกกับ CNBC ว่า หากร่างกฎหมายของไทยผ่านเป็นกฎหมาย ประเทศไทยอาจกลายเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของมาเก๊าและสิงคโปร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้
เบ็น ลี ผู้จัดการหุ้นส่วนของ IGamiX Management and Consulting กล่าวว่า พวกเขาได้เห็นแล้วว่าการสร้างคาสิโนช่วยอะไรสิงคโปร์ได้บ้าง และเห็นพลังของเงินจากการพนันในมาเก๊า หากประเทศไทยทำได้ถูกทาง สิ่งนี้อาจเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว
ลีกล่าวว่า ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ใหญ่โต และเป็นตลาดการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในภูมิภาคที่ทุกคนหวาดกลัว แต่ประเทศไทยยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดใหญ่ หากคาสิโนในไทยได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเหมาะสม ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมีศักยภาพที่จะแซงหน้าคาสิโนอื่นๆ ในเอเชียได้
การการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย แต่การเติบโตยังคงซบเซา จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากการระบาดของโควิด-19 และมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาแบบเต็มที่
ไทยซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 28 ล้านคนในปี 2023 ซึ่งห่างไกลจากนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนในปี 2019 ขณะที่ในปี 2567 รัฐบาลไทยระบุว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังไทยตลอดทั้งปีที่ 35.54 ล้านคน
แกรี่ บาวเวอร์แมน ผู้อำนวยการด้านการเดินทางและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค บริษัท Check-in Asia กล่าวว่า การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการแข่งขันสูง และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคกำลังพิจารณาหาวิธีที่จะทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นเสาหลักของการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
บาวเวอร์แมนกล่าวว่า การเปิดคาสิโนให้ถูกกฎหมายจะทำให้ประเทศไทยมีตำแหน่งที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยมีขนาดใหญ่และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่แล้ว
ประเด็นที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมดังกล่าวตั้งคำถามมากที่สุดคือ คาสิโนเหล่านี้จะถูกตั้งอยู่ที่ไหนในไทย แต่นักวิเคราะห์คาดว่ามันอาจไม่ได้อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยหยินจาก Maybank กล่าวว่า กรุงเทพเป็นเมืองที่พัฒนาแล้ว และไม่จำเป็นต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติมอีก เขายังนึกไม่ออกว่าจะมีที่ดินว่างเปล่าในกรุงเทพอีก
หยินกล่าวว่า คาสิโนน่าจะสร้างขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรน้อยกว่า เช่น ตามระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา หรือในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และพัทยา ก็คาดว่าจะมีคาสิโนด้วยเช่นกัน
อัลลัน เซมัน ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Lan Kwai Fong Group กล่าวว่า รัฐบาลหลายประเทศชอบที่จะตั้งคาสิโนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา เพราะคิดว่ามันจะช่วยพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นได้ แต่ถ้าคุณมีคาสิโนเพียงแห่งเดียวในเมืองที่กำลังพัฒนา มันจะไม่เหมือนกัน
บาวเวอร์แมนจาก Check-in Asia เสริมว่า ไทยน่าจะทำตามแบบจำลองของสิงคโปร์ในการสร้างรีสอร์ทที่มีการบูรณาการกิจกรรมที่รองรับผู้ที่ไม่ใช่นักพนันเข้าไว้ด้วยกัน อย่างเดียวกับ Marina Bay Sands ของสิงคโปร์ ที่มีบาร์สวยๆ อยู่ด้านบน สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ โรงแรม พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร คนหนุ่มสาวที่ไม่มาเล่นการพนันก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นเดียวกัน
ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจคาสิโนเห็นพ้องกันว่า หากไทยสร้างคาสิโนได้สำเร็จสัก 5-8 แห่งทั่วประเทศ ไทยอาจจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์ในแง่ของความนิยมและรายได้โดยรวม แต่มาเก๊าก็จะยังคงรั้งอันดับ 1 อยู่
ลีจาก IGamiX กล่าวว่า หากคาสิโนของไทยถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเหมาะสม ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพที่จะแซงหน้าแหล่งพนันอื่นๆ ในเอเชียได้ ยกเว้นมาเก๊า แต่ประเทศไทยสามารถเทียบเคียงใกล้มาเก๊าได้มาก หากคาสิโนของไทยได้รับการบริหารจัดการที่ดี
บาวเวอร์แมนย้ำว่า รัฐบาลไทยอาจกำหนดให้ผู้ประกอบการของสหรัฐที่ต้องการเข้าสู่วงการการพนันของไทยจะต้องทำงานร่วมกับบริษัทของไทย มันทำให้เกิดประโยชน์กับบริษัทท้องถิ่นและบริษัทของไทยจะต้องการมีส่วนร่วมด้วย และเขาเชื่อว่าโครงการในไทยจะดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่จากสหรัฐได้อย่างแน่นอน
“อุตสาหกรรมคาสิโนนั้นทำกำไรได้มากและจะนำเงินเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งจะสร้างรายได้และภาษีจำนวนมากเพื่อนำไปใช้ในกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่อไป” บาวเวอร์แมนกล่าว
ด้าน Citigroup คาดการณ์ว่า รายได้จากคาสิโนในไทยอาจสูงถึง 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.14 แสนล้านบาทในปี 2031 แซงหน้ารายได้จาก 8.3 พันล้านดอลลาร์ของสิงคโปร์ หากประเทศไทยดำเนินการเปิดคาสิโนอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการจัดสรรใบอนุญาตเปิดคาสิโน 2 แห่งในกรุงเทพ อีกทั้งให้ใบอนุญาตในพัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ที่ละแห่ง... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5002521