รีวิว SEALION 7 - 10 วัน ประมาณ 1,000 กม

Part A : ทำไมเลือก Sealion 7

จริงๆ ตั้งใจจะลองใช้รถไฟฟ้ามาตั้งแต่ 3 - 4 เดือนก่อน เพียงแต่ตอนนั้น ซินแส ไม่ยอมให้ซื้อ (เหตุการณ์หลังจาก ซินแส ไม่ให้ซื้อ Good Cat ลดราคา Haval H6 ลดราคา กระแสรถรุ่นใหม่เริ่มเยอะขึ้น Deepal ประกาศ โปรโมชั่น ฯลฯ เออ เชื่อก้อดีแฮะ)

พอมาถึง Motor Expo (ก่อนหน้านั้น เริ่มหาข้อมูล ไปลองหาข้อมูล PHEV จากฝั่งจีน กับไฟฟ้า รวมถึงข้อดีข้อเสียต่างๆ เทียบกับ เกาหลี นั่นคือ KIA EV5, Hyundai รุ่นไหนจำไม่ได้

พอเกาหลีไม่มาตั้งโรงงานในไทย เงินช่วยเหลือในมาตราการ EV ต่าง ๆ ทำให้ราคาโดยเปรียบเทียบในความรู้สึก แพงกว่า รถจากจีน (ผมไม่นับรถยุโรปนะ มันเป็นความ Luxyry Lifestyle อีกแบบ) ปล. ไม่ได้ศึกษา พอจะซื้อเลยเพิ่งมารู้ อย่าหาว่าผมช้านะ หุหุ

Condition ประหลาด ๆ ของผมตอนจะซื้อคือ ต้องวางถุงกอล์ฟแนวขวางได้ สรุป มีแค่ Kia EV5 ที่วางได้ (BYD, Tesla, Deepal S07 ไม่มีอะไรวางได้) สุดท้าย ต้องยอมแพ้ condition นี้ ด้วยสมรภูมิราคากับ specification ที่ SEALION Offers ให้ มันเยอะกว่าจริงๆ  ปัจจุบัน พับเบาะตอน 40 เพื่อวางถุงกอล์ฟแนวยาว

ทดลองขับจริง บนถนน ระยะเวลาการขับจริง ประมาณ 20 - 30 นาที ระยะทางประมาณ 20 - 30 กม ได้ลองทั้ง Kia EV5 (Earth), Sealion 7 (Performance), S07 เอาจริงพอขึ้นความเร็วสัก 120+ โยนพอกัน (รถยุโรปแน่นกว่าจริง ๆ) ผมไม่ลอง Tesla เพราะตอนนั้นอยู่ที่ ตปท ก้อเกิดอาการเดียวกัน เลยไม่คิดว่าต้องลองแล้ว และไม่ค่อยชอบภายในด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นจริง ผมขับไม่ค่อยเกิน 100 อยู่แล้ว สายชิล ซิ่งยามจำเป็น ดังนั้น เลยเลือกได้ไม่กังวลมาก

สรุปด้วย ราคา (early brid) + สมรรถนะ + offers ของ specification ต่าง ๆ เลยคิดว่า ตอบโจทย์ที่สุด สำหรับผม S07 ช่วงล่างโยนสุด 



ปล.รับรถแบบไม่ติดฟิล์ม ขอเซลล์ออกมาถ่ายข้างนอก ^^

Part B : รับรถ ติดฟิล์มไหม หรือ Wrap รถ กับเคลือบแก้ว

สรุปคือ ผมซ์้อดาวน์ 25% แต่เลือกผ่อนต้นงวด เลยได้ดอกเบี้ยลดมาที่ 1.88% 4 ปี ผ่อนเดือนละ 19,3xx สบาย ไม่หนักมาก (ประหยัดค่าน้ำมันคันเก่าประมณ 4-5 พันต่อเดือนแน่ๆ ประเมินเบื้องต้น)

ไม่ติดฟิล์มแถม ยอมมาจ่าย solar guard ข้างนอก สบายใจกว่า แล้วรู้สึกว่าคิดไม่ผิด ขับรถ แดดไม่เผา (หน้าหลังประมาณ 40 ข้าง 60 บนประมาณ 40)

เลือกเคลือบแก้ว แทน wrap รถ เพราะอยากได้ความเงางาม และเป็นคนชอบล้างรถเอง ไม่ค่อยกังวลเรื่องหินดีด เพราะไม่ได้ขับต่างจังหวัดแน่ ๆ



Part C : ใช้งานจริง 10 วัน 1,000 กม เติมไฟไปประมาณ 168 KwH

ตอนออกจากศูนย์ เซลล์เติมมาให้ประมาณ 90% แต่กว่าจะออกจากศูนย์เหลือ 88% ลองนั่นนู่นนี่

กทม สมุทรปราการ ปทุมธานี วน ๆ อยู่แค่แถวนี้ เติมไฟฟ้า จาก BYD 3 ครั้ง (เครดิตจากการซื้อที่ Charge บ้านจาก โปร Motor Expo - ที่บ้านยังติดไม่เสร็จ) เติม ปตท ไปสองครั้ง เติมเต็ม100% ที่ BYD ครั้งเดียว 

ระบบบอกเรา accumulate kWh อยู่ที่ 14kwh/100km แต่เราขับมาประมาณ 1,000 โล เติมไปจริงประมาณ 165kwz คาดเดา คำนวน =/- เล็กน้อยคิดว่าใช้อยู่ประมาณ 15-16 kwh ต่อ 100 โลนะ ประหยัดดีครับ (ขับเร็วสุด 110 km/h ตอนกลางคืน บนทางด่วนเวลากลับบ้านดึก ๆ) 


คชจ คำนวนเอาแต่ละคนสะดวกเลย ชาร์จบ้าน ชาร์จนอกบ้าน แต่ถ้าไม่มีชาร์จบ้านก้อต้องวางแผนการชาร์จนิดนึง ไม่เคยแบตต่ำกว่า 30% กลัวววว 5555

ใช้งานจริง การขับสบาย ไม่โยน นิ่ม แอร์เย็นเร็วมาก 555 มาจากรถยุโรปกลับมารถเอเชีย เออ แอร์เย็นวุ้ย หนาวเลย

ระบการขับ การช่วยเหลือการชับ ดีมาก เกินพอสำหรับรถราคาเท่านี้ ดีมากๆ AUTO Break Hold ใช้งานสบายเท้ามาก ไม่ต้องเปลี่ยนเกียรติ์ ACC ใช้ 1 ครั้งถ้วนบนทางด่วน เออใช้ได้จริง เซ็ทค่าความเร็วไว้ที่ 100

คนนั่งด้วย สบายทั้งหน้าหลัง โดยเฉพาะหลัง คนนั่งกลาง ไม่มีเพลาไว้รับ แปลว่าวางขาสบายๆ แอร์หลังก็เย็นฉ่ำ

แอร์ที่เบาะ ชอบ 555 ชี้ร้อน 

นั่งทำงานในรถได้ไม่กังวลเรื่องการผลิต CO2 ในชั้นบรรยากาศ เหมือนตอนที่กำลังพิมพ์รีวิวอันนี้

ข้อเสียเดียวคือ เก็บของได้น้อยไปนิด เพราะจะเก็บด้านล่างก้อไม่ดี เพราะยกยาก (แต่เป็นทุกคัน เพราะมีถุงกอล์ฟ) Frunk ไม่ได้ใช้ เพราะไม่แน่ใจเรื่องอุณหภูมิ กับดูไม่ค่อย pratical ถ้าต้องใช้ทุกวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราควรจัดการเลือกของขึ้นรถบ้าง 55555

PART D : ข้อสรุป (ก่อนติด Wall Charge ที่บ้าน)

คุ้มค่า เกินราคา สวยงาม ข้อกังวลหลาย ๆ เรื่องหายไป (แต่ตอนนี้แอ๊ปยังใช้ไม่ได้นะ ตามเซลล์มาหลายวันละ จะลองโทรเข้า Rever Care ยังไม่ได้คุยเลย ไม่รู้ว่า Service ของ Contact Center จะดีไหม)