สวัสดีครับ วันนี้กลับมาคุยกันในหัวข้ออนิเมะอีกครั้งนะครับ ไม่มีอะไรมาก อยากมาแชร์เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ใครมีอะไรอยากแบ่งปันหรือพูดคุยก็มาร่วมสนุกกันได้เลยครับ! 😊
พูดถึงอนิเมะแนวรักๆ โรแมนติก...บอกตรงๆ ว่าผมไม่ค่อยอินเลย อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่คงเพราะไม่ชอบเนื้อหาที่ออกแนวหวานๆ หรือเน้นความรักอย่างเดียวล่ะมั้ง แต่เรื่องมันตลกตรงที่…วันหนึ่งผมกำลังไถเว็บของค่าย Luckpim เพื่อหามังงะอ่านเล่น แล้วดันไปสะดุดตาเข้ากับเรื่อง "อย่าหน้าแดงสิครับคุณเซคิเมะ" เรื่องนี้มีแค่ 3 เล่มจบครับ ผมเลยลองซื้อมาอ่านดูเล่นๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าผมอ่านจบในวันเดียว! วางไม่ลงเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่กลับรู้สึกอินไปกับเรื่องราวอย่างไม่น่าเชื่อ
คราวนี้ขอพาเข้าสู่หัวข้อหลักของวันนี้เลยนะครับ เรื่อง "เธอผู้อันตรายต่อใจผม" ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดจะดูเรื่องนี้เลย ด้วยความที่ยังทนนั่งดู Naruto ไม่จบสักที (ฮา) 😂 ก็เลยอยากหาอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง พอเลื่อนๆ ไปเจอเข้า เลยตัดสินใจดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลย แต่แล้ว...สรุปคือ ติดหนึบไปแบบไม่รู้ตัว! ดูจบใน 2 วันไปแบบงงๆ 555 ที่สำคัญคือ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องมานั่งดูไปแล้วร้องไห้ไปหลายรอบแบบนี้ 😭 น้ำตาท่วมกว่าจะดูจบ
ที่น่าทึ่งคือ เนื้อหาของเรื่องมันดีเกินคาดมาก การสร้างความทรงจำระหว่างตัวละครและคนดูมันเหนือกว่าคำว่า "อนิเมะแนวรัก" ที่ผมเคยรู้จักไปไกลมาก ตลอดเวลาที่ดู ผมเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้ว เราอินกับเรื่องความรักขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า...ที่ไม่อยากดูแนวนี้แต่แรก เป็นเพราะกลัวใจตัวเองกันแน่นะ? 555 😅
ผมชอบการเล่าเรื่องของ "เธอผู้อันตรายต่อใจผม" ตั้งแต่เริ่มจนจบเลยครับ ไม่มีจุดไหนที่รู้สึกว่าน่าเกลียดหรือน้ำเน่าจนเกินไป ทุกอย่างมันพอดีมากๆ และที่สำคัญคือ มันทำให้รู้สึกว่า "เฮ้ย มันดีจริงๆ นี่แหละคือความรักที่สดใส" แบบที่หลายคนคงอยากมีบ้าง รวมถึงตัวผมเองด้วย 555 กว่าที่พระเอกกับนางเอกจะรู้ใจตัวเองว่าตกหลุมรักกัน...โอ้โห สร้างเรื่องไว้ซะเยอะ คนดูอย่างผมนี่ลุ้นจนตัวโก่ง! ตั้งแต่ซีซั่นแรกก็แอบคิดตลอดว่า "อิจิคาวะจะสารภาพได ไหม?" หรือ "ใครจะพูดความในใจก่อนกันนะ?" แต่พอดูจนจบซีซั่น 1 ผมถึงได้รู้ว่า นี่แหละคือการบอกรักแบบไม่ต้องใช้คำว่า "รัก" หรือ "ชอบ" เลย ความรักของอิจิคาวะกับยามาดะมันถ่ายทอดผ่านการกระทำทั้งหมด ทั้งการดูแล เอาใจใส่ หึงหวง หรือแม้แต่ความลังเลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ทุกอย่างมันลงตัวมาก ไม่เยอะเกินไป ไม่น้อยเกินไป เป็นแค่ความรู้สึกดีๆ ที่คนสองคนซึ่งรักกันควรจะมีให้กัน ในบางฉาก ผมแทบอดใจไม่ไหว คิดในใจว่า "เอาเลยสิ! พูดเลยว่ารู้สึกยังไง!" แต่สุดท้ายพวกเขาก็เลือกจะเงียบ และนั่นแหละครับ...มันถูกต้องที่สุดแล้ว การบอกรักไม่ได้ต้องการคำพูดเสมอไป แค่การกระทำก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรารับรู้ถึงความรักที่ทั้งสองคนมีให้กัน สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากคือ ทุกๆ ตอนที่ดูเหมือนเป็นการสร้างความทรงจำระหว่างตัวละคร ไม่ใช่แค่ระหว่างพระเอกนางเอก แต่รวมถึงคนดูอย่างผมด้วย มันอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก อิจิคาวะพยายามเติบโตและพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ และยามาดะก็เป็นเหมือนโลกทั้งใบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งบท ฉาก เพลง และอารมณ์ในเรื่อง ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบจนทำให้ผมหลุดเข้าไปในโลกของพวกเขา ยิ่งดูก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่น และความตื่นเต้นของอิจิคาวะอย่างที่ไม่ต่างจากตัวเขาเลย บอกตามตรงว่า ผมไม่เคยนอนเกิน 4 ทุ่มมาก่อน แต่พอมาเจอเรื่องนี้...อ้าว ตี 1 แล้วเหรอ! เช้าวันหยุดผมรีบตื่นมานั่งดูต่อทันที ทุกตอนที่ดูมันเหมือนช่วยเติมเต็มบางอย่างในใจของผม อาจจะเป็นคำตอบที่เรามองหา หรือบางทีอาจเป็นแค่ความสุขเล็กๆ ที่เรื่องนี้ได้มอบให้ สรุปคือ ผมหลงรักเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ ครับ 😊
ถูกแล้วล่ะครับที่ตอนจบของเรื่องจะเป็นแบบนั้น การเก็บจุดไคลแม็กซ์ของเรื่องไว้ปล่อยออกมาในช่วงท้ายที่สุดเป็นอะไรที่ดีมาก...ดีจนไม่น่าเชื่อเลยครับ จังหวะนั้นผมร้องไห้นั่งมากจริงๆ ผมนั่งดูผ่านหน้าจอโน้ตบุ๊ค ใส่หูฟังแบบอินเอียร์เพื่อซึมซับทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึกที่เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมา ตอนนั้นผมได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ มันเหมือนกับว่านี่แหละ...คือความรู้สึกที่ผมไม่เคยมีมาก่อน จนกระทั่งอนิเมะเรื่องนี้มาเติมเต็มช่องว่างในใจ
ตอนที่ทั้งสองคนสารภาพรักกันออกไป ภาพทุกอย่างตั้งแต่ซีซั่นแรกก็ค่อยๆ ลอยกลับมาในหัว ราวกับเราย้อนมองเห็นเส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านมา ทั้งความยากลำบาก เรื่องราวแย่ๆ และช่วงเวลาดีๆ ที่พวกเขาแบ่งปันกัน แม้แต่การใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างมันนำพามาสู่ตอนจบที่พวกเขาสมหวังในที่สุด
มันเป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นหัวใจจนเกินจะบรรยาย ผมบอกตามตรงเลยว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ เลย แต่บางที...นี่อาจจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว
เธอผู้อันตรายต่อใจผม เป็นเรื่องราวที่ดีมากจนผมแทบจะอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลย มันพาผมไปสัมผัสความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน และทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่อบอุ่นหัวใจจนไม่อาจลืมได้
อนิเมะเรื่องนี้มันได้เติบเต็มอะไรบางอย่างในใจของผมจริง ๆ สิ่งที่เราไม่เคยเจอสิ่วที่เราไม่เคยมี สิ่งที่เราไม่เคยได้รับมาก่อน อนิเมะเรื่องนี้ได้เติบเต็มช่องว่างในใจไปเรียบร้อยแล้ว ทุก ๆ ความรู้สึก ตอนดูจบได้แต่กดดูขีดแดง ๆ บนหน้าจอว่าเหลืออีกแค่ไม่กี่วิเรื่องนี้จะจบแล้วงั้นหรอน่าเสียดายมาก ๆ มันดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้จริง ๆ
สิ่งที่ผมทำต่อจากนั้นคือ รีบเปิดแอปส้มแล้วกดซื้อมังงะเรื่องนี้แบบยกชุดทันที โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ใช่ครับ ผมไม่อยากให้ความทรงจำดีๆ ของเรื่องนี้จางหายไป แม้ว่าอนิเมะจะลาจอไปแล้ว แต่การมีมังงะอยู่ในมือ ทำให้ผมสามารถกลับไปอ่านมันซ้ำๆ ได้นึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นซ้ำๆ ได้
มันน่าแปลกใจจริงๆ ที่อนิเมะ...สามารถเติมเต็มหัวใจของเราได้มากถึงขนาดนี้
ทั้งหมดคือความรุ้สึกที่ได้รับจากการดูอนิเมะเรื่อง "เธอผู้อันตรายต่อใจผม" ถ้าทุกคนดูเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกอะไรที่อยากเล่าก็จัดมาได้เลยนะครับหวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรแนวนี้แนะนำต่อก็จัดมาเล้ยยย
เธอผู้อันตรายต่อใจผม หลังดูจบ
พูดถึงอนิเมะแนวรักๆ โรแมนติก...บอกตรงๆ ว่าผมไม่ค่อยอินเลย อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่คงเพราะไม่ชอบเนื้อหาที่ออกแนวหวานๆ หรือเน้นความรักอย่างเดียวล่ะมั้ง แต่เรื่องมันตลกตรงที่…วันหนึ่งผมกำลังไถเว็บของค่าย Luckpim เพื่อหามังงะอ่านเล่น แล้วดันไปสะดุดตาเข้ากับเรื่อง "อย่าหน้าแดงสิครับคุณเซคิเมะ" เรื่องนี้มีแค่ 3 เล่มจบครับ ผมเลยลองซื้อมาอ่านดูเล่นๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าผมอ่านจบในวันเดียว! วางไม่ลงเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่กลับรู้สึกอินไปกับเรื่องราวอย่างไม่น่าเชื่อ
คราวนี้ขอพาเข้าสู่หัวข้อหลักของวันนี้เลยนะครับ เรื่อง "เธอผู้อันตรายต่อใจผม" ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดจะดูเรื่องนี้เลย ด้วยความที่ยังทนนั่งดู Naruto ไม่จบสักที (ฮา) 😂 ก็เลยอยากหาอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง พอเลื่อนๆ ไปเจอเข้า เลยตัดสินใจดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลย แต่แล้ว...สรุปคือ ติดหนึบไปแบบไม่รู้ตัว! ดูจบใน 2 วันไปแบบงงๆ 555 ที่สำคัญคือ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องมานั่งดูไปแล้วร้องไห้ไปหลายรอบแบบนี้ 😭 น้ำตาท่วมกว่าจะดูจบ
ที่น่าทึ่งคือ เนื้อหาของเรื่องมันดีเกินคาดมาก การสร้างความทรงจำระหว่างตัวละครและคนดูมันเหนือกว่าคำว่า "อนิเมะแนวรัก" ที่ผมเคยรู้จักไปไกลมาก ตลอดเวลาที่ดู ผมเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้ว เราอินกับเรื่องความรักขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า...ที่ไม่อยากดูแนวนี้แต่แรก เป็นเพราะกลัวใจตัวเองกันแน่นะ? 555 😅
ผมชอบการเล่าเรื่องของ "เธอผู้อันตรายต่อใจผม" ตั้งแต่เริ่มจนจบเลยครับ ไม่มีจุดไหนที่รู้สึกว่าน่าเกลียดหรือน้ำเน่าจนเกินไป ทุกอย่างมันพอดีมากๆ และที่สำคัญคือ มันทำให้รู้สึกว่า "เฮ้ย มันดีจริงๆ นี่แหละคือความรักที่สดใส" แบบที่หลายคนคงอยากมีบ้าง รวมถึงตัวผมเองด้วย 555 กว่าที่พระเอกกับนางเอกจะรู้ใจตัวเองว่าตกหลุมรักกัน...โอ้โห สร้างเรื่องไว้ซะเยอะ คนดูอย่างผมนี่ลุ้นจนตัวโก่ง! ตั้งแต่ซีซั่นแรกก็แอบคิดตลอดว่า "อิจิคาวะจะสารภาพได ไหม?" หรือ "ใครจะพูดความในใจก่อนกันนะ?" แต่พอดูจนจบซีซั่น 1 ผมถึงได้รู้ว่า นี่แหละคือการบอกรักแบบไม่ต้องใช้คำว่า "รัก" หรือ "ชอบ" เลย ความรักของอิจิคาวะกับยามาดะมันถ่ายทอดผ่านการกระทำทั้งหมด ทั้งการดูแล เอาใจใส่ หึงหวง หรือแม้แต่ความลังเลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ทุกอย่างมันลงตัวมาก ไม่เยอะเกินไป ไม่น้อยเกินไป เป็นแค่ความรู้สึกดีๆ ที่คนสองคนซึ่งรักกันควรจะมีให้กัน ในบางฉาก ผมแทบอดใจไม่ไหว คิดในใจว่า "เอาเลยสิ! พูดเลยว่ารู้สึกยังไง!" แต่สุดท้ายพวกเขาก็เลือกจะเงียบ และนั่นแหละครับ...มันถูกต้องที่สุดแล้ว การบอกรักไม่ได้ต้องการคำพูดเสมอไป แค่การกระทำก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรารับรู้ถึงความรักที่ทั้งสองคนมีให้กัน สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากคือ ทุกๆ ตอนที่ดูเหมือนเป็นการสร้างความทรงจำระหว่างตัวละคร ไม่ใช่แค่ระหว่างพระเอกนางเอก แต่รวมถึงคนดูอย่างผมด้วย มันอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก อิจิคาวะพยายามเติบโตและพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ และยามาดะก็เป็นเหมือนโลกทั้งใบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งบท ฉาก เพลง และอารมณ์ในเรื่อง ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบจนทำให้ผมหลุดเข้าไปในโลกของพวกเขา ยิ่งดูก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่น และความตื่นเต้นของอิจิคาวะอย่างที่ไม่ต่างจากตัวเขาเลย บอกตามตรงว่า ผมไม่เคยนอนเกิน 4 ทุ่มมาก่อน แต่พอมาเจอเรื่องนี้...อ้าว ตี 1 แล้วเหรอ! เช้าวันหยุดผมรีบตื่นมานั่งดูต่อทันที ทุกตอนที่ดูมันเหมือนช่วยเติมเต็มบางอย่างในใจของผม อาจจะเป็นคำตอบที่เรามองหา หรือบางทีอาจเป็นแค่ความสุขเล็กๆ ที่เรื่องนี้ได้มอบให้ สรุปคือ ผมหลงรักเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ ครับ 😊
ถูกแล้วล่ะครับที่ตอนจบของเรื่องจะเป็นแบบนั้น การเก็บจุดไคลแม็กซ์ของเรื่องไว้ปล่อยออกมาในช่วงท้ายที่สุดเป็นอะไรที่ดีมาก...ดีจนไม่น่าเชื่อเลยครับ จังหวะนั้นผมร้องไห้นั่งมากจริงๆ ผมนั่งดูผ่านหน้าจอโน้ตบุ๊ค ใส่หูฟังแบบอินเอียร์เพื่อซึมซับทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึกที่เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมา ตอนนั้นผมได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ มันเหมือนกับว่านี่แหละ...คือความรู้สึกที่ผมไม่เคยมีมาก่อน จนกระทั่งอนิเมะเรื่องนี้มาเติมเต็มช่องว่างในใจ
ตอนที่ทั้งสองคนสารภาพรักกันออกไป ภาพทุกอย่างตั้งแต่ซีซั่นแรกก็ค่อยๆ ลอยกลับมาในหัว ราวกับเราย้อนมองเห็นเส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านมา ทั้งความยากลำบาก เรื่องราวแย่ๆ และช่วงเวลาดีๆ ที่พวกเขาแบ่งปันกัน แม้แต่การใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างมันนำพามาสู่ตอนจบที่พวกเขาสมหวังในที่สุด
มันเป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นหัวใจจนเกินจะบรรยาย ผมบอกตามตรงเลยว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ เลย แต่บางที...นี่อาจจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว
เธอผู้อันตรายต่อใจผม เป็นเรื่องราวที่ดีมากจนผมแทบจะอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลย มันพาผมไปสัมผัสความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน และทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่อบอุ่นหัวใจจนไม่อาจลืมได้
อนิเมะเรื่องนี้มันได้เติบเต็มอะไรบางอย่างในใจของผมจริง ๆ สิ่งที่เราไม่เคยเจอสิ่วที่เราไม่เคยมี สิ่งที่เราไม่เคยได้รับมาก่อน อนิเมะเรื่องนี้ได้เติบเต็มช่องว่างในใจไปเรียบร้อยแล้ว ทุก ๆ ความรู้สึก ตอนดูจบได้แต่กดดูขีดแดง ๆ บนหน้าจอว่าเหลืออีกแค่ไม่กี่วิเรื่องนี้จะจบแล้วงั้นหรอน่าเสียดายมาก ๆ มันดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้จริง ๆ
สิ่งที่ผมทำต่อจากนั้นคือ รีบเปิดแอปส้มแล้วกดซื้อมังงะเรื่องนี้แบบยกชุดทันที โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ใช่ครับ ผมไม่อยากให้ความทรงจำดีๆ ของเรื่องนี้จางหายไป แม้ว่าอนิเมะจะลาจอไปแล้ว แต่การมีมังงะอยู่ในมือ ทำให้ผมสามารถกลับไปอ่านมันซ้ำๆ ได้นึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นซ้ำๆ ได้
มันน่าแปลกใจจริงๆ ที่อนิเมะ...สามารถเติมเต็มหัวใจของเราได้มากถึงขนาดนี้
ทั้งหมดคือความรุ้สึกที่ได้รับจากการดูอนิเมะเรื่อง "เธอผู้อันตรายต่อใจผม" ถ้าทุกคนดูเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกอะไรที่อยากเล่าก็จัดมาได้เลยนะครับหวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรแนวนี้แนะนำต่อก็จัดมาเล้ยยย