เพิ่งเคยตั้งกระทู้ถ้าใช้แท็กผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻
ก่อนจัดฟันคุณหมอแจ้งราคาค่าจัดฟัน 45,000 บาท (คิดค่าติดเครื่องมือครั้งแรก 5,000 จากนั้นจ่ายเดือนละ1,000 จนกว่าจะครบ) ถ้าจ่ายครบแล้วยังจัดไม่เสร็จก็ไม่ต้องจ่ายต่อ ซึ่งคุณหมอบอกว่าฟันเราไม่ใช่เคสยาก ไม่เกิน 2 ปีน่าจะเสร็จ เริ่มจัดฟันตั้งแต่ ก.ค. 64 ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีครึ่ง ผลลัพธ์คือฟันหน้ายื่น ฟันบน-ล่างสบกันไม่ตรง กลายเป็นคางเบี้ยว ไม่มีวี่แววว่าจะเข้าที่เลยค่ะ
เมื่อเดือน พ.ย. 67 เราได้รวมยอดค่าใช้จ่ายคิดว่าน่าจะครบ 45,000 แล้วเพราะไปตามนัดต่อเนื่องตลอด มีเลทไป 2 ครั้ง สรุปว่าเกินค่ะ เกินนนนน จ่ายไปทั้งหมด 48,000 (บางเดือนนัด 2 ครั้งก็จ่าย 2 รอบ) เลยถามคุณหมอว่าต้องทำยังไง ต่อจากนี้ไม่ต้องจ่ายแล้วใช่ไหม? คุณหมอบอกว่าขอเช็คก่อน เราไม่อยากมีปัญหาก็เลยจ่ายไป ผ่านไปถึงเดือน ธ.ค. 67 ปรากฏว่าฟันกรามล้มค่ะ (คุณหมอบอกว่าเป็นเพราะหมอไม่ได้ใส่แรงดึงตรงกรามฟันเลยล้ม ??) ซึ่งไม่ใช่ความผิดเรา แผนการรักษาคือรอดึงฟันกรามเข้าที่แล้วจะถึงดึงฟันหน้าเข้าให้ ก็ค่อนข้างเซ็งที่ต้องมาเสียเวลาเพิ่ม และที่สำคัญคือยังคงเรียกเก็บ 1,000 เหมือนเดิม เราคุยกับคุณหมออีกครั้งว่าเราจ่ายเกินไปแล้ว คุณหมอก็ให้คำตอบเดิมค่ะว่าเดี๋ยวขอเช็คดูก่อน ตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนเลี้ยงไข้ให้จ่ายไปเรื่อยๆและไม่รู้จะเสร็จตอนไหน ใจนึงคิดอยากย้ายคลีนิคให้มันจบๆ แต่มาคิดอีกทีทำไมจะต้องไปเสียเงินซ้ำซ้อนในเมื่อเราจ่ายเงินให้คลีนิคนี้แล้วแต่ผลลัพธ์ออกมาไม่โอเคและต้นเหตุไม่ได้เกิดมาจากเรา ทางคลีนิคก็น่าจะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้รึป่าวหว่า? แต่ก็ไม่รู้จะเอายังไงดีเพราะไม่มีการเซ็นสัญญาก่อนจัดฟัน ใครเคยมีเหตุการแบบจ่ายครบแล้วแต่ต้องจ่ายต่อไหมคะ ทำยังไงกันบ้าง ย้ายคลีนิคเลยไหม? หรือจะไฟท์จนจบกับคลีนิคเดิม?
ปล.ใครมีคลีนิครับย้ายเคสดีๆแถวรามคำแหง พระราม9 อโศก รัชดา ห้วยขวาง แนะนำได้นะคะ
จ่ายค่าจัดฟันครบ(เกิน)แล้วแต่ฟันยังไม่เข้าที่และตอนนี้ฟันกรามเริ่มล้ม หมอให้จ่ายต่อเรื่อยๆ ทำยังไงดีคะ ?