สวัสดีค่ะ

จขกท.ปีนี้เข้าปีที่ 36 ละค่ะ เกิดมา แทบจะไม่เคยเป็นสิวให้หนักใจ แต่พอเข้าปีที่ 33 ก็เป็นสิวอุดตันเห่อหนักมากๆ เลยเป็นครั้งแต่ที่ต้องใช้ที่พึ่งคือการเข้าคลินิคกดสิว ฉีดสิว ต่อมา ถูกเพื่อนแนะนำให้ทานยาคุม ก็เลยลองทำดู ทำตั้งแต่ กพ.ปี 66 จนถึง ส.ค. 67 ตลอดเวลาที่ทาน (ยี่ห้อ Yasmin) ชีวิตมันดีมากกกก ไม่มีสิว หน้าดี เนียนกริ๊บ แต่มีปัญหาเดียวคือ ปวดหัวไมเกรนตลอด

ต่อมา ช่วงเดือน พ.ค. 67 จขกท.มีเรื่องเครียดถาโถมเลยทำให้โทรมๆไปพักนึง แต่ยังไม่มีสิวนะคะ แต่มีลืมทานบ้าง และที่สำคัญ มีอาการปจด.มาไม่ปกติ พอไปหาคุณหมอ แจ้งว่ามีอาการ PCOS คุณหมอเลยแนะนำให้หยุดยาคุม และลองทานยาฮอร์โมนแทน 1 และถ้าหากไม่ได้ต้องการจะคุมการมีบุตร ก็ไม่ต้องทาน
เพราะยาคุมตัวที่ทาน ส่งผลให้มีอาการปวดไมเกรน

ด้วยที่ว่าตอนนั้นหน้าเนียนมาก เลยเออออห่อหมกกับคุณหมอว่าไม่กินแล้วดีกว่า ได้ยินมาว่ากินนานๆก็ไม่ได้ดีต่อร่างกาย

ต่อมา เริ่มหยุดยาคุมตั้งแต่ ก.ย. 67 หลังจากนั้น มีอาการหน้ามัน สิวผด สิวอุดตันเริ่มค่อยๆมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ปีใหม่ สิวอักเสบบุกหนักมากค่ะ ควรทำยังไงดี โดยเฉพาะขึ้นมาที่ช่วงคอ ใต้หู งงมาก อุดตันจนอักเสบ หรือควรกลับไปกินยาคุมให้มันจบๆไป

รักษาด้วยวิธี Benzac, Clinda M, Differin ก็หายแล้วเห่อใหม่ ๆๆๆ วนลูปไปเรื่อยๆ 😰


ชีวิตช่างน่า(หน้า)เศร้า 🥲
ใครมีอะไรแนะนำรบกวนด้วยนะคะ 🙏