สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อยากเล่า...เฉยๆ......เขาจ้างให้มาทำงาน
นานมากแล้ว เคยเจอคนไทยที่ไปทำงานในอเมริกา ไปพร้อมภรรยา แต่ภรรยาทนคิดถึงชีวิตในประเทศไทยไม่ไหว เลยแยกทางกัน
แต่เขาชอบใช้ชีวิตอิสระ ทำงานได้เงินก็ออกไปตั้งแคมป์นอนตามวนอุทยานต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อย....
เจอกันที่สนามบินในอลาสก้า ระหว่างนั่งรอต่อเครื่องกลับเมืองไทย เขาเห็นอ่านหนังสือไทย.... เข้ามาคุยด้วย..เราต้องรอเครื่องถึง 3 ชั่วโมง
เขาเล่าให้ฟังว่า ทำงานเป็นคนซ่อมอุปกรณ์/ข้อต่อท่อประปาที่ชำรุดของเทศบาลแห่งหนึ่ง จำชื่อเมืองไม่ได้แล้ว
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขากลับจากเที่ยวป่าหลายวัน เดินเข้าไปในลานที่ทำงาน มองเห็นอุปกรณ์ที่ชำรุด/เสียๆที่รอซ่อม “กองเป็นภูเขา”
เขาบ่นกับตัวเองว่า “เยอะแยะมากมายอย่างนี้ เมื่อไหร่จะเสร็จ ?”
แต่เขาก็ลงมือทำงานไปตามปกติ ด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว แทบหมดสนุกกับวันหยุดยาวแสนวิเศษที่เพิ่งพ้นผ่านไป
เมื่อเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนอเมิกันมาเข้างาน เห็นกองภูเขานั้น ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินเข้าไปสวมเครื่องป้องกัน ตรวจเครื่องมือ แล้วลงมือหยิบชิ้นงานขึ้นทำทันที เช่นที่เคยทำมาทุกๆวัน
คนไทยจึงถามออกไปว่า “งานเยอะอย่างนี้ นายไม่เห็นหรือ ?”...แล้วบ่นต่อไปว่า “เมื่อไหร่จะเสร็จ ?”
เพื่อนอเมริกันหันมองหน้า พูดเพียงว่า
“เขาจ้างให้มาทำงาน ไม่ได้จ้างให้มาคิด !”
คนไทยนั้นจึงเล่าต่อว่า
เขาชอบใจในคำตอบของคนอเมริกันมาก...จากนั้นเขาไม่บ่นเรื่องงานเยอะอีกเลย...
พอใจที่ได้ทำงาน มีรายได้ และได้ไปใช้ชีวิตอิสระ กับป่าเขา ธรรมชาติ สัตว์ป่า ตกปลาในลำธารเป็นอาหารแสนอร่อย
มีความสุขและพอใจในวิถีชีวิตอย่างนั้น นานๆก็กลับมาเยี่ยมบ้านที แล้วก็กลับไปอีก โดยไม่คิดจะกลับมาทำงานในประเทศไทยอีกเลย
ฟังแล้วก็ขอบคุณที่เขาเล่าให้ฟัง ถือเอามาเป็นแบบอย่างในการทำงานตลอดมา
“งานคือเงินเพื่อดำรงชีวิต” งานหนัก เครียด เหนื่อย ถูกตำหนิ/ด่า
ก็ยืมคำของคนอเมริกันมาใช้ “It Just A Job !” ก็แค่งาน...
หลับตื่นหนึ่ง ก็ “ตื่นไปใช้ชีวิตตามปกติ ทำงานให้เป็นสุข”....
ไม่ทำงานจะทำอะไร...แล้วจะเอาอะไรกิน ?
--------------
The Welsh textile mill owner and social reformer Robert Owen is credited as the first person to articulate it,
by calling for “eight hours labor, eight hours recreation, and eight hours rest” for workers in the early 19 th century.
8 ชั่งโมง สำหรับการทำงาน-เลี้ยงชีพ (Labor)
8 ชั่วโมง สำหรับการนอนหลับ-พักผ่อน (Rest)
8 ชั่วโมง สำหรับการศึกษา ท่องเที่ยว พัฒนาคุณภาพชีวิต (Recreation)
มีคำตอบมากมาย อับดับต้นๆเลน นอน กิน เที่ยว หาเพื่อน หาแฟน ปฏิบัติธรรม เล่นเกมส์ เล่นไพ่...ก็มากับเขาด้วย
ถามต่อว่า แล้วเราจะทำเช่นนั้นได้ทุกวันไหม ? เช่น ตื่นเช้า ทำกิจส่วนตัว พอ 8 โมงตรง เข้านอน นอนให้ถึงเที่ยง ตื่น(พัก-มื้อเที่ยง) บ่ายโมง นอนต่อ 5 โมงเย็น ตื่น ไปไหนก็ไป ไม่ต้องนอนเอาโอ...นะ
วันอังคาร 8 โมง ไปหา-โทรหาเพื่อน คุยให้ถึงเที่ยง พัก บ่ายโมง กลับไปคุยใหม่...เปลี่ยนคนบ้างก็ได้
เข้าวัด...พระคงไล่ออกจากวัดแน่ๆ.....ปฏิบัติธรรม อาจเสียสติก่อนก็ได้
ปีหนึ่งมีกี่วัน...2 ปี..... 3 ปี.....จะทำอะไรกับ...8...ชั่วโมงที่เคย "ทำงาน" นั้นดี ?
นานมากแล้ว เคยเจอคนไทยที่ไปทำงานในอเมริกา ไปพร้อมภรรยา แต่ภรรยาทนคิดถึงชีวิตในประเทศไทยไม่ไหว เลยแยกทางกัน
แต่เขาชอบใช้ชีวิตอิสระ ทำงานได้เงินก็ออกไปตั้งแคมป์นอนตามวนอุทยานต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อย....
เจอกันที่สนามบินในอลาสก้า ระหว่างนั่งรอต่อเครื่องกลับเมืองไทย เขาเห็นอ่านหนังสือไทย.... เข้ามาคุยด้วย..เราต้องรอเครื่องถึง 3 ชั่วโมง
เขาเล่าให้ฟังว่า ทำงานเป็นคนซ่อมอุปกรณ์/ข้อต่อท่อประปาที่ชำรุดของเทศบาลแห่งหนึ่ง จำชื่อเมืองไม่ได้แล้ว
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขากลับจากเที่ยวป่าหลายวัน เดินเข้าไปในลานที่ทำงาน มองเห็นอุปกรณ์ที่ชำรุด/เสียๆที่รอซ่อม “กองเป็นภูเขา”
เขาบ่นกับตัวเองว่า “เยอะแยะมากมายอย่างนี้ เมื่อไหร่จะเสร็จ ?”
แต่เขาก็ลงมือทำงานไปตามปกติ ด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว แทบหมดสนุกกับวันหยุดยาวแสนวิเศษที่เพิ่งพ้นผ่านไป
เมื่อเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนอเมิกันมาเข้างาน เห็นกองภูเขานั้น ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินเข้าไปสวมเครื่องป้องกัน ตรวจเครื่องมือ แล้วลงมือหยิบชิ้นงานขึ้นทำทันที เช่นที่เคยทำมาทุกๆวัน
คนไทยจึงถามออกไปว่า “งานเยอะอย่างนี้ นายไม่เห็นหรือ ?”...แล้วบ่นต่อไปว่า “เมื่อไหร่จะเสร็จ ?”
เพื่อนอเมริกันหันมองหน้า พูดเพียงว่า
“เขาจ้างให้มาทำงาน ไม่ได้จ้างให้มาคิด !”
คนไทยนั้นจึงเล่าต่อว่า
เขาชอบใจในคำตอบของคนอเมริกันมาก...จากนั้นเขาไม่บ่นเรื่องงานเยอะอีกเลย...
พอใจที่ได้ทำงาน มีรายได้ และได้ไปใช้ชีวิตอิสระ กับป่าเขา ธรรมชาติ สัตว์ป่า ตกปลาในลำธารเป็นอาหารแสนอร่อย
มีความสุขและพอใจในวิถีชีวิตอย่างนั้น นานๆก็กลับมาเยี่ยมบ้านที แล้วก็กลับไปอีก โดยไม่คิดจะกลับมาทำงานในประเทศไทยอีกเลย
ฟังแล้วก็ขอบคุณที่เขาเล่าให้ฟัง ถือเอามาเป็นแบบอย่างในการทำงานตลอดมา
“งานคือเงินเพื่อดำรงชีวิต” งานหนัก เครียด เหนื่อย ถูกตำหนิ/ด่า
ก็ยืมคำของคนอเมริกันมาใช้ “It Just A Job !” ก็แค่งาน...
หลับตื่นหนึ่ง ก็ “ตื่นไปใช้ชีวิตตามปกติ ทำงานให้เป็นสุข”....
ไม่ทำงานจะทำอะไร...แล้วจะเอาอะไรกิน ?
--------------
ทุกข์สำหรับเห็น สุขสำหรับเป็น
ป.อ.ปยุตฺโต
---------------
สุขเป็น…ก็เป็นสุข
พระอาจารย์ชยสาโร
สถานพํานักสงฆ์ บ้านไร่ทอสี
อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
-----------
การทำงานงาน คือ การทำหน้าที่
การทำหน้าที่ คือ การปฏิบัติธรรม
พุทธทาสภิกขุ
ป.อ.ปยุตฺโต
---------------
สุขเป็น…ก็เป็นสุข
พระอาจารย์ชยสาโร
สถานพํานักสงฆ์ บ้านไร่ทอสี
อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
-----------
การทำงานงาน คือ การทำหน้าที่
การทำหน้าที่ คือ การปฏิบัติธรรม
พุทธทาสภิกขุ
The Welsh textile mill owner and social reformer Robert Owen is credited as the first person to articulate it,
by calling for “eight hours labor, eight hours recreation, and eight hours rest” for workers in the early 19 th century.
8 ชั่งโมง สำหรับการทำงาน-เลี้ยงชีพ (Labor)
8 ชั่วโมง สำหรับการนอนหลับ-พักผ่อน (Rest)
8 ชั่วโมง สำหรับการศึกษา ท่องเที่ยว พัฒนาคุณภาพชีวิต (Recreation)
“eight hours labor” ที่ต้องมีเหลือเฟืออย่างแน่ๆ นั้น จะทำอะไรดี
วันจันทร์-วันศุกร์ 8.00 น.- 17.00 น. ถ้าไม่ทำงาน จะทำอะไรดี ?
วันจันทร์-วันศุกร์ 8.00 น.- 17.00 น. ถ้าไม่ทำงาน จะทำอะไรดี ?
มีคำตอบมากมาย อับดับต้นๆเลน นอน กิน เที่ยว หาเพื่อน หาแฟน ปฏิบัติธรรม เล่นเกมส์ เล่นไพ่...ก็มากับเขาด้วย
ถามต่อว่า แล้วเราจะทำเช่นนั้นได้ทุกวันไหม ? เช่น ตื่นเช้า ทำกิจส่วนตัว พอ 8 โมงตรง เข้านอน นอนให้ถึงเที่ยง ตื่น(พัก-มื้อเที่ยง) บ่ายโมง นอนต่อ 5 โมงเย็น ตื่น ไปไหนก็ไป ไม่ต้องนอนเอาโอ...นะ
วันอังคาร 8 โมง ไปหา-โทรหาเพื่อน คุยให้ถึงเที่ยง พัก บ่ายโมง กลับไปคุยใหม่...เปลี่ยนคนบ้างก็ได้
เข้าวัด...พระคงไล่ออกจากวัดแน่ๆ.....ปฏิบัติธรรม อาจเสียสติก่อนก็ได้
ปีหนึ่งมีกี่วัน...2 ปี..... 3 ปี.....จะทำอะไรกับ...8...ชั่วโมงที่เคย "ทำงาน" นั้นดี ?
แสดงความคิดเห็น
เพื่อนๆปลุกใจหลังวันหยุดยาว ให้พร้อมทำงานกันยังไงคะ?