จากข่าว เงินเดือน 2-4 หมื่น เป็นหนี้บัตรเครดิต 900,000 เป็นไปได้ยังไง ปกติแต่ละใบ ให้ไม่น่าเกิน 3-5 เท่าของรายได้ป่าวคะ
แค่จ่ายขั้นต่ำก็ไม่ไหวแล้วมั้งคะ แล้วทำไมจึงบังคงหมุนเงินได้ จนมาถึงขั้นนี้ บริษัทบัตรเครดิตอนุมัติบัตรใบใหม่ไปเรื่อยๆ หรอคะ ? เขาไม่ดูจำนวนบัตรที่มีอยู่ก่อนใช่ไหมคะ ? เขาไม่สนใจว่าเคยติดหนี้ ถ้ามีประวัติเคยติดหนี้ยิ่งดีเพราะกินกำไรดอกเบี้ยไปได้เรื่อยๆ ?
มันคุ้มใช่ไหมคะ สำหรับทางบริษัทบัตรเครดิต ? แลกกับความเสี่ยง NPL ที่ไปลุ้นเอา ลุ้นขายหนี้เน่า ลุ้นบริษัทติดตามหนี้มาซื้อขายหนี้กันเอง แล้วยังทวงหนี้ได้อยู่ ? เพราะมันมีลูกหนี้ที่ยอมจ่าย ?
แล้วทำไมลูกหนี้ไม่เลือกวิธี หยุดจ่ายทุกใบ แล้วขอ hair cut หรือ ให้ทางบัตรฟ้องมา รอขึ้นศาล เก็บเงินสดไปเจรจาขอปิดหนี้ ขอลดราคาหนี้ หรือเพราะ ก็คนไทยไม่สนใจเรียนรู้วิธี hair cut ? เดี๋ยวนี้ google ก็เจอวิธีแล้วไหม ?
หรือบางคนไม่ยอมเสียเครดิต แต่การเสียเครดิตมันแก้ง่าย แค่รอเวลา เป็นที่เขาไม่หาความรู้วิธี hair cut หรือเขารู้แต่เขาเลือกแล้วว่าอะไรสำคัญกว่า ?
หรือการเสียเครดิต ไม่สามารถกู้เงินได้ มันเป็นทางเลือกที่แย่กว่า สำหรับบางคน ? หรือการโดนบริษัทบัตรเครดิตแบน มันแก้ยากมาก มันเรื่องใหญ่จริงๆสำหรับอนาคต ไม่ใช่อย่างทฤษฎี เพราะเขาจะแบนจริงๆ ไม่ปล่อยกู้จริงๆ
หรือติดนิสัย เป็นคนดี ( ติดดี ) กลัวเค้าหาว่าไม่จ่าย กลัวบาปกรรม หรือว่ายังไง ?
จากข่าวเงินเดือน 2-4 หมื่น หนี้บัตร 900,000 เป็นได้ยังไง ทำไมหมุนได้ ทำไมไม่เลือกวิธีหยุดจ่าย ติดบูโรร้ายแรงขนาดนั้นหรือ
แค่จ่ายขั้นต่ำก็ไม่ไหวแล้วมั้งคะ แล้วทำไมจึงบังคงหมุนเงินได้ จนมาถึงขั้นนี้ บริษัทบัตรเครดิตอนุมัติบัตรใบใหม่ไปเรื่อยๆ หรอคะ ? เขาไม่ดูจำนวนบัตรที่มีอยู่ก่อนใช่ไหมคะ ? เขาไม่สนใจว่าเคยติดหนี้ ถ้ามีประวัติเคยติดหนี้ยิ่งดีเพราะกินกำไรดอกเบี้ยไปได้เรื่อยๆ ?
มันคุ้มใช่ไหมคะ สำหรับทางบริษัทบัตรเครดิต ? แลกกับความเสี่ยง NPL ที่ไปลุ้นเอา ลุ้นขายหนี้เน่า ลุ้นบริษัทติดตามหนี้มาซื้อขายหนี้กันเอง แล้วยังทวงหนี้ได้อยู่ ? เพราะมันมีลูกหนี้ที่ยอมจ่าย ?
แล้วทำไมลูกหนี้ไม่เลือกวิธี หยุดจ่ายทุกใบ แล้วขอ hair cut หรือ ให้ทางบัตรฟ้องมา รอขึ้นศาล เก็บเงินสดไปเจรจาขอปิดหนี้ ขอลดราคาหนี้ หรือเพราะ ก็คนไทยไม่สนใจเรียนรู้วิธี hair cut ? เดี๋ยวนี้ google ก็เจอวิธีแล้วไหม ?
หรือบางคนไม่ยอมเสียเครดิต แต่การเสียเครดิตมันแก้ง่าย แค่รอเวลา เป็นที่เขาไม่หาความรู้วิธี hair cut หรือเขารู้แต่เขาเลือกแล้วว่าอะไรสำคัญกว่า ?
หรือการเสียเครดิต ไม่สามารถกู้เงินได้ มันเป็นทางเลือกที่แย่กว่า สำหรับบางคน ? หรือการโดนบริษัทบัตรเครดิตแบน มันแก้ยากมาก มันเรื่องใหญ่จริงๆสำหรับอนาคต ไม่ใช่อย่างทฤษฎี เพราะเขาจะแบนจริงๆ ไม่ปล่อยกู้จริงๆ
หรือติดนิสัย เป็นคนดี ( ติดดี ) กลัวเค้าหาว่าไม่จ่าย กลัวบาปกรรม หรือว่ายังไง ?