เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐได้ประกาศการเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การตัดสินใจนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตในสหรัฐได้ยื่นร้องเรียนเกี่ยวกับการทุ่มตลาดสินค้าจากบริษัทในประเทศเหล่านั้น โดยมีข้อกล่าวหาว่าการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนจริงนั้นก่อให้เกิดการบิดเบือนการแข่งขันในตลาดสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม
 
การขึ้นภาษีนำเข้าในครั้งนี้ถือเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐในการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากการเข้ามาของสินค้าราคาถูกที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในท้องถิ่น การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลในด้านการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจสหรัฐในโลกที่มีการแข่งขันทางการค้ามากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บภาษีนำเข้านั้นยังคงมีข้อถกเถียงในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า บางคนมองว่าอาจสร้างแรงกดดันต่อผู้บริโภคในสหรัฐที่ต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาด ส่วนบางท่านเชื่อว่าการสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศจะสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระยะยาว
 
โดยรวมแล้ว การตัดสินใจนี้มีนัยสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในสหรัฐ และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต