ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต

❤️‍🩹 ผมมีประสบการณ์ที่อยากจะแบ่งปันให้พวกพี่ๆ น้องๆ หรือเพื่อนๆ ได้ฟังจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อหรอผิดพลาดแบบผม
 -เรื่องราวของผมมีอยู่ว่าผมได้ไปบรรจุงานราชการ อยู่ที่อำเภอหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นผมได้รู้จักกันสาวพยาบาลคนหนึ่ง ซึ่งก็ตกลงคุยกันเป็นแฟน จากนั้นหลังจากที่เราคบกันมา
ราวๆ 8 เดือนเธอมาบอกผมว่าบ้านเธอเดือดร้อน ที่จะโดนยึดหากไม่นำเงินไปใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ 
ผมเลยได้ถามเธอไปว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เธอบอกว่า 3 แสน ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้สงสารและหลงผู้หญิงคนนี้มาก เธอบอกว่าให้ผมกู้เงินมาให้เธอโดยไม่ให้ผมบอกหรือปรึกษากับคนในครอบครัว 
จากนั้นผมได้โกหกเพื่อนว่าจะนำเงินไปซื้อที่กับแฟนเพื่อนผมก็มาเซ็นค้ำประกันให้ ผมกู้เงินจำนวน 550,000 บาท ของธนาคารกรุงไทย ทั้งที่เพื่อนผมถามผมหลายรอบว่าจะนำเงินไปทำอะไรตั้งเยอะแยะผมก็เลือกที่จะโกหกปิดบังเพื่อนตามที่แฟนบอก
จากนั้นเพื่อนก็ค้ำให้ผมก็ได้เงินมา 490,000 หลังจากหักค่าประกันต่างๆนาๆ ซึ่งผมไม่ไว้ใจแฟนตัวเองจึงอยากให้เธอทำสัญญาให้ เธอก็บอกผมว่าไม่เชื่อใจแฟนคัวเองหรอ คำพูดนี้ทำให้ผมใจอ่อนและยอมโอนเงินให้เธอ จำนวน 3 แสนบาทถ้วน 
- ส่วนเงินอีก 190,000 บาทผมได้นำไปปิดบิ๊กไบท์ 1 แสนบาท อีก 90,000 ได้นำไปซื้อวัวและทำคอกวัวให้เธอที่บ้านของเธอ 
-หลังจากนั้นชีวิตมันไม่เป็นไปดังหวัง เราเริ่มมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อยๆ เนื่องจากทางบ้านของเธอมีปัญหา หนี้สินเยอะทำให้ต้องกู้หลายอย่าง บางทีเงินเดือนไม่พอใช้เธอก็มาขอเงินผม ผมก็ไม่ได้ว่า
-จนวันหนึ่งเธได้ออกรถยนต์ ซึ่งทางบ้านผมก็บอกว่าเงินเดือนยังไม่ได้เยอะมากบวกกับที่บ้านมีปัญหาหนี้สินเก็บเงินไปก่อนค่อยออกได้มั้ย เธอก็ไม่ฟัง ต่อมาเธอได้ย้ายไปทำงานที่ รพ.กรุงเทพ ผมก็ย้ายกับมาทำงานที่บ้านเกิดจังหวัดหนองคาย 
- จากนั้นเธอตัดสินใจเรียนต่อ ป.โท ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยและ ก็พยายามห้ามครอบครัวผมก็ห้าม สรุปแล้วเธอก็เรียนต่อไม่ฟังใครแถมยังว่าครอบครัวผมอีกว่าห้ามเธอทั้งที่ครอบครัวเธอก็ไม่เคยห้ามจากนั้นชีวิตของผมก็เริ่มเปลี่ยนไปผมต้องคอยกู้ยืมเงินมา support เธอทั้งที่เงินเดือนของผมก็ต้องโดนหักหนี้จากธนาคารทุกเดือนแล้วผมต้องเป็นหนี้ 20 ปีจนมาถึงวันหนึ่งเราคบกันตั้งแต่ปี 64 จนมาถึงปี 67ผมเริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้ถ้าผมฝืนไปต่อชีวิตผมไม่เหลืออะไรแน่นอนแล้วครอบครัวผมก็ได้บอกกับผมว่าให้ผมเลิกกับเธอซะถ้าไม่อยากลำบากไปมากกว่านี้แต่ในใจของผมก็รักเธอมากถึงขนาดคิดว่าจะยอมย้ายกลับไปอยู่กับเธอไปใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์จนมาถึงวันหนึ่งวันที่แม่ผมเสียชีวิตเนื่องจากแม่ผมเป็นผู้ป่วยติดเตียงแม่ผมเสียชีวิตเมื่อเดือนเมษายนพ.ศ 2561 ซึ่งเธอบอกว่าเธอมาช่วยงานแม่ผมไม่ได้เพราะติดธุระและเธอก็ไม่มีเงินที่จะช่วยงานศพแม่ของผมจากนั้นผมก็ได้รับเงินช่วยเหลืองานศพจากเพื่อนร่วมงานจำนวน 9,000 บาทเธอก็มาเอาเงินเงินจากเพื่อนที่มาช่วยเหลืองานศพของแม่จำนวน 9,000 บาทซึ่งตอนนั้นผมเสียใจมากแม่ผมก็ตายเธอก็ไม่มางานยังไม่พอไม่ช่วยงานยังไม่พอยังมาเอาเงินแม่ผมไปอีกมันเลยทำให้ผมคิดว่าหากผมจะทนใช้ชีวิตกับเธอต่อไปชีวิตของผมจะต้องเป็นเหมือนทาสอย่างแน่นอนจากนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเลิกกับเธอจริงจังเลือกที่จะเชื่อฟังครอบครัวเราสองคนจดทะเบียนกันและหลังจากนั้นผมพยายามตัดใจจากเธอไม่ติดต่อหาเธอเป็นเวลา 3 เดือนจนในที่สุดเธอก็ยอมหย่าให้ 
-และเธอก็พูดกับผมว่ามันโง่เองถ้าไม่หย่ากับกูหนี้สินของกูก็จะใช้ช่วยมันเลยทำให้ผมคิดได้ว่าถ้าวันนั้นวันที่ผมจะกู้เงินผมยอมโทรไปหาครอบครัวของผมบอกเขาตามตรงหรือบอกเพื่อนของผมตามตรงว่ากู้เงินไปทำอะไรชีวิตของผมก็จะไม่ต้องเป็นหนี้แบบนี้ผมต้องทนใช้หนี้ธนาคารจำนวน 500,000 บาท 20 ปีจึงฝากเตือนทุกคนว่าอย่าใจอ่อนกับผู้หญิงเด็ดขาดไม่งั้นชีวิตจะเหมือนตกนรกทั้งเป็นแบบผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่