ก่อนอื่น อย่าเพิ่งตำหนิผมนะครับ ว่าไม่สู้งาน หรือไม่สู้ปัญหา เพราะใครไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้หรอกครับ คือตอนนี้ผมถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์รับยาคลายเครียดและซึมเศร้า รวมทั้งเป็นโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน ไขมัน  ซึ่งทั้งปวงคงเป็นผลมาจากการทำงานหนักและความเครียด

ตอนนี้ทำงานที่นี่มาแล้ว 8 ปี ก็ทำมานานแล้ว ในระดับบริหารนี้ ตอนนี้เงินเดือน>70K เจอปัญหาอะไรมาก็เยอะ แต่ช่วงนี้หนักสุด ทำร้ายจิตใจถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ และระดับความดัน เบาหวานขึ้นเอาๆ เพราะผลจากการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เอาเป็นว่ารายละเอียดขอไม่ลงลึกละกันครับ เพราะเป็นปัจจัยภายนอก

ตอนนี้ไม่มีภาระอะไร โสด มีเงินเก็บประมาณ 3.5 ล้านบาท พ่อแม่เป็นข้าราชการเกษียณมีบำนาญ ไม่มีปัญหาทางการเงินอะไร มีอพาร์ตเม้นท์สามสิบห้องให้เช่า กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ได้(อพาร์ทเม้นของพ่อแม่นะครับ เค้ายังไม่ให้เข้าไปยุ่ง เค้าบริหารเอง)  อยากออกมาพัก ซึ่งในช่วงนี้ก็หางานใหม่ไปด้วย แต่เข้าใจข้อจำกัดด้านอายุ ที่มันหาไม่ได้ง่ายๆในระดับเดิม   แต่ก็กลัวสุขภาพกายสุขภาพใจจะเละจนเป็นบ้าไปก่อนหรือร่างกายทรุดจนต้องรักษาตัว

ปรึกษาทางบ้านบอกว่าถ้าหนักทำลายทั้งกายใจก็ให้ออกมา พ่อแม่บอกว่าเรื่องเงินไม่ต้องห่วง ห่วงสุขถาพตัวเองก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็สองจิตสองใจ ว่าจะทนกับสถานการณ์นี้ไประหว่างหางานใหม่ หรือออกมาเลยเพื่อให้สมองโล่ง save ตัวเองก่อน แล้วตั้งหลักหาทางชีวิตต่อไป  คิดว่าเคสที่เลวร้ายสุดคงไปทำงานอะไรที่มันไม่ต้องเครียดมาก เงินเดือนน้อยหน่อย แต่สบายใจขึ้น  เพราะอย่างน้อยคงพอมีเงินเก็บนิดหน่อย และมีประกันสังคม ไว้รักษาพยาบาลตัวเอง

ถ้าเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ เจอสถานการณ์แบบผมตอนนี้จะตัดสินใจอย่างไรครับ ลาออกเพื่อ save ตัวเอง หรือหาทางสู้กับงานที่เดิมครับ