เราเพิ่งใช้บริการเช่ารถครั้งแรกเจ้าดัง  ซึ่งจองผ่าน Agency  รับรถที่สนามบิน ซึ่งจริงๆแล้วเราเทียบหลายเจ้าแต่ที่ตัดสินใจเลือกเจ้านี้เพราะดูรุ่นรถแล้วเป็นรถรุ่นใหม่กว่าเจ้าอื่นที่เราเทียบในราคาใกล้เคียงกันค่ะ เราเช่ารถ 3 วันเพื่อใช้ไปร่วมงานมงคล ซึ่งจริงๆแล้วถือว่าใช้รถขับน้อยมากเพราะวันที่สองก็ส่วนใหญ่อยู่ที่งาน รร. ก่อนที่จะรับรถมาวันแรก ปกติคนส่วนใหญ่ก้อจะตรวจแค่ภายนอกใช่ไหมคะ คงไม่มีใครมาเปิดดูเครื่องยนต์หรือแบตเตอรี่ว่าอยู่ในสภาพแบบไหน เหตุการณ์เกิดขึ้นคือวันที่ 3 วันที่เดินทางกลับค่ะ ซึ่งเราได้เช็คเอ้าออกจากรร.ก่อนเที่ยงแล้วไปที่รถปรากฏว่ารถสตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด กดปุ่ม smart start หลายครั้งสรุปก็เลยต้องดำเนินการแจ้งให้บ.เค้ามาตรวจสอบคาดว่าต้องเปลี่ยนแบตค่ะ เพราะสภาพแบตเตอรี่ตอนที่เราเปิดมาคือดูเก่ามาก ตอนนั้นเราก้อกังวลเพราะ 1.คือฉันจะต้องไปซื้อของฝาก 2. ฉันยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน 3. ฉันต้องรีบไปสนามบิน  ปรากฎว่ากว่าที่ทางบริษัทจะส่งช่างมาเปลี่ยนแบตให้ เรารอประมาณสองชม.ครึ่งค่ะ ซึ่งแพลนที่วางไว้ทั้งหมดคือ ซื้อของฝากและทานข้าวก่อนคืนรถ ไม่ได้ไปค่ะเพราะไม่ทันแน่นอน การเดินทางต้องเผื่อเวลาระยะทางขับไปสนามบินด้วยค่ะ ซึ่งจากรร.ไปสนามบินหาดใหญ่ ระยะทาง 33 กม. เรารู้สึกไม่โอเครเรื่องการบริการที่มาเปลี่ยนแบตให้ค่อนข้างช้ามากๆ แถมไม่มีรถมาเปลี่ยนให้ด้วย (ไม่แน่ใจว่าเซอร์วิสเจ้าอื่นมีหรือไม่หากเกิด case แบบนี้ ) เราได้ร้องเรียนและแจ้งให้บริษัทพิจารณาเรื่องการชดเชยการบริการ ว่าวันนี้เราควรจะยกเลิกไม่คิดค่าบริการเราเนื่องจากถือว่าเราไม่ได้ใช้รถเลย ทางบริษัทรับเรื่องไว้แต่ผลปรากฎว่า การชดเชยคือ ให้ในการเช่าครั้งต่อไปสามารถเลทเวลาได้ หรือเปลี่ยนเป็นรถที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเรายังมีกำหนดที่จะต้องเช่ารถเลยค่ะ สรุปก็คือเงินที่เราจ่ายไปแล้วไม่สามารถคืนกลับมาได้ การชดเชยแบบนี้ไม่ทราบว่าเป็นทุกคน คิดว่าอย่างไร และการบริการของรถเช่าแบบนี้ ที่ผู้รับบริการต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นทุกคนจะทำยังไงคะ ตอนนี้เราก็เลยอยากทราบความคิดเห็น ซึ่งการใช้บริการรถเช่าครั้งต่อไป เราคงต้องคิดพิจารณาตรวจสอบให้ดีกว่านี้ในเรื่องเครื่องยนต์และการเซอร์วิสค่ะ เลยอยากแชร์ให้ทุกคนทราบ ขอบคุณค่ะ