สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องอยากจะปรึกษาเกี่ยวกับการถูกเลิกจ้างคาะ
วันนี้เพิ่งโดนบอกเลิกจ้างมาค่ะ เขาให้เหตุผลว่าประพฤติโดยพลการและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
(คือเราคุยดีลปัญหากับลูกค้า พยายามไกล่เกลี่ยให้ แจ้งหัวหน้าแล้วแต่ไม่ละเอียด เขาเลยไม่พอใจที่เราไม่บอกเขา เราก็เถียงเขาค่ะว่าแจ้งแล้ว อีกอย่างเขาไม่พอใจที่เราไม่รับสายหลังเลิกงาน สรุปคือเถียงกันไปมา เขาโมโหเลยบอกเลิกจ้างค่ะ)
เรายอมรับความหัวร้อน และความไม่รอบคอบของเราค่ะ พูดตรง ๆ ว่าเวลาลูกค้ามีปัญหาแล้วเรื่องถึงเจ้านายทีไร เรื่องมันจะยุ่งยากกว่าเดิมตลอด เราเลยพยายามแก้ไขปัญหาเองค่ะ ส่วนนี้เราผิดเองไม่เถียงเลย
พอเขาบอกเลิกจ้าง เราก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะตั้งใจจะลาออกอยู่แล้ว (แต่เนื่องด้วยเขาให้เงินเดือนค่อนข้างสูงเลยอดทนอยู่ต่อ)
และเนื่องด้วยเขาอยู่ต่างประเทศ เขาบอกเลิกจ้างผ่านแชทกลุ่มค่ะ โดยการแท็กพนักงานที่ดูแลเรื่อง hr มาแจ้งว่าเขาต้องการดำเนินการเลิกจ้างเรา โดยให้ปรึกษาทนายเรื่องเลิกจ้าง แล้วไล่ให้เรากลับบ้านไป ไม่ต้องมาทำงานจนกว่าเขาจะปรึกษาทาายเสร็จ และจะสั่งว่าให้มาทำต่อหรือไม่มาทำค่ะ
ซึ่งการที่เราให้เรามารอว่าเขาจะตัดสินใจยังไงเนี่ย เราไม่โอเคมาก ๆ ค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าจะเลิกจ้างก็ทำหนังสือเลิกจ้างมาและไกล่เกลี่ยเงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้าและเงินเดือนตามวันที่มาทำงานเลยจะดีกว่า เพราะเราจะได้ไปหาสมัครงานใหม่
และสิ่งที่เรากังวลคือหลังจากที่เขาปรึกษาทนายแล้ว ถ้าเขาให้เรากลับไปทำงานโดยลดเงินเดือนหรือเงินสนับสนุนลง เราก็ไม่โอเคมาก ๆ (เพราะพูดตรง ๆ เราอยู่ทำงานก็เพราะเงินเดือนสูงค่ะ) แต่เรากังวลว่าเขาจะเล่นแง่ว่าทางเขาเสนอให้เรากลับไปทำงานแล้ว แต่เราปฏิเสธเอง งั้นแปลว่าเราสมัครใจลาออกเอง ไม่ต้องเอาเงินค่าตกใจแล้วกันแบบนี้ค่ะ
ตอนนี้เรากำลังรออยู่ว่าเขาจะเอายังไงถ้าเลิกจ้างแบบถูกต้อง เคลียร์ทุกอย่างให้จบดี ๆ ไม่เล่นแง่ เราก็ยอมรับการเลิกจ้างค่ะ แต่ถ้าเกิดเคสแบบที่กังวลมา ไม่รู้ว่าพนักงานอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้เขาได้
แจ้งก่อนว่าเราทำงานมาแค่สองเดือนครึ่ง แต่เขาให้ผ่านโปรตั้งแต่เดือนแรกแล้วเราศึกษาเรื่องค่าชดเชยถ้าทำเกิน 120 วันมาแล้ว เราเข้าใจเรื่องจะหม่ได้ค่าชดเชยค่า แต่เคสนี้ก็ควรจะได้ค่าตกใจกับเงินเดือนตามวันที่เรามาทำงานค่ะ
เรามีแชทเป็นหลักฐานที่เขาแจ้งกับ hr เรื่องจะให้เราออกและบอกเราไม่ต้องมาทกงานจนกว่าเขาจะสั่งให้มา และเขาบอกว่าระหว่างที่เขาปรึกษาทนายอยู่นิ ต่อให้เราไม่มาทำงาน เขาก็จะจ่ายเงินเราตามปกติค่ะ ซึ่งเราไม่กังวลเรื่องจะจ่ายเงินหรือไม่จ่ายเงินวันที่ไม่ได้มาทำงานค่ะ เข้าใจด้วยว่าถ้าไใ่มาก็ไม่จ่ายก็ได่ แต่ความไม่ชัดเจนตรงนี้ทำให้เรากังวลค่ะ
เราปรึกษาทนายจากสภาทนายความเขาก็บอกว่าตามสิทธิ์เราต้องได้เงินเดือน+ค่าตกใจอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล แต่ปรึกษากรมคุ้มครองแรงงานเขาก็แจ้งว่าแนะนำให้ขอหนังสือเลิกจ้างมาเลยค่ะ เพื่อป้องการการที่เขาจะมาเล่นแง่หรือบิดคำพูดเอาทีหลัง ซึ่งเขาคงไม่ออกให้ค่ะ (นายจ้างเป็นต่างชาติ ความรู้กฎหมายไทยไม่ได้มากเท่าไหร่ค่ะ) ปรึกษาทนายกระทรวงยุติธรรมก็แจ้งว่าถ้ากังวลว่าจะถูกเล่นแง่ให้เอาแชทหลักฐานเรื่อการเลิกจ้างที่เรามีแปลแล้วเอาไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ามีการเลิกจ้างจริง เพราะถ้านายจ้างให้กลับไปทำงานโดยลดเงินเดือนหรือสวัสดิการลง เราก็มีสิทธิ์จะบอกปฏิเสธโดยมีหลักฐานเป็นใบบันทึกประจำวัน (ทนายแจ้งว่าถ้ามีแค่รูปแคปแชทมันค่อนข้างจะเป็นหลักฐานที่อ่อนค่ะ เลยแนะนำให้ลงบันทึก) จริง ๆ ทนายก็แจ้งว่าถ้าเขาให้กลับไปทำงานโดยสวัสดิการหรือเงินเดือนไม่ตรงกับหนังสือสัญญา เราสามารถบอกปฏิเสธได้โดยนายจ้างยังต้องจ่ายค่าชดเชยอยู่ค่ะ
เกริ่นมายาวมาก คือเราอยากรู้ว่าควรทำยังไงดีคะ ขอดักไว้ก่อนเพราะอาจจะมีบางท่านบอกว่าเรื่องยังไม่เกิดอย่าเพิ่งคิดไปเอง เราโดนพูดมาบ่อยค่ะเรื่องขี้กังวล เราแค่อยากรู้วิธีรับมือค่ะ เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริงแล้วเราไม่เตรียมตัวอะไรเลย เรามีแต่เสียกับเสีย ถึงตอนนั้นคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอม ๆ เซ็นใบลาออกแล้วรับแค่เงินเดือนน่ะค่ะ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้เงินวันที่ไม่มาทำงานด้วยอย่างที่เขาแจ้งมั้ยด้วยค่ะ) แต่เราก็กลัวว่าไปลงบันทึกประจำวันจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่นอกจากแชทเราก็ไม่มีหลักฐานอะไรปกป้องสิทธิ์ตัวเองแล้วค่ะ แต่เราก็ไม่อยากให้เขายืดเยื้อค่ะ เพราะเท่าที่ทำงานมานายจ้างค่อนข้างจะดำเนินการอะไรช้าค่ะ ยิ่งยืดเยื้อนานเราก็ยิ่งไม่สบายใจค่ะ เราควรอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร หรือควรทำอะไรซักอย่างดีคะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ
นายจ้างบอกเลิกจ้าง แต่บอกให้รอก่อนเดี๋ยวติดต่อไปอีกที แบบนี้ถือว่าเลิกจ้างหรือไม่
วันนี้เพิ่งโดนบอกเลิกจ้างมาค่ะ เขาให้เหตุผลว่าประพฤติโดยพลการและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
(คือเราคุยดีลปัญหากับลูกค้า พยายามไกล่เกลี่ยให้ แจ้งหัวหน้าแล้วแต่ไม่ละเอียด เขาเลยไม่พอใจที่เราไม่บอกเขา เราก็เถียงเขาค่ะว่าแจ้งแล้ว อีกอย่างเขาไม่พอใจที่เราไม่รับสายหลังเลิกงาน สรุปคือเถียงกันไปมา เขาโมโหเลยบอกเลิกจ้างค่ะ)
เรายอมรับความหัวร้อน และความไม่รอบคอบของเราค่ะ พูดตรง ๆ ว่าเวลาลูกค้ามีปัญหาแล้วเรื่องถึงเจ้านายทีไร เรื่องมันจะยุ่งยากกว่าเดิมตลอด เราเลยพยายามแก้ไขปัญหาเองค่ะ ส่วนนี้เราผิดเองไม่เถียงเลย
พอเขาบอกเลิกจ้าง เราก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะตั้งใจจะลาออกอยู่แล้ว (แต่เนื่องด้วยเขาให้เงินเดือนค่อนข้างสูงเลยอดทนอยู่ต่อ)
และเนื่องด้วยเขาอยู่ต่างประเทศ เขาบอกเลิกจ้างผ่านแชทกลุ่มค่ะ โดยการแท็กพนักงานที่ดูแลเรื่อง hr มาแจ้งว่าเขาต้องการดำเนินการเลิกจ้างเรา โดยให้ปรึกษาทนายเรื่องเลิกจ้าง แล้วไล่ให้เรากลับบ้านไป ไม่ต้องมาทำงานจนกว่าเขาจะปรึกษาทาายเสร็จ และจะสั่งว่าให้มาทำต่อหรือไม่มาทำค่ะ
ซึ่งการที่เราให้เรามารอว่าเขาจะตัดสินใจยังไงเนี่ย เราไม่โอเคมาก ๆ ค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าจะเลิกจ้างก็ทำหนังสือเลิกจ้างมาและไกล่เกลี่ยเงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้าและเงินเดือนตามวันที่มาทำงานเลยจะดีกว่า เพราะเราจะได้ไปหาสมัครงานใหม่
และสิ่งที่เรากังวลคือหลังจากที่เขาปรึกษาทนายแล้ว ถ้าเขาให้เรากลับไปทำงานโดยลดเงินเดือนหรือเงินสนับสนุนลง เราก็ไม่โอเคมาก ๆ (เพราะพูดตรง ๆ เราอยู่ทำงานก็เพราะเงินเดือนสูงค่ะ) แต่เรากังวลว่าเขาจะเล่นแง่ว่าทางเขาเสนอให้เรากลับไปทำงานแล้ว แต่เราปฏิเสธเอง งั้นแปลว่าเราสมัครใจลาออกเอง ไม่ต้องเอาเงินค่าตกใจแล้วกันแบบนี้ค่ะ
ตอนนี้เรากำลังรออยู่ว่าเขาจะเอายังไงถ้าเลิกจ้างแบบถูกต้อง เคลียร์ทุกอย่างให้จบดี ๆ ไม่เล่นแง่ เราก็ยอมรับการเลิกจ้างค่ะ แต่ถ้าเกิดเคสแบบที่กังวลมา ไม่รู้ว่าพนักงานอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้เขาได้
แจ้งก่อนว่าเราทำงานมาแค่สองเดือนครึ่ง แต่เขาให้ผ่านโปรตั้งแต่เดือนแรกแล้วเราศึกษาเรื่องค่าชดเชยถ้าทำเกิน 120 วันมาแล้ว เราเข้าใจเรื่องจะหม่ได้ค่าชดเชยค่า แต่เคสนี้ก็ควรจะได้ค่าตกใจกับเงินเดือนตามวันที่เรามาทำงานค่ะ
เรามีแชทเป็นหลักฐานที่เขาแจ้งกับ hr เรื่องจะให้เราออกและบอกเราไม่ต้องมาทกงานจนกว่าเขาจะสั่งให้มา และเขาบอกว่าระหว่างที่เขาปรึกษาทนายอยู่นิ ต่อให้เราไม่มาทำงาน เขาก็จะจ่ายเงินเราตามปกติค่ะ ซึ่งเราไม่กังวลเรื่องจะจ่ายเงินหรือไม่จ่ายเงินวันที่ไม่ได้มาทำงานค่ะ เข้าใจด้วยว่าถ้าไใ่มาก็ไม่จ่ายก็ได่ แต่ความไม่ชัดเจนตรงนี้ทำให้เรากังวลค่ะ
เราปรึกษาทนายจากสภาทนายความเขาก็บอกว่าตามสิทธิ์เราต้องได้เงินเดือน+ค่าตกใจอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล แต่ปรึกษากรมคุ้มครองแรงงานเขาก็แจ้งว่าแนะนำให้ขอหนังสือเลิกจ้างมาเลยค่ะ เพื่อป้องการการที่เขาจะมาเล่นแง่หรือบิดคำพูดเอาทีหลัง ซึ่งเขาคงไม่ออกให้ค่ะ (นายจ้างเป็นต่างชาติ ความรู้กฎหมายไทยไม่ได้มากเท่าไหร่ค่ะ) ปรึกษาทนายกระทรวงยุติธรรมก็แจ้งว่าถ้ากังวลว่าจะถูกเล่นแง่ให้เอาแชทหลักฐานเรื่อการเลิกจ้างที่เรามีแปลแล้วเอาไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ามีการเลิกจ้างจริง เพราะถ้านายจ้างให้กลับไปทำงานโดยลดเงินเดือนหรือสวัสดิการลง เราก็มีสิทธิ์จะบอกปฏิเสธโดยมีหลักฐานเป็นใบบันทึกประจำวัน (ทนายแจ้งว่าถ้ามีแค่รูปแคปแชทมันค่อนข้างจะเป็นหลักฐานที่อ่อนค่ะ เลยแนะนำให้ลงบันทึก) จริง ๆ ทนายก็แจ้งว่าถ้าเขาให้กลับไปทำงานโดยสวัสดิการหรือเงินเดือนไม่ตรงกับหนังสือสัญญา เราสามารถบอกปฏิเสธได้โดยนายจ้างยังต้องจ่ายค่าชดเชยอยู่ค่ะ
เกริ่นมายาวมาก คือเราอยากรู้ว่าควรทำยังไงดีคะ ขอดักไว้ก่อนเพราะอาจจะมีบางท่านบอกว่าเรื่องยังไม่เกิดอย่าเพิ่งคิดไปเอง เราโดนพูดมาบ่อยค่ะเรื่องขี้กังวล เราแค่อยากรู้วิธีรับมือค่ะ เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริงแล้วเราไม่เตรียมตัวอะไรเลย เรามีแต่เสียกับเสีย ถึงตอนนั้นคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอม ๆ เซ็นใบลาออกแล้วรับแค่เงินเดือนน่ะค่ะ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้เงินวันที่ไม่มาทำงานด้วยอย่างที่เขาแจ้งมั้ยด้วยค่ะ) แต่เราก็กลัวว่าไปลงบันทึกประจำวันจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่นอกจากแชทเราก็ไม่มีหลักฐานอะไรปกป้องสิทธิ์ตัวเองแล้วค่ะ แต่เราก็ไม่อยากให้เขายืดเยื้อค่ะ เพราะเท่าที่ทำงานมานายจ้างค่อนข้างจะดำเนินการอะไรช้าค่ะ ยิ่งยืดเยื้อนานเราก็ยิ่งไม่สบายใจค่ะ เราควรอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร หรือควรทำอะไรซักอย่างดีคะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ