จากประกาศ ตลท
https://weblink.set.or.th/dat/news/202411/0528NWS201120241832440513T.pdf?
ที่ DELTA แจ้งตลาดว่าการดำเนินธุรกิจไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงนัยสำคัญ
ผมเชื่อว่า สิ่งที่ DELTA แจ้งตลาด เป็นความจริง
ไม่ได้มีพวกพ้อง อำนาจมืด ปั่นหุ้นมาที่จุดๆ นี้
แต่ทั้งหมดเกิดจากน้ำหนักต่อดัชนีที่เยอะ
การเก็งกำไรของเม็ดเงินกองทุนสถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ เพราะกลัวแพ้ดัชนี
สภาวะ TINA (There Is No Alternative.) เพราะดูเป็นบริษัทที่มีปัญหาน้อยเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่มี overhang เยอะ
เมื่อคิดไม่ออก บรรดากองทุนจึงเลิกวิเคราะห์และแห่ซื้อ DELTA เพื่อล้อดัชนีแทน (ถ้าผลตอบแทนระยะสั้นแพ้กองอื่นเยอะ อนาคตคนก็ไม่มาลงกองกับ บลจ นี้ เป็นเรื่องธุรกิจ ยิ่งปัจจุบันนักลงทุนมองสั้นลงๆ เน้นรวยไว)
นอกจากนี้ยังมีกองทุน index fund หรือ passive fund ที่ไม่เน้นวิเคราะห์และพยายามเอาชนะดัชนี แต่ล้อตามดัชนี
เม็ดเงินส่วนนี้เอง (สมมติผมซื้อกอง Index fund SET50 1 ล้านบาท) เท่ากับกองเอาไปซื้อ DELTA ราวๆ 160,000 บาท ตามสัดส่วน (เขาทำตามหน้าที่ ไม่ทำเดี๋ยวโดนไล่ออก)
ซึ่ง passive fund นี่แหละที่ยิ่งโตขึ้นมาก ยิ่งเป่าฟองสบู่ให้บวมไปอีก เหล่าเม็ดเงินของกองทุน นักลงทุนสถาบัน ต้องมาเล่นเก้าอี้ดนตรี แชร์ลูกโซ่วง DELTA กัน
ทางแก้ปัญหา อันนี้ยังมองไม่ออกเลย สุดท้ายอาจต้องปล่อยมันวิ่งและทะลุโครมลงมาเองเมื่อเวลานั้นมาถึง
ดูจากบริบท เชื่อว่าบริษัทไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมขึ้นแรง
นอกจากนี้การที่ DELTA ขึ้นแรงยิ่งส่งผลเสียทางอ้อมต่อหุ้นอื่นที่เหลืออยู่ใน Index เพราะการที่น้ำหนักลดลง หรือ กองทุนขายหุ้นอื่นมาซื้อ DELTA เพื่อไล่ดัชนี ยิ่งทำให้นักลงทุนหุ้นอื่นขาดทุน ราคาหุ้นอื่นเทรดด้วย valuation ที่ต้ำลงหมด และอาจกระทบแผนการระดมทุนของบริษัทอื่นได้หมด (หากจะเพิ่มทุน)
เชื่อมั่นว่า DELTA แจ้งตลาดเรื่องบริษัทไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนัยสำคัญ เป็นความจริง
ที่ DELTA แจ้งตลาดว่าการดำเนินธุรกิจไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงนัยสำคัญ
ผมเชื่อว่า สิ่งที่ DELTA แจ้งตลาด เป็นความจริง
ไม่ได้มีพวกพ้อง อำนาจมืด ปั่นหุ้นมาที่จุดๆ นี้
แต่ทั้งหมดเกิดจากน้ำหนักต่อดัชนีที่เยอะ
การเก็งกำไรของเม็ดเงินกองทุนสถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ เพราะกลัวแพ้ดัชนี
สภาวะ TINA (There Is No Alternative.) เพราะดูเป็นบริษัทที่มีปัญหาน้อยเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่มี overhang เยอะ
เมื่อคิดไม่ออก บรรดากองทุนจึงเลิกวิเคราะห์และแห่ซื้อ DELTA เพื่อล้อดัชนีแทน (ถ้าผลตอบแทนระยะสั้นแพ้กองอื่นเยอะ อนาคตคนก็ไม่มาลงกองกับ บลจ นี้ เป็นเรื่องธุรกิจ ยิ่งปัจจุบันนักลงทุนมองสั้นลงๆ เน้นรวยไว)
นอกจากนี้ยังมีกองทุน index fund หรือ passive fund ที่ไม่เน้นวิเคราะห์และพยายามเอาชนะดัชนี แต่ล้อตามดัชนี
เม็ดเงินส่วนนี้เอง (สมมติผมซื้อกอง Index fund SET50 1 ล้านบาท) เท่ากับกองเอาไปซื้อ DELTA ราวๆ 160,000 บาท ตามสัดส่วน (เขาทำตามหน้าที่ ไม่ทำเดี๋ยวโดนไล่ออก)
ซึ่ง passive fund นี่แหละที่ยิ่งโตขึ้นมาก ยิ่งเป่าฟองสบู่ให้บวมไปอีก เหล่าเม็ดเงินของกองทุน นักลงทุนสถาบัน ต้องมาเล่นเก้าอี้ดนตรี แชร์ลูกโซ่วง DELTA กัน
ทางแก้ปัญหา อันนี้ยังมองไม่ออกเลย สุดท้ายอาจต้องปล่อยมันวิ่งและทะลุโครมลงมาเองเมื่อเวลานั้นมาถึง
ดูจากบริบท เชื่อว่าบริษัทไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมขึ้นแรง
นอกจากนี้การที่ DELTA ขึ้นแรงยิ่งส่งผลเสียทางอ้อมต่อหุ้นอื่นที่เหลืออยู่ใน Index เพราะการที่น้ำหนักลดลง หรือ กองทุนขายหุ้นอื่นมาซื้อ DELTA เพื่อไล่ดัชนี ยิ่งทำให้นักลงทุนหุ้นอื่นขาดทุน ราคาหุ้นอื่นเทรดด้วย valuation ที่ต้ำลงหมด และอาจกระทบแผนการระดมทุนของบริษัทอื่นได้หมด (หากจะเพิ่มทุน)