อยากยกเลิกประกันของ Allianz แต่จะได้เงินคืนไม่ครบ

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เลยค่ะว่า
"ถ้าไม่มั่นใจในตัวประกันที่ถูกขายผ่านโทรศัพท์ อย่าตอบตกลงเด็ดขาด ก่อนที่จะสายเกินไป"

.
ตามหัวข้อเลยค่ะ คือเรากังวลมาก ๆ และรู้สึกแย่ที่ตัวเองไม่รอบคอบไม่ไตร่ตรองเอง อันนี้ยอมรับ
.
มีวันนึง บริษัทประกัน โทรมาหาเราในช่วงเวลาทำงาน เมื่อประมาณกลางเดือนก่อน ซึ่งตอนนั้นลักษณะการพูดคุยเหมือนซักถามประวัติสุขภาพ และก็เล่าถึงพฤติกรรมการใช้งานบัตรเครดิต ซึ่งตอนแรกเราเข้าใจว่า ทีมงานบัตรเครดิตคงโทรมาเช็คเฉยๆ แล้วทีนี้เขาก็คุยนานมากซึ่งเราอาจจะไม่ได้ตั้งใจฟังนิด ๆ เพราะรู้สึกว่าคุยนานมากบวกกับกังวลว่าตอนนี้มันคือเวลาทำงาน เราก็ไม่อยากคุยนาน จนกระทั่งพึ่งมารู้ทีหลังว่ามาจากบริษัทประกัน ซึ่งเราก็แจ้งไปแล้วว่าตอนนี้มีประกันเยอะแล้วไม่สนใจทำ แต่เขาก็เหมือนพูดโน้มน้าวใจเราอะไรสักอย่าง ซึ่งเราก็ใจอ่อน บวกกับหัวหน้าเราเดินมาเตือนพอดีว่าคุยโทรศัพท์นานเกินไป (ประมาณ 30-40 นาทีได้) ตอนนั้นพนักงานพูดเร็วมากเราก็เข้าใจว่าเออข้อมูลมันเยอะเขาคงต้องทำเวลา แล้วเราก็ดันเผลอตอบตกลงไป เพราะตอนนั้นคิดว่าอยากลองเอาข้อมูลดูก่อน เพราะเราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับประกันเลย ไม่ได้ศึกษาจริงจัง และก็ถามเขาแล้วว่าสามารถยกเลิกได้ไหม ซึ่งเขาบอกว่ายกเลิกภายหลังได้ เราเลยลองตกลงไปก่อน
--------------------------
ทีนี้ปกติตอนขึ้นเดือนใหม่ เรามักจะชำระเงินบัตรเครดิต  และจะพยายามเช็คแอพบ่อยๆ ตอนที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองใช้เงินด้วยบัตรเยอะเกิน 1000++ เราชำระบัตรเครดิตไปตอนต้นเดือนใหม่ เราชำระเงินเป็น Full amount ไปเลย ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ยอดเงินที่ปรากฎก็เห็นว่าเป็นจำนวนเงินปกติตามที่เราใช้ของเดือนที่แล้ว ก็กดชำระไป
--------------------------
ก่อนหน้านั้น ตอนปลายเดือนที่แล้ว ก็เพิ่งเห็นเล่มกรมธรรม์ ตอนนั้นก็ศึกษาอยู่ว่าอะไรคือยังไงมีกฎอะไรบ้าง แต่เราก็ยังงงๆ เลยพักเรื่องนี้ไว้ก่อน
--------------------------
ทีนี้ตอนกลางเดือนเรารู้สึกเหมือนจะเริ่มใช้เงินเยอะก็เลยกลับมาเช็คบัตรอีกรอบ แต่พบว่ายอดเงินที่ถูกหักจากบัตร มันเยอะมากเกินไปเลยมาเช็ค Statement พบว่ามีเงินโดนหักไปตอนกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งมันถูกหักก่อนที่เราจะเห็นตอนชำระเงินในบัตรเครดิตเสียอีก ซึ่งเงินเยอะมาก (ไม่บอกเป็นตัวเลขละกันนะคะ แต่เอาเป็นว่าประมาณครึ่งนึงของหมื่นบาท)
--------------------------
เราเลยลองมาอ่านรายละเอียดกรมธรรม์อีกรอบว่าตัวเองจะโอเคกับมันมั้ย ซึ่งจ่ายเบี้ยประกันรายเดือนมันเยอะมาก ๆ ก็ประมาณ 10% ของเงินเดือนเราได้ ในขณะที่เราก็มีภาระค่าใช้จ่ายของชีวิตที่ยังคงไม่ค่อยมั่นคงอยู่ (เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่กี่ปีเองค่ะ)  ค่าหอค่าเงินออมต่าง ๆ ของที่ทำงาน  เราเลยมองว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่ได้พร้อมกับการจ่ายรายเดือนให้ประกันตัวนี้เท่าไรเพราะเราไม่รู้เลยว่าในอนาคต จะมีเรื่องให้ต้องเสียเงินก้อนเพิ่มเติมโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับประกันตัวนี้หรือเปล่า เราลองวิเคราะห์เรื่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้พร้อมที่จะจ่ายเงินให้ประกันตัวนี้ในช่วงนี้ เลยอยากยกเลิก
--------------------------
ทีนี้วันที่โทรว่าจะไปยกเลิก เหมือนเขาก็ช่วยบอกว่าเราลดวงเงินให้ได้นะ ซึ่งก็ลดมาเยอะอยู่ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่อยากมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเลยอยากยกเลิกแบบจริงจัง อยากขอศึกษาอะไรมากกว่านี้ก่อน เพราะตอนที่ประกันโทรมาแล้วฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย อ่านข้อมูลในกรมธรรม์เราก็ไม่ค่อยเข้าใจ เรากลัวตัวเองจะเข้าใจผิดไปเองและโดนอย่างอื่นในอนาคต แต่พนักงานบอกว่า ถ้าขอยกเลิก เงินที่ถูกหักไปแล้วจะไม่ได้คืน เพราะถือว่าเป็นการชำระไปแล้ว 2 งวด (ซึ่งตรงนี้เรางงมากว่าทำไมกลายเป็น 2 งวดได้ แต่พนักงานบอกว่ามีแจ้งแล้ว แต่ไม่ชัวร์นะเรากลัวตัวเองจะเข้าใจผิดเหมือนกัน) เงินที่จะได้คืนเป็นเงินของงวดถัดไปแทน เราช็อคมาก คือเงินมันเยอะมาก และเราเพิ่งได้รับกรมธรรม์ยังไม่ครบ 30 วันเลย (แต่อาจจะเกิน 15 วันแล้ว)
--------------------------
เราไม่รู้จะทำยังไงดี เราไม่เข้าใจเรื่องกฎหมาย เราไม่เข้าใจเรื่องประกัน เราไม่ได้พร้อมอะไรเกี่ยวกับตรงนี้เลย เราไม่ได้ศึกษาให้ดีเอง เราผิดเองที่เผลอตอบตกลงไปวันนั้น คือถามว่าประกันตัวนี้มันดีไหม เราก็รู้นะว่ามันดีในเชิงของเรื่องสร้างวินัยการออม เราไม่ได้อยากโทษ บ.ประกันเลย แต่เราไม่พร้อมที่จะไปต่อจริงๆ เหตุผลก็คือ เราไม่ได้เข้าใจและไม่ได้ศึกษามันให้ดีก่อน ไม่ใช่ว่าไม่อยากศึกษาแต่ชีวิตเรายังไม่มั่นคงเลย ประกอบกับเราคิดว่านี่ขนาดเพิ่งสมัครเรายังโดนขนาดนี้ แล้วในอนาคตเราจะไม่ถูกโดนอย่างอื่นเหรอ
.
.
คือประกันอาจจะไม่ได้แย่ แต่เราเสียความรู้สึกไปแล้ว เราอยากได้เงินคืน ควรทำไงดีคะ มีใครพอแนะนำได้บ้าง
.
ถ้าพี่พนักงาน บ.ประกัน มาเห็น เปิดโอกาสให้ชี้แจงได้นะคะ อยากให้ผู้บริโภคได้มาพิจารณากันในนี้ได้
--------------------------------------------------------------------
.
อัพเดท 1
.
เราโทรคุยกับทาง คปภ แล้วค่ะ เขาแจ้งมาว่าสามารถยกเลิกได้ แต่ต้องยอมตอนนี้ว่า เราได้เล่มกรรมธรรม์มานานเกิน Freelook แล้ว (เกินช่วงชำระงวดถัดไป) ดังนั้นเบี้ยประกันที่เสียไปในตอนแรกจะไม่ได้คืนแน่นอน จะได้คืนก็ต่อเมื่อ ได้รับกรรมธรรม์แล้วแจ้งขอยกเลิกทันที แต่เราปล่อยผ่านมานานเกินไป ตอนนี้เราไม่อยากเสียเงินฟรี เพราะนั่นมันเยอะมาก ๆ คือถามว่าเราจ่ายไหวไหม เราจ่ายได้ เลยคิดว่าคงต้องไปต่อแบบลดวงเงินดู แต่ยอมรับเลยค่ะว่าเสียความรู้สึกกับ บ. นี้มาก ๆ ที่ทำไมไม่แจ้งเรื่องนี้ให้ชัดเจน แต่อาจจะผิดที่เราเองก็ใหม่ด้วยไม่ได้ศึกษาให้ดีและปล่อยผ่านนานเกินไป ด้วยความที่เรามีภาระงานที่ค่อนข้างเยอะมากจนเหนื่อยเกินในแต่ละวันมากกว่าที่จะมาศึกษาอะไรพวกนี้ในช่วงนั้น
.
ขออย่าให้ใครโดนแบบนี้เหมือนเราเลยนะคะ ให้เคสของเราเป็นอุทาหรณ์ของเด็กจบใหม่ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องประกันอะไรแล้วไม่ได้พร้อมจ่าย อย่าใจอ่อนแบบเรา อย่าปล่อยผ่านเมื่อเล่มกรมธรรม์ส่งถึงบ้านแล้ว ถ้ารู้ตัวว่าไม่ได้เข้าใจอะไรในประกันเลยให้รีบยกเลิกทันที
.
ตอนนี้ทำได้แค่พยายามเปิดใจการออมสะสมทรัพย์แบบใหม่ อย่างน้อยก็หวังว่าจะมีเงินคืนครบในอนาคต และเผื่อเอาไว้ลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ใครที่เพิ่งสมัครบัตรเครดิต อย่าติ๊กช่องการให้ข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลโปรโมชั่นเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจอแบบเรา  เราใช้บัตรกรุงศรีค่ะ แจ้งไว้เผื่อทุกคน
.
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณมากเลยค่ะที่เป็นห่วง กรณีศึกษานี้มันทำให้เราได้หันมาศึกษาเรื่องประกันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ได้รู้เท่าทันคน รู้กฎหมายมากขึ้น จากเพื่อนๆ ที่คอยแนะนำ และในอนาคต คิดว่าคงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับ บ. นี้อีกจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาค่ะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลนะคะ จริงๆ คือ ไม่ใช่ครึ่งแสน แต่เป็นครึ่งหมื่นค่ะ เราใส่ข้อมูลผิด ขออภัยหากทำให้ใครสับสนนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่