ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็นกรดไหลย้อนอยู่แล้ว ทั้งเคยส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่มาแล้ว เวลามีอาการจึงไม่ได้นึกถึงนิ่วในถุงน้ำดีเลยคิดว่าเป็นกรดไหลย้อนตลอดและคุณหมอเองก็ไม่ได้สงสัยเพราะส่วนใหญ่จะพบในหญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปมากกว่า
แต่พอร่างกายน่าจะไม่ไหวแล้วอาการของโรคเลยสำแดงขึ้นมาเริ่มจาก
24 กย 67
มื้อเย็นกินหอยทอดพอตกค่ำ เริ่มมีอาการปวดมากคล้ายกรดไหลย้อนปวดจุกแน่น คลื่นใส้อาเจียน กินยาลดกรดก็ไม่หาย + ปวดหลังมากแบบนอนไม่ได้ ก็อดทนจนถึงเช้า แต่พอเช้าเหลือแค่อาการปวดหลังนิดหน่อย เลยคิดว่านั่งทำงานนานเลยไปหาหมอได้ยาคลายกล้ามเนื้อมา (หมอยังกดตรงใต้ชายโครงขวาถามว่าเจ็บไหมถ้าเจ็บก็จะสงสัยนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งตอนนั้นไม่เจ็บเลย)
หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการรุนแรงอะไรนอกจากแน่นท้องหลังมื้ออาหาร จนมาถึง
29 กย 67
มื้อเย็น กินเมื่องหมูสามชั้น พอตกค่ำเอาเลยเริ่มเลย เริ่มจากอาการปวดจุกแน่นท้อง ยิ่งกินยาลดกรดยิ่งปวด โดยรอบนี้เริ่มปวดตรงบริเวณใต้ชายโครงขวาร้าวไปหลัง ปวดจนเหงื่อแตก เริ่มเสิชกูเกิ้ล นิ่วถุงน้ำดีมาเลย อาการเป๊ะทุกตรง พอไปฉี่ อื้อหือ ฉี่สีเข้มมาก เฟิมเองแล้ว 70% ก็อดทนจนเช้า อาการปวดก็หายไปเหมือนไม่เคยปวดมาก่อน (ตรงกับที่หมอบอกว่าเวลาปวดจะกินเวลาสักพักพอหายก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง) ตัดสินใจไป รพ เล่าอาการให้หมอฟัง หมอสงสัยนิ่วในถุงน้ำดี เลยส่ง u/s สรุปเจอก้อนนิ่วขนาด 2.3 cm โชคดีที่ไม่มีการอักเสบ (หมอบอกใหญ่มากเลยนะ แสดงว่าเป็นมานานแล้ว กินของมันเก่งใช่ไหม?) หมอแนะนำให้ผ่าออก หรือถ้าไม่อยากผ่าก็ทำได้แค่คุมอาการไม่ให้ปวดโดยไม่กินของมันไปกระตุ้นอาการ เพราะนิ่วในถุงน้ำดีกินยาสลายหรือใช้เครื่องสลายไม่ได้ แต่หมอก็ย้ำว่าแนะนำให้ผ่าออกดีกว่าเพราะถ้าเกิดอักเสบขึ้นมาจะแย่กว่านี้ เราเลยตัดสินใจไปผ่ากับ รพ ปกส คุณหมอเลยให้ผล+แผ่นซีดี ให้ไปยื่นที่ รพ ต้นสังกัดได้เลย
30 กย 67
ไปเลยค่ะ ใจร้อน ไม่รอ ไป รพ ราชวิถี (สิทธิ์ ปกส) คุณหมอที่ราชวิถีก็แนะนำให้ผ่าตัดแบบส่องกล้องเพราะพักฟื้นไม่นานและแผลขนาดเล็กโดยจะหาคิวผ่าให้
หลังจาก 1 เดือนยังไม่ได้คิวผ่า ทางรพ ก็ยังบอกไม่ได้ว่าอีกนานแค่ไหนเพราะคนไข้เยอะมากเป็นร้อยคิวได้
31 ตค 67
เราเลยตัดสินใจไปปรึกษาคุณหมออีกครั้ง เรื่องการผ่าตัดนอกเวลาโดยใช้ประกันกลุ่มของทางบริษัท โดยคุณหมอประเมินค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดอยู่ที่ 50,000 บาท (ต้องวางเงินประกันกับทาง รพ) เลยตกลงนัดวันผ่าอีก 2 อาทิตย์ โดยคุณหมอนัดให้มานอน รพ วันที่ 15 พย 67 และผ่าตัดคิวแรก 8.00 น ในวันที่ 16 พย 67
รีวิวผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ในวัย 28 ปี
แต่พอร่างกายน่าจะไม่ไหวแล้วอาการของโรคเลยสำแดงขึ้นมาเริ่มจาก
24 กย 67
มื้อเย็นกินหอยทอดพอตกค่ำ เริ่มมีอาการปวดมากคล้ายกรดไหลย้อนปวดจุกแน่น คลื่นใส้อาเจียน กินยาลดกรดก็ไม่หาย + ปวดหลังมากแบบนอนไม่ได้ ก็อดทนจนถึงเช้า แต่พอเช้าเหลือแค่อาการปวดหลังนิดหน่อย เลยคิดว่านั่งทำงานนานเลยไปหาหมอได้ยาคลายกล้ามเนื้อมา (หมอยังกดตรงใต้ชายโครงขวาถามว่าเจ็บไหมถ้าเจ็บก็จะสงสัยนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งตอนนั้นไม่เจ็บเลย)
หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการรุนแรงอะไรนอกจากแน่นท้องหลังมื้ออาหาร จนมาถึง
29 กย 67
มื้อเย็น กินเมื่องหมูสามชั้น พอตกค่ำเอาเลยเริ่มเลย เริ่มจากอาการปวดจุกแน่นท้อง ยิ่งกินยาลดกรดยิ่งปวด โดยรอบนี้เริ่มปวดตรงบริเวณใต้ชายโครงขวาร้าวไปหลัง ปวดจนเหงื่อแตก เริ่มเสิชกูเกิ้ล นิ่วถุงน้ำดีมาเลย อาการเป๊ะทุกตรง พอไปฉี่ อื้อหือ ฉี่สีเข้มมาก เฟิมเองแล้ว 70% ก็อดทนจนเช้า อาการปวดก็หายไปเหมือนไม่เคยปวดมาก่อน (ตรงกับที่หมอบอกว่าเวลาปวดจะกินเวลาสักพักพอหายก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง) ตัดสินใจไป รพ เล่าอาการให้หมอฟัง หมอสงสัยนิ่วในถุงน้ำดี เลยส่ง u/s สรุปเจอก้อนนิ่วขนาด 2.3 cm โชคดีที่ไม่มีการอักเสบ (หมอบอกใหญ่มากเลยนะ แสดงว่าเป็นมานานแล้ว กินของมันเก่งใช่ไหม?) หมอแนะนำให้ผ่าออก หรือถ้าไม่อยากผ่าก็ทำได้แค่คุมอาการไม่ให้ปวดโดยไม่กินของมันไปกระตุ้นอาการ เพราะนิ่วในถุงน้ำดีกินยาสลายหรือใช้เครื่องสลายไม่ได้ แต่หมอก็ย้ำว่าแนะนำให้ผ่าออกดีกว่าเพราะถ้าเกิดอักเสบขึ้นมาจะแย่กว่านี้ เราเลยตัดสินใจไปผ่ากับ รพ ปกส คุณหมอเลยให้ผล+แผ่นซีดี ให้ไปยื่นที่ รพ ต้นสังกัดได้เลย
30 กย 67
ไปเลยค่ะ ใจร้อน ไม่รอ ไป รพ ราชวิถี (สิทธิ์ ปกส) คุณหมอที่ราชวิถีก็แนะนำให้ผ่าตัดแบบส่องกล้องเพราะพักฟื้นไม่นานและแผลขนาดเล็กโดยจะหาคิวผ่าให้
หลังจาก 1 เดือนยังไม่ได้คิวผ่า ทางรพ ก็ยังบอกไม่ได้ว่าอีกนานแค่ไหนเพราะคนไข้เยอะมากเป็นร้อยคิวได้
31 ตค 67
เราเลยตัดสินใจไปปรึกษาคุณหมออีกครั้ง เรื่องการผ่าตัดนอกเวลาโดยใช้ประกันกลุ่มของทางบริษัท โดยคุณหมอประเมินค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดอยู่ที่ 50,000 บาท (ต้องวางเงินประกันกับทาง รพ) เลยตกลงนัดวันผ่าอีก 2 อาทิตย์ โดยคุณหมอนัดให้มานอน รพ วันที่ 15 พย 67 และผ่าตัดคิวแรก 8.00 น ในวันที่ 16 พย 67