ปี 2538
ปี 2538 คนไทย 48.7 ล้านคน ยากจน และอาศัยอยู่ในชนบท
เพราะกระทรวงศึกษาธิการ ไม่สามารถ จัดบริการ การศึกษา ให้คนไทย ทุกคน ตั้งแต่สมัยรัชกาลพระพุทธเจ้าหลวง ทั้งที่โลกเปลี่ยนแปลง และ ประชาชนต้องได้รับการศึกษา เพราะ ศตวรรษที่ 20 เป็นศตวรรษแรก ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ว่า การเรียนรู้ในครอบครัวเพื่อนหาเลี้ยงชีพ ไม่เพียงพอ
ห้วงเวลา 34 ปี จากปี 2504 ถึง 2538 พื้นที่ป่าไม้หายไป จากประเทศไทย 88.84 ล้านไร่ เพราะคนจนผู้ไม่ได้รับบริการการศึกษา จะตัดไม้ทำลายป่ากันอย่างเอิกเกริกทั่วประเทศ แต่ยังคงยากจน เพราะโลกเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 หรือ ต้นศตวรรษที่ 20
❝ เด็กไทยนับหมื่นคนยังอดหยากและเสียชีวิต ❞ ❛ คุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ❜ นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของ ประเทศไทย
ประกาศความจริงนี้ ให้ชาวโลกรับรู้ บนเวที ประกวดนางงามจักรวาลเมื่อปี 2531
ปี 2530 กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งเป้าหมายว่า จะจัดบริการการศึกษาให้คนไทย ทุกคน อย่างเท่าเทียม ทั่วถึง ทั่วไทย ถึงระดับมัธยมต้น หลังจาก 100 ปี
ตั้งแต่รัชสมัย พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถ จัดบริการ การศึกษาทั่วถึง ส่งผลให้ประชาชนยากจน และ เด็กยากจน อด
อาหาร ตาย
ปี 2534 พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ทำรัฐประหาร
ปี 2535 พฤษภาทมิฬ
ปี 2536 กระทรวงศึกษาธิการ คาดว่า ไม่สามารถ จัดบริการ การศึกษา ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ให้คนไทย ทุกคน ในปี 2550
คามเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ ปี 2530 ได้ ตามเหตุผลต่อไปนี้
ปี 2537 สถานการณ์ เด็กไทย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภาผู้แทนราษฎร
ข้อมูลเพิ่มเติม สภาผู้แทนราษฎร พี่น้องประชาชน จะได้ไม่เข้าคูหา กาผิดเบอร์ ในอนาคตค่ะ
เนื่องจากการจัดบริการการศึกษา ให้คนไทยทุกคน ตั้งแต่อนุบาล ถึงมัธยมศึกษา ตอนปลาย หรือ อาชีวศึกษา โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ถูกคัดค้าน จากหลายๆ
ฝ่าย
จากข้อมูลด้านบน นักการเมือง และ นักการศึกษา เรียกการปฏิรูปการศึกษา ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล หรือ การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 ว่า
❝ การปฏิรูปการศึกษา ของ คน คนเดียว ❞
แต่……… การอภิวัฒน์การศึกษาไทยตามคู่มือ ต้องอาศัย ความร่วมมือ ของประชาชน ทุกสาขาอาชีพ ทั่วท้องถิ่นไทย ร่วมกับ บุคลากรทางการศึกษา จึงจะ
สำเร็จเป็นรูปธรรมได้
คู่มือการอภ้วัฒน์การศึกษาไทย หรือ แผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุค โลกาภิวัตน์ ปี 2538: เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษ ที่ 21
จึงจำเป็นต้องขอมติ คณะรัฐมนตรี ในการแก้ไข แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบัน ที่ 7
การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 ได้รับรางวัล จากต่างประเทศ คือ
1) 1996 "During his trip to the Philippines, H.E. Mr. Sukavich Rangsitpol was conferred an Honorary Degree of Doctor of Education by the Philippine Normal University. His will to reform education and strong leadership in educational management were highly commended."
https://web.archive.org/web/20220904100222/https://www.seameo.org/vl/library/dlwelcome/photogallery/president/sukavich.htm
ถูกปลดกลางอากาศ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี ต้มยำกุ้ง ตาร้อน ทั้งที่โยนเผือกร้อน กระทรวงศึกษาธิการ ใส่หน้า
เนื่องจาก ตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนมาใช้ระบบการศึกษาสากล ในรัชกาลสมเด็จ พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5
รัฐไทยจัดบริการการศึกษา เท่าเทียม ทุกคน ทั่วถึง ทั่วไทย ไม่สำเร็จ เป็นระยะเวลา 100 ปี ตั้งแต่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในที่สุดสำเร็จ ด้วยการใช้แผน
พัฒนาเศรษฐกิจแลพสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 โดยคน พัฒนาคน เพื่อคน
การอภิวัฒน์การศึกษาไทย ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ด้วย
แผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัตน์2538 : เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21
จึงเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในรอบ 100 ปี
อ่านเอกสารอ้างอิง เพิ่มเติมที่
รางวัลการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538
UNESCO มอบรางวัล การบริหารการศึกษาเป็นเลิศ ให้ประเทศไทย ปี 2540 และ
การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาใช้ในการจัดบริการการศึกษา ปี 2541
พรรคชาติไทยซึ่งครองกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั่น มีความเจ็บแค้น จนกระทั่งล้มรัฐบาลต้มยำกุ้งได้สำเร็จใน 11 เดือน อายุสั้นกว่า
รัฐบาลนายกรัฐมนตรีบรรหาร 2 เดือน
นายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา เอาคืน คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในฐานะเลขาธิการพรรค อันดับ 2 ด้วยการ ส่ง ทีมงานการศึกษาของพรรคชาติไทยไปรับรางวัล การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 ปลายปี 2540 และ ต้นปี 2541
2) ปี 2540 UNESCO มอบรับรางวัลการจัดบริการการศึกษาเป็นเลิศ
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000114483
3) ปี 2541 UNESCO มอบ รางวัลการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารการศึกษา และ บริการการศึกษา
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000141834
คณะทำงานด้านการศึกษาของพรรคชาติไทย เบอร์ 3 และ 4 จากรูปด้านล่าง ไปรับรางวัล ตาลิ้งค์ ด้านบน ประเทศ KUMEE จริงๆ คอรัปชั่น จนกระทั่งรางวัลด้าน การศึกษา
ปี 2542 กระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบโดยศัตรูทางการเมือง เนื่องจาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการยุบสภาปี 2539
การถูกฉก รางวัล UNESCO ด้านการศึกษา 2 รางวัล ถือเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเทียบกับการแก้ไข ปัญหา ผู้ปกครองยากจน และ การคมนาคมไม่สะดวก ด้วยการเปลี่ยนระบบการจัดบริการการศึกษา ด้วยกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญด้านการศึกษา 2542 หรือหายนะที่ 1 ของระบบการศึกษาของประเทศไทย
ปี 2542
ที่มา http://www.educationnews.in.th/26688.html
15 ปี ปฏิรูปการศึกษาไทย
เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน tulacom@gmail.com
ผ่านมาวันนี้ย่างเข้าสู่เดือนกันยายน 2556 หากนับเอาเดือน สิงหาคม ปี 2542 เป็นวันที่บรรดานักปฏิรูปการศึกษายุคนั้น ประกาศถึงความสำเร็จและภาคภูมิใจที่สามารถผลักดันให้เกิดกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ ก่อเกิดคุณอนันต์แก่ประเทศชาติเป็นล้นพ้น อันส่งผลต่อคุณภาพของคนไทยในอนาคต ผ่านมา 15 ปีพอดี
จากคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกขานกันว่า 9 อรหันต์การศึกษาในสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา ส่วนใหญ่หัวนอกและไม่ยอมฟังเสียงท้วงติงของคนศธ. มั่นใจว่าการปรับโครงสร้างและการ กระจายอำนาจจัดการศึกษา การจัดการเรียนรู้ที่ถือผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และการพัฒนาวิชาชีพครู ตามแนวคิดของตนนั้นถูกต้อง
นับแต่นั้นมา ศธ.จากที่เคยมีโครงสร้าง 14 กรม ยุบรวมเหลือ 5 องค์กรหลัก คือ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ .) และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.)
กระนั้นก็ดียังมีเรื่องที่โต้แย้งและถกเถียงในความเห็นไม่เพียงเรื่องการพัฒนาวิชาชีพครู และเขตพื้นที่การศึกษาจะลงตัวที่จำนวนเท่าไร ตามมาด้วยการศึกษาที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หรือ ไชลด์เซ็นเตอร์
ปี 2545 ควายเซ็นเตอร์
จากวลีเด็ดของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ทำเอาคำขวัญวันเด็กของนายกรัฐมนตรี ปี 2545 แทบตกพื้นที่ข่าว คือ การวิจารณ์ถึงวิธีการจัดการเรียนการสอนไชลด์เซ็นเตอร์ของคุณครู มีสภาพไม่ต่างไปจาก ควายเซ็นเตอร์ เนื่องจากครูไม่เข้าใจและยังไม่มีแหล่งเรียนรู้นอกห้องพอที่จะทำให้เข้าถึงการเรียนรู้ด้วยตนเองได้
ปี 2549
ผ่านไป 7 ปีตรงกับ 23 ส.ค. 2549 สมศ.เปิดผลการออกประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบแรก พ.ศ. 2544-2548 จำนวน 30,010แห่ง ไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำถึง 20,000 แห่ง และอยู่ขั้นโคม่าหรือ ICU กว่า 15,000 แห่ง
เดือนสิงหาคมที่เพิ่งจะผ่านมาครบ 15 ปี อยากให้ลองทบทวนกันว่า นับแต่ประกาศใช้ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เปลี่ยนรมว.ศธ.และรัฐมนตรีช่วยมาแล้วเท่าใด น่าจะเป็นสถิติสูงสุดในโลก
กระทรวงศึกษาธิการภายใต้การนำของพรรคชาติไทย ตั้งแต่ ร่วมมือกับ นักการศึกษา ฉกรางวัล ซึ่งควรเป็นของเราไป ตั้งแต่ปลายปี 2540 กรรมเวร เดังไปตกใส่ เด็ก ในระบบการศึกษา รวมทั้งครูและบุคคลกรทางการศึกษา ซึ่งต้องลำบากกับ คุณภาพการศึกษาไทย ซึ่งตกต่ำต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2000
อ้างอิง
คำอภิปราย คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล มกราคม 2567
พฤศจิกายน 2567 พรรค ประชาชน
H.E.Mr.SUKAVICH RANGSITPOL : DEPUTY PRIME MINISTER AND MINISTER OF EDUCATION
เพราะกระทรวงศึกษาธิการ ไม่สามารถ จัดบริการ การศึกษา ให้คนไทย ทุกคน ตั้งแต่สมัยรัชกาลพระพุทธเจ้าหลวง ทั้งที่โลกเปลี่ยนแปลง และ ประชาชนต้องได้รับการศึกษา เพราะ ศตวรรษที่ 20 เป็นศตวรรษแรก ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ว่า การเรียนรู้ในครอบครัวเพื่อนหาเลี้ยงชีพ ไม่เพียงพอ
ห้วงเวลา 34 ปี จากปี 2504 ถึง 2538 พื้นที่ป่าไม้หายไป จากประเทศไทย 88.84 ล้านไร่ เพราะคนจนผู้ไม่ได้รับบริการการศึกษา จะตัดไม้ทำลายป่ากันอย่างเอิกเกริกทั่วประเทศ แต่ยังคงยากจน เพราะโลกเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 หรือ ต้นศตวรรษที่ 20
❝ เด็กไทยนับหมื่นคนยังอดหยากและเสียชีวิต ❞ ❛ คุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ❜ นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของ ประเทศไทย
ประกาศความจริงนี้ ให้ชาวโลกรับรู้ บนเวที ประกวดนางงามจักรวาลเมื่อปี 2531
ปี 2535 พฤษภาทมิฬ
ปี 2536 กระทรวงศึกษาธิการ คาดว่า ไม่สามารถ จัดบริการ การศึกษา ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ให้คนไทย ทุกคน ในปี 2550
คามเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ ปี 2530 ได้ ตามเหตุผลต่อไปนี้
ปี 2537 สถานการณ์ เด็กไทย
เนื่องจากการจัดบริการการศึกษา ให้คนไทยทุกคน ตั้งแต่อนุบาล ถึงมัธยมศึกษา ตอนปลาย หรือ อาชีวศึกษา โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ถูกคัดค้าน จากหลายๆ
ฝ่าย
จากข้อมูลด้านบน นักการเมือง และ นักการศึกษา เรียกการปฏิรูปการศึกษา ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล หรือ การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 ว่า
❝ การปฏิรูปการศึกษา ของ คน คนเดียว ❞
แต่……… การอภิวัฒน์การศึกษาไทยตามคู่มือ ต้องอาศัย ความร่วมมือ ของประชาชน ทุกสาขาอาชีพ ทั่วท้องถิ่นไทย ร่วมกับ บุคลากรทางการศึกษา จึงจะ
สำเร็จเป็นรูปธรรมได้
คู่มือการอภ้วัฒน์การศึกษาไทย หรือ แผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุค โลกาภิวัตน์ ปี 2538: เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษ ที่ 21
จึงจำเป็นต้องขอมติ คณะรัฐมนตรี ในการแก้ไข แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบัน ที่ 7
1) 1996 "During his trip to the Philippines, H.E. Mr. Sukavich Rangsitpol was conferred an Honorary Degree of Doctor of Education by the Philippine Normal University. His will to reform education and strong leadership in educational management were highly commended."
https://web.archive.org/web/20220904100222/https://www.seameo.org/vl/library/dlwelcome/photogallery/president/sukavich.htm
ถูกปลดกลางอากาศ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี ต้มยำกุ้ง ตาร้อน ทั้งที่โยนเผือกร้อน กระทรวงศึกษาธิการ ใส่หน้า
เนื่องจาก ตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนมาใช้ระบบการศึกษาสากล ในรัชกาลสมเด็จ พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5
รัฐไทยจัดบริการการศึกษา เท่าเทียม ทุกคน ทั่วถึง ทั่วไทย ไม่สำเร็จ เป็นระยะเวลา 100 ปี ตั้งแต่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในที่สุดสำเร็จ ด้วยการใช้แผน
พัฒนาเศรษฐกิจแลพสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 โดยคน พัฒนาคน เพื่อคน
การอภิวัฒน์การศึกษาไทย ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ด้วย
แผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัตน์2538 : เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21
จึงเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในรอบ 100 ปี
อ่านเอกสารอ้างอิง เพิ่มเติมที่
รางวัลการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538
UNESCO มอบรางวัล การบริหารการศึกษาเป็นเลิศ ให้ประเทศไทย ปี 2540 และ
การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาใช้ในการจัดบริการการศึกษา ปี 2541
พรรคชาติไทยซึ่งครองกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั่น มีความเจ็บแค้น จนกระทั่งล้มรัฐบาลต้มยำกุ้งได้สำเร็จใน 11 เดือน อายุสั้นกว่า
รัฐบาลนายกรัฐมนตรีบรรหาร 2 เดือน
2) ปี 2540 UNESCO มอบรับรางวัลการจัดบริการการศึกษาเป็นเลิศ
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000114483
3) ปี 2541 UNESCO มอบ รางวัลการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารการศึกษา และ บริการการศึกษา
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000141834
คณะทำงานด้านการศึกษาของพรรคชาติไทย เบอร์ 3 และ 4 จากรูปด้านล่าง ไปรับรางวัล ตาลิ้งค์ ด้านบน ประเทศ KUMEE จริงๆ คอรัปชั่น จนกระทั่งรางวัลด้าน การศึกษา
ปี 2542 กระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบโดยศัตรูทางการเมือง เนื่องจาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการยุบสภาปี 2539
การถูกฉก รางวัล UNESCO ด้านการศึกษา 2 รางวัล ถือเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเทียบกับการแก้ไข ปัญหา ผู้ปกครองยากจน และ การคมนาคมไม่สะดวก ด้วยการเปลี่ยนระบบการจัดบริการการศึกษา ด้วยกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญด้านการศึกษา 2542 หรือหายนะที่ 1 ของระบบการศึกษาของประเทศไทย
ปี 2542
ที่มา http://www.educationnews.in.th/26688.html
15 ปี ปฏิรูปการศึกษาไทย
เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน tulacom@gmail.com
ผ่านมาวันนี้ย่างเข้าสู่เดือนกันยายน 2556 หากนับเอาเดือน สิงหาคม ปี 2542 เป็นวันที่บรรดานักปฏิรูปการศึกษายุคนั้น ประกาศถึงความสำเร็จและภาคภูมิใจที่สามารถผลักดันให้เกิดกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ ก่อเกิดคุณอนันต์แก่ประเทศชาติเป็นล้นพ้น อันส่งผลต่อคุณภาพของคนไทยในอนาคต ผ่านมา 15 ปีพอดี
จากคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกขานกันว่า 9 อรหันต์การศึกษาในสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา ส่วนใหญ่หัวนอกและไม่ยอมฟังเสียงท้วงติงของคนศธ. มั่นใจว่าการปรับโครงสร้างและการ กระจายอำนาจจัดการศึกษา การจัดการเรียนรู้ที่ถือผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และการพัฒนาวิชาชีพครู ตามแนวคิดของตนนั้นถูกต้อง
นับแต่นั้นมา ศธ.จากที่เคยมีโครงสร้าง 14 กรม ยุบรวมเหลือ 5 องค์กรหลัก คือ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ .) และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.)
กระนั้นก็ดียังมีเรื่องที่โต้แย้งและถกเถียงในความเห็นไม่เพียงเรื่องการพัฒนาวิชาชีพครู และเขตพื้นที่การศึกษาจะลงตัวที่จำนวนเท่าไร ตามมาด้วยการศึกษาที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หรือ ไชลด์เซ็นเตอร์
ปี 2545 ควายเซ็นเตอร์
จากวลีเด็ดของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ทำเอาคำขวัญวันเด็กของนายกรัฐมนตรี ปี 2545 แทบตกพื้นที่ข่าว คือ การวิจารณ์ถึงวิธีการจัดการเรียนการสอนไชลด์เซ็นเตอร์ของคุณครู มีสภาพไม่ต่างไปจาก ควายเซ็นเตอร์ เนื่องจากครูไม่เข้าใจและยังไม่มีแหล่งเรียนรู้นอกห้องพอที่จะทำให้เข้าถึงการเรียนรู้ด้วยตนเองได้
ปี 2549
ผ่านไป 7 ปีตรงกับ 23 ส.ค. 2549 สมศ.เปิดผลการออกประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบแรก พ.ศ. 2544-2548 จำนวน 30,010แห่ง ไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำถึง 20,000 แห่ง และอยู่ขั้นโคม่าหรือ ICU กว่า 15,000 แห่ง
เดือนสิงหาคมที่เพิ่งจะผ่านมาครบ 15 ปี อยากให้ลองทบทวนกันว่า นับแต่ประกาศใช้ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เปลี่ยนรมว.ศธ.และรัฐมนตรีช่วยมาแล้วเท่าใด น่าจะเป็นสถิติสูงสุดในโลก
กระทรวงศึกษาธิการภายใต้การนำของพรรคชาติไทย ตั้งแต่ ร่วมมือกับ นักการศึกษา ฉกรางวัล ซึ่งควรเป็นของเราไป ตั้งแต่ปลายปี 2540 กรรมเวร เดังไปตกใส่ เด็ก ในระบบการศึกษา รวมทั้งครูและบุคคลกรทางการศึกษา ซึ่งต้องลำบากกับ คุณภาพการศึกษาไทย ซึ่งตกต่ำต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2000
อ้างอิง คำอภิปราย คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล มกราคม 2567
พฤศจิกายน 2567 พรรค ประชาชน