ตลาดผันผวน เทรดยาก ทำไงดี?

หลังจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ สิ้นสุด แต่ความผันผวนในตลาดไม่สิ้นสุด แต่ก็มีข้อดีสำหรับสาย Day trading เพราะสามารถหาโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น ดังนั้น วันนี้เราจะพูดคุยเกี่ยวกับ Day trading หรือ การเทรดระหว่างวัน จะมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากอะไร?

1. เลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสม
ขั้นตอนแรกในการเทรดระหว่างวัน คือ การเลือกช่วงเวลาที่ให้เหมาะสม ควรเลือกกรอบเวลาที่ระยะเวลาตั้งแต่ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพราะถ้าใช้กรอบเวลานานเกินไป เช่น 4 ชั่วโมงขึ้นไป อินดิเคเตอร์อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

2. การซื้อขายในช่วงกรอบราคา (Range Trading)
ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การซื้อขายระหว่างฝ่ายซื้อและฝ่ายขายจะมีความรุนแรงมาก ราคามักจะเคลื่อนไหววนอยู่ในช่วงกรอบราคาค่อนข้างบ่อย

ยกตัวอย่าง หากใคร อินดิเคเตอร์ที่แสดงการกระจายคำสั่งซื้อขายในตลาด คุณจะเห็นได้ว่าตลาดมักจะเคลื่อนไหวแบบ Sideways หรือเคลื่อนไหวไปมาในช่วงกรอบราคา บางครั้งช่วงที่ราคายังคงเคลื่อนไหวภายในกรอบราคา มักจะเกิดขึ้นบ่อยกว่า ช่วงที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ดังนั้น หากคุณเทรดระหว่างวัน การซื้อขายในกรอบราคาจะช่วยให้คุณทำกำไรจากการขายที่ราคาสูงและซื้อคืนที่ราคาต่ำได้หลายครั้ง พร้อมกับมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการเทรดที่เน้นการทะลุแนวรับหรือแนวต้าน

แต่ก็ใช้ว่าจะมีแต่ข้อดีอย่างเดียว ข้อควรระวัง การเทรดในกรอบราคามักจะเป็นการเทรดระยะสั้น ดังนั้น ควรตั้งจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุนไว้อย่างมีแบบแผน นอกจากนี้ หากคุณเปิดและปิดคำสั่งหลายครั้งในวันเดียว ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ โดยเฉพาะโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำ

3. เลือกช่วงเวลาซื้อขายให้เหมาะสมกับช่วงเวลาเปิดตลาดเอเชีย, ตลาดยุโรป, และตลาดอเมริกา
โดยทั่วไปแล้ว การซื้อขายในช่วงตลาดเปิดจะมีปริมาณการซื้อขายสูงสุด ซึ่งทำให้ตลาดเกิดความผันผวนมากขึ้น ดังนั้น ควรติดตามช่วงเวลาการเปิดตลาดสำคัญๆ :

- ตลาดเอเชีย: 8:00-9:30 น.
- ตลาดยุโรป: 15:00-17:00 น.
- ตลาดอเมริกา: 20:30-21:30 น.

ในแต่ละตลาด ปริมาณการเทรดจะแตกต่างกันไป ตลาดเอเชียมักมีการซื้อขายน้อยกว่าตลาดยุโรปและตลาดอเมริกา โดยเฉพาะในช่วงท้ายของตลาดยุโรปและช่วงเปิดตลาดอเมริกา ปริมาณการซื้อขายจะสูงที่สุดในวันนั้น (โดยเฉพาะระหว่าง 20:30-22:00 น.) นอกจากนี้ ช่วงใกล้ปิดตลาดอเมริกา (ประมาณ 2:00-4:00 น.) ก็อาจมีความผันผวนได้ เช่นกัน

สิ่งที่ต้องระวังคือ สภาพคล่องของตลาด:
- ตลาดเอเชียอาจมีสภาพคล่องต่ำ
- ช่วงเปิดตลาดอเมริกาอาจเกิดการขาดสภาพคล่องได้ เพราะนักลงทุนจากทั่วโลกจะเริ่มซื้อขายพร้อมกัน

ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องดีจึงสำคัญ ผมแนะนำให้ใช้ โบรกเกอร์ EBC ที่เชื่อมต่อกับสภาพคล่องจากสถาบันการเงินชั้นนำกว่า 36 แห่ง เช่น JPMorgan, UBS, และ Citibank ซึ่งช่วยให้สามารถเสนอราคาที่มีความลึกถึง 5 ระดับ แม้ในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องจำกัด ก็ยังสามารถเสนอราคาที่ดีกว่าตลาดทั่วไปได้

4. เลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความนิยมสูงที่สุด
ในตลาด Forex ความนิยมของสินค้าหรือคู่เงินต่างๆ จะมีผลต่อสภาพคล่องในช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งสภาพคล่องที่สูงจะช่วยให้การซื้อขายทำได้สะดวกขึ้น หากสินค้าหรือคู่เงินที่คุณเลือกได้รับความนิยมสูง จะสามารถทำการเทรดได้อย่างมั่นใจและราคาที่ต้องการได้ง่าย แต่หากสินค้าหรือคู่เงินนั้น มีความนิยมลดลง สภาพคล่องอาจน้อยลง ทำให้การเข้าหรือออกตลาดอาจยากขึ้น และเสี่ยงกับปัญหาสลิปเพจ (Slippage) ที่ราคาต่างจากที่คาดไว้

5. ให้ความสำคัญกับสัญญาณ
Day Trading ไม่ได้หมายถึง การซื้อขายแบบสุ่มหรือการเทรดถี่ๆ โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน สิ่งสำคัญคือ การมองหาสัญญาณที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือก่อนที่จะตัดสินใจเข้าเทรด และควรหลีกเลี่ยงการซื้อขายตามอารมณ์หรือการตัดสินใจไร้แบบแผน

หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการเทรดแบบ Day Trading ควรเลือกกรอบเวลาให้ดี, ให้ความสำคัญกับสัญญาณ, จับจังหวะการเทรดให้ดี, และตั้งจุด ST อย่างมีระเบียบ เพียงเท่านี้ ก็จะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่