สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นภาคต่อมาจากเรื่องราวเมื่อเดือนก่อนที่ผมแอบไปชอบนัองพนักงานแคชเชียร์ร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่1ปึโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ตามนี้
https://m.ppantip.com/topic/43013144?sc=ae7w16Q
หลังจากที่ผมรับฟังความคิดเห็นพี่น้องทุกท่านซึ่งมีหลากหลายแง่มุม ผมก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักใหญ่จะลองวัดดวงซักทีดีมั้ย แล้วสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจได้คือ ผมไปเห็นว่า New one มีพฤติกรรมชอบทำสกินชิพกับพนักงานหญิงในร้านไปเรื่อย วันไหนที่น้องเค้าหยุดงาน หมอนี่มันก็ไปหยอกเด็กคนอื่นในรัานแทน เลยทำให้ผมไม่ลังเลที่จะแย่งมั่งแล้วคับ จะโดนว่าเป็นมือที่3ก็ช่าง ในเมื่ออีกฝายมันเล่นไม่ซื่อนี่หว่า
หลังจากวันนั้น ผมก็เริ่มเดินเกมไปหาน้องให้บ่อยขึ้น สร้างตัวตนจากระยะไกลจนน้องเค้าเริ่มจำดีเทลผมได้แล้วว่าถ้าผมชอบสั่งเมนูไหน ชอบให้ใส่อะไรไม่ใส่อะไรบ้าง แรกๆน้องเค้ายังมีทวนถามว่าเมนูนี้ไม่รับโน่นนี่นั่นใช่มั้ย หลังจากนั้นครั้งต่อไปน้องเค้าก็จัดพิเศษให้เลยไม่มีถาม ช่วงที่ไปใช้บริการผมก็มีแสดงน้ำใจให้น้องเค้าเป็นระยะตามโอกาส เช่น ช่วยยกน้ำ ยกจานเองบ้าง เป็นแบบนี้อยู่ร่วมเดือน
แล้ววันนึงก็เหมือนพระเจ้าจะเข้าข้าง ให้ผมไปจ๊ะเอ๋กับน้องเค้าตรงทางลงบันไดเลื่อนของห้าง น้องเค้าก็ยิ้มให้ ผมก็รวบรวมความกล้าเดินตามไปทักทายน้องเค้าระหว่างลงบันได กะว่าถ้าน้องเค้าแค่ตอบคำ2คำพอเป็นมารยาท เราก็แยกย้ายตรงสุดบันไดนั่นแหละ แต่ปรากฏน้องเค้าชวนคุยอ่ะ ถามผมบ้านอยู่แถวไหน มาที่นี่บ่อยจัง พักแถวนี้เหรอ โหวว ตอนนั้นผมใจฟูมาก สถานะการณ์เกินคาดหวังไปเยอะคับ แล้วเรา2คนก็เดินคุยกันไปจนไปส่งน้องถึงที่ร้านค่อยแยกย้าย ผมแอบสังเกตช่วงนั้นมือน้องเอาแต่จับเขี่ยเส้นผมตลอด แล้วไม่กล้าสบตาด้วย ผมอยากจะคิดไปเองว่านี่ทันอาการเขินใช่มั้ย 😆
แต่มันไม่จบครับ พอเลิกงานผมจะเดินกลับบ้านดันไปเจอน้องยืนอยู่แถวป้ายรถเมล์กำลังซื้อลูกชิ้นทอดอยู่ ผมก็รวบรวมความกล้าอีกทีเดินเข้าไปซื้อด้วย ก็ได้คุยต่ออีกพักนึง ก็รู้ว่าน้องยังไม่ได้ทานข้าวเย็น แต่จะซื้อลูกชิ้นทอดมันกลับไปทานที่บ้าน นาทีนั้นผมเริ่มเห็นใจเค้าขึ่นมาเลย ในขณะที่เค้าต้องยืนทำงานเสิร์ฟอาหารให้เรา น้องเค้าต้องหิ้วท้องดูลูกค้าทานเอร่ดอร่อย แล้วรอไปซื้อลูกชิ้นทอดกินตอนเลิกงานงี้เหรอ
วันรุ่งขึ้น ผมเลยซื้อสลัดผักผลไม้จากร้านขาประจำที่ผมมั่นใจว่าอร่อยมากและทำสดสะอาดไปฝากน้องเค้า อยากให้น้องเค้าได้ทานรองท้องได้สารอาหารวิตามินบ้างไรบ้าง ตอนผมส่งให้เค้า คราวนี้น้องดูเขินหนักเลยคับ ยืนตัวบิด มือไม้ไปไมถูกเลย ถึงจุดนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วคับว่าน้องเค้าคงมีใจให้ผมบ้างแหละ
ผมตัดสินใจว่าคราวหน้าผมจะลองชวนเธอกลับบ้านด้วยกัน ไม่งั้นก็คงไม่รู้จะหาโอกาสตอนไหนทำความรู้จักกันมากกว่านี้แล้ว แต่พอผมถามเธอไปแล้วปรากฏว่า...
เกมพลิกสิคับ!!!!! 😭
น้องเค้าตอบมาว่า "ไม่เป็นไรค่ะ มีเพื่อนกลับด้วย" แล้วก็เดินหนีผมไปเลย ผมนี่สตันท์ไปเลยคับ สรุปนี่เราเข้าใจผิดไปเองเหรอวะ แล้วโมเม้นที่เราสัมผัสได้ก่อนหน้านี้มันคืออะไรกัน ?😅
เหตการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวาน้องคับ ผมกลับบ้านมาคิดวนตลอดจนนอนไม่หลับเลยคับ เราทำอะไรพลาดไปหรือ เราก็สุภาพกับน้องเค้านะ ไม่ได้รุกหรือตามตื๊อจนน้องรำคาญเลย แต่คำถามประโยคเดียวเกมเปลี่ยนทันที ตอนนี้น้องเค้าคงรู้แล้วว่าผมจีบน้องแน่ๆ แล้วต่อไปผมจะมีหน้ากลับไปทานข้าว ไปพูดคุยกับน้องเค้าได้ปรกติอีกเหรอ
คือก่อนจะตัดสินใจชวนน้องกลับด้วยกัน ผมก็มีเผื่อใจไว้แล้วว่าคำตอบอาจออกได้ทั้ง2ทาง ซึ่งหากน้องเค้า say No แปลว่า ผมคงต้องยอมรับสภาพแล้วว่าน้องเค้าไม่เล่นด้วย แต่พอมันเกิดขึ้นจริงผมกลับทำใจไม่ทันซะงั้น วันนี้มาทำงานในสภาพอดนอนทั้งคืน เวลาพักเที่ยง เลิกงาน แทนที่จะได้แวะไปทานข้าวเจอหน้าพูดคุยกับน้องเค้ามันไม่มีอีกแล้ว อย่างท้อครับ
ตอนนี้ไม่รู้จะไปไงต่อ ควรลืมน้องเค้าซะแล้วถอยออกมา หรือจะเนียนทำเป็นเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นแล้วไปเป็นลูกค้าเหมือนเดิมซึ่งอาจคุยได้ไม่สนิทใจอีกแล้ว กลุ้มครับ
ไปต่อหรือพอแค่นี้? บทสรุปจีบสาวแคชเชียร์ร้านอาหารจากเดือนที่แล้ว
หลังจากที่ผมรับฟังความคิดเห็นพี่น้องทุกท่านซึ่งมีหลากหลายแง่มุม ผมก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักใหญ่จะลองวัดดวงซักทีดีมั้ย แล้วสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจได้คือ ผมไปเห็นว่า New one มีพฤติกรรมชอบทำสกินชิพกับพนักงานหญิงในร้านไปเรื่อย วันไหนที่น้องเค้าหยุดงาน หมอนี่มันก็ไปหยอกเด็กคนอื่นในรัานแทน เลยทำให้ผมไม่ลังเลที่จะแย่งมั่งแล้วคับ จะโดนว่าเป็นมือที่3ก็ช่าง ในเมื่ออีกฝายมันเล่นไม่ซื่อนี่หว่า
หลังจากวันนั้น ผมก็เริ่มเดินเกมไปหาน้องให้บ่อยขึ้น สร้างตัวตนจากระยะไกลจนน้องเค้าเริ่มจำดีเทลผมได้แล้วว่าถ้าผมชอบสั่งเมนูไหน ชอบให้ใส่อะไรไม่ใส่อะไรบ้าง แรกๆน้องเค้ายังมีทวนถามว่าเมนูนี้ไม่รับโน่นนี่นั่นใช่มั้ย หลังจากนั้นครั้งต่อไปน้องเค้าก็จัดพิเศษให้เลยไม่มีถาม ช่วงที่ไปใช้บริการผมก็มีแสดงน้ำใจให้น้องเค้าเป็นระยะตามโอกาส เช่น ช่วยยกน้ำ ยกจานเองบ้าง เป็นแบบนี้อยู่ร่วมเดือน
แล้ววันนึงก็เหมือนพระเจ้าจะเข้าข้าง ให้ผมไปจ๊ะเอ๋กับน้องเค้าตรงทางลงบันไดเลื่อนของห้าง น้องเค้าก็ยิ้มให้ ผมก็รวบรวมความกล้าเดินตามไปทักทายน้องเค้าระหว่างลงบันได กะว่าถ้าน้องเค้าแค่ตอบคำ2คำพอเป็นมารยาท เราก็แยกย้ายตรงสุดบันไดนั่นแหละ แต่ปรากฏน้องเค้าชวนคุยอ่ะ ถามผมบ้านอยู่แถวไหน มาที่นี่บ่อยจัง พักแถวนี้เหรอ โหวว ตอนนั้นผมใจฟูมาก สถานะการณ์เกินคาดหวังไปเยอะคับ แล้วเรา2คนก็เดินคุยกันไปจนไปส่งน้องถึงที่ร้านค่อยแยกย้าย ผมแอบสังเกตช่วงนั้นมือน้องเอาแต่จับเขี่ยเส้นผมตลอด แล้วไม่กล้าสบตาด้วย ผมอยากจะคิดไปเองว่านี่ทันอาการเขินใช่มั้ย 😆
แต่มันไม่จบครับ พอเลิกงานผมจะเดินกลับบ้านดันไปเจอน้องยืนอยู่แถวป้ายรถเมล์กำลังซื้อลูกชิ้นทอดอยู่ ผมก็รวบรวมความกล้าอีกทีเดินเข้าไปซื้อด้วย ก็ได้คุยต่ออีกพักนึง ก็รู้ว่าน้องยังไม่ได้ทานข้าวเย็น แต่จะซื้อลูกชิ้นทอดมันกลับไปทานที่บ้าน นาทีนั้นผมเริ่มเห็นใจเค้าขึ่นมาเลย ในขณะที่เค้าต้องยืนทำงานเสิร์ฟอาหารให้เรา น้องเค้าต้องหิ้วท้องดูลูกค้าทานเอร่ดอร่อย แล้วรอไปซื้อลูกชิ้นทอดกินตอนเลิกงานงี้เหรอ
วันรุ่งขึ้น ผมเลยซื้อสลัดผักผลไม้จากร้านขาประจำที่ผมมั่นใจว่าอร่อยมากและทำสดสะอาดไปฝากน้องเค้า อยากให้น้องเค้าได้ทานรองท้องได้สารอาหารวิตามินบ้างไรบ้าง ตอนผมส่งให้เค้า คราวนี้น้องดูเขินหนักเลยคับ ยืนตัวบิด มือไม้ไปไมถูกเลย ถึงจุดนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วคับว่าน้องเค้าคงมีใจให้ผมบ้างแหละ
ผมตัดสินใจว่าคราวหน้าผมจะลองชวนเธอกลับบ้านด้วยกัน ไม่งั้นก็คงไม่รู้จะหาโอกาสตอนไหนทำความรู้จักกันมากกว่านี้แล้ว แต่พอผมถามเธอไปแล้วปรากฏว่า...
เกมพลิกสิคับ!!!!! 😭
น้องเค้าตอบมาว่า "ไม่เป็นไรค่ะ มีเพื่อนกลับด้วย" แล้วก็เดินหนีผมไปเลย ผมนี่สตันท์ไปเลยคับ สรุปนี่เราเข้าใจผิดไปเองเหรอวะ แล้วโมเม้นที่เราสัมผัสได้ก่อนหน้านี้มันคืออะไรกัน ?😅
เหตการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวาน้องคับ ผมกลับบ้านมาคิดวนตลอดจนนอนไม่หลับเลยคับ เราทำอะไรพลาดไปหรือ เราก็สุภาพกับน้องเค้านะ ไม่ได้รุกหรือตามตื๊อจนน้องรำคาญเลย แต่คำถามประโยคเดียวเกมเปลี่ยนทันที ตอนนี้น้องเค้าคงรู้แล้วว่าผมจีบน้องแน่ๆ แล้วต่อไปผมจะมีหน้ากลับไปทานข้าว ไปพูดคุยกับน้องเค้าได้ปรกติอีกเหรอ
คือก่อนจะตัดสินใจชวนน้องกลับด้วยกัน ผมก็มีเผื่อใจไว้แล้วว่าคำตอบอาจออกได้ทั้ง2ทาง ซึ่งหากน้องเค้า say No แปลว่า ผมคงต้องยอมรับสภาพแล้วว่าน้องเค้าไม่เล่นด้วย แต่พอมันเกิดขึ้นจริงผมกลับทำใจไม่ทันซะงั้น วันนี้มาทำงานในสภาพอดนอนทั้งคืน เวลาพักเที่ยง เลิกงาน แทนที่จะได้แวะไปทานข้าวเจอหน้าพูดคุยกับน้องเค้ามันไม่มีอีกแล้ว อย่างท้อครับ
ตอนนี้ไม่รู้จะไปไงต่อ ควรลืมน้องเค้าซะแล้วถอยออกมา หรือจะเนียนทำเป็นเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นแล้วไปเป็นลูกค้าเหมือนเดิมซึ่งอาจคุยได้ไม่สนิทใจอีกแล้ว กลุ้มครับ