DNA คนตายใน Pompei มีเรื่องที่น่าแปลกใจ

.

.
ผู้ใหญ่สองคนและเด็กสองคนที่เสียชีวิต
ในบ้านสร้อยข้อมือทองคำ ในปอมเปอี
การวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ครั้งใหม่แสดงให้เห็นว่า
คนทั้งสี่คนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ทางพันธุกรรมกันแต่อย่างใด
© Archeological Park of Pompeii
.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
Where Did the Pompeii Survivors Go?
.
.

การวิเคราะห์ DNA โบราณของ
เหยื่อในปอมเปอีที่เสียชีวิต
จากการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียส
เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ
ระหว่างผู้คนที่เสียชีวิตพร้อม ๆ กัน
และสภาพศพที่อยู่ใกล้ชิด/ใกล้เคียงกัน

DNA โบราณที่เก็บจากเหยื่อปอมเปอี
จากการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียส
เมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อนเผยให้เห็นว่า
ความสัมพันธ์ของผู้คนบางคน
ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น/อย่างที่คิด
จากการศึกษาวิจัยครั้งใหม่
 
ตัวอย่างเช่น 
ผู้ใหญ่ที่สวมสร้อยข้อมือทองคำ
และอุ้มเด็กไว้บนตัก 
เคยถูกมองว่าเป็นแม่กับลูกของเธอ

แต่การวิเคราะห์ DNA ใหม่เผยให้เห็นว่า
ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งคู่เป็น
ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และเด็ก
ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางพันธุกรรม

ในอีกตัวอย่างหนึ่ง 
คู่รักที่เสียชีวิตขณะกอดกันและ 
คาดว่าเป็นพี่น้องกันหรือแม่กับลูกสาว
พบว่ามีผู้ชายเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม
กับคนอื่นอย่างน้อยเพียงแค่หนึ่งคน
แต่กับอีกคนไม่ทราบเพศ

“ การค้นพบเหล่านี้ท้าทายสมมติฐาน
เรื่องเพศและครอบครัวแบบดั้งเดิม "
David Reich  ศาสตราจารย์ด้านพันธุศาสตร์
Harvard Medical School
ผู้ร่วมเขียนการศึกษากล่าว
 .
.

.

ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร 
Current Biology
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024
David Reich กับทีมนักวิจัยนานาชาติ
ได้ศึกษาพันธุกรรมของคน 5 คน
ที่ตายระหว่างภูเขาไฟปะทุในปี ค.ศ. 79
ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 2,000 คน
.
.

.
.


เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียส ปะทุขึ้นมา
พื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมด้วยชั้น
เถ้าภูเขาไฟ หินภูเขาไฟ และลาวาภูเขาไฟ
อันตรายถึงชีวิตกับผู้คนหลายพันคน
ฝังผู้คนให้มีชีวิตอยู่และรักษารูปร่าง
ของร่างกายจำนวนมากไว้ใต้ชั้นเถ้าหินปูน

ในช่วงปี ค.ศ.1700
ซากเมืองปอมเปอีถูกค้นพบอีกครั้ง
ในศตวรรษต่อมา
นักโบราณคดีชาวอิตาลี
Giuseppe Fiorelli
ได้พัฒนาเทคนิคแบบพิมพ์ปูนปาสเตอร์
จนสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
โดยได้จำลองรูปร่าง/ท่าทางคนตาย
หลังจากร่างกายได้สลายตัวไปแล้ว
เพื่อสร้างแบบจำลองของเหยื่อขึ้นมาใหม่
.
.

.
Giuseppe Fiorelli
.

.
.
.

การทำแบบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์

ชาวเมืองปอมเปอีส่วนใหญ่เสียชีวิต
จากแก๊สพิษจากภูเขาไฟวีสุเวียส
ร่างของพวกเขาถูกฝังอยู่ใต้ขี้เถ้า
เถ้าถ่านร้อนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

ในปี ค.ศ. 1870
นักโบราณคดี จูเซปเป ฟิโอเรลลี
ได้คิดค้นเทคนิคการเทปูนปลาสเตอร์เหลว
ลงในช่องว่างที่เกิดจากการเน่าสลายของศพ
เพื่อทำแบบจำลองของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
เมื่อปูนปลาสเตอร์แข็งตัว
ดินโดยรอบถูก ๆ ขุดออก
และแบบพิมพ์ก็ถูกนำขึ้นมา

ในปอมเปอีเทคนิคนี้ถูกใช้
เพื่อสร้างแบบจำลองจำนวนมากของ
ร่างมนุษย์ สัตว์ และวัตถุต่างๆ

ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ
แบบพิมพ์จากสถานที่ที่เรียกว่า ทุ่งผู้หนีภัย
ครอบครัวของบ้าน Casa del Bracciale d'oro
(บ้านสร้อยข้อมือทองคำ)
และแบบพิมพ์ของชายคนหนึ่ง
ที่พบในบ้าน Casa del Criptoportico
บ้านชนชั้นสูง/ร่ำรวย มีระเบียงบ้าน
ทางเดินภายในมีสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ
ที่ซ่อนอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วน
มีช่องเปิดว่างเพียงเล็กน้อย
และใช้สำหรับการติดต่อ/ทางเดินส่วนตัว
ซึ่งยังคงเห็นรองเท้าที่เขาสวมใส่อยู่
พร้อมตะปูเหล็กติดอยู่ที่รองเท้า
ที่พิพิธภัณฑ์ Antiquarium of Boscoreale
โดยจัดแสดงแบบพิมพ์ที่ทำจากอีพ็อกซี่เรซิ่น
ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1984
จากศพของเหยื่อคนหนึ่งที่พบในวิลล่าของ
Lucius Crassius Tertius ที่เมือง Oplontis
แบบพิมพ์โปร่งใสนี้ทำให้สามารถเห็น
เครื่องประดับ/เหรียญที่เหยื่อใช้ก่อนตาย

{รูปภาพที่แสดงให้เห็น
แบบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์
ของเหยื่อจากเหตุการณ์
ภูเขาไฟระเบิดที่ปอมเปอี
แสดงให้เห็นท่าทางสุดท้ายของผู้คน
ในขณะที่พยายามหนีภัยพิบัติ}​​​​​​​​​​
.
.

.
ผู้คนสองคนที่ตายก่อน 2,000 ปี
ในบ้าน Casa del Criptoportico
ในเมืองปอมเปอี
การวิเคราะห์ DNA ใหม่พบว่า
คนหนึ่งเป็นเพศชายทางชีววิทยา
แต่อีกคนไม่สามารถระบุเพศได้
© Archeological Park of Pompeii
.
.
.

แบบจำลองดังกล่าว
ทำให้บรรดานักวิชาการสามารถศึกษา
เหยื่อในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต 
และตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับตัวตน
ของคนตายโดยอาศัยรายละเอียด เช่น
สถานที่ ตำแหน่ง และเครื่องแต่งกาย

ปัญหาของแนวทางนี้ก็คือ
การตีความของนักวิจัยได้รับอิทธิพล
จากสมมติฐานในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น
นักวิจัยเขียนไว้ในการศึกษาว่า
คนสี่คนที่บ้านซึ่งสวมสร้อยข้อมือทองคำ
ซึ่งรวมถึงผู้ใหญ่ที่อุ้มเด็กด้วย
ล้วนเป็นพ่อแม่และลูก ๆ ของพวกเขา
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
พวกเขาไม่ได้เป็นญาติทางกรรมพันธุ์เลย

สำหรับการวิจัย ทีมวิจัยได้วิเคราะห์
ตัวอย่างกระดูก 14 ตัวอย่าง 
และสกัด DNA จากซากกระดูก
ที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ของ 5 ตัวอย่าง
ผลจากการวิเคราะห์สารพันธุกรรมนี้
นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ
ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม เพศ
และบรรพบุรุษของบุคคลเหล่านี้ได้

ทีมวิจัยสรุปว่าเหยื่อ/คนตาย มี
ภูมิหลังจีโนมที่หลากหลาย
โดยส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจาก
ผู้อพยพจากแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก
ซึ่งยืนยันถึงความเป็นจริงที่ว่า
จักรวรรดิโรมันมีเชื้อชาติหลายเชื้อชาติ
.

.คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
Who were the people of the 
Roman Empire?

.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
Diversity and Peoples of the 
Roman Empire
.
.

.
คนตายในวิลล่าแห่งความลึกลับ
ในเมืองปอมเปอีในปี ค.ศ. 79
©  Archeological Park of Pompeii
.
.


“ ผลการค้นพบของเรา
มีความหมายอย่างมากต่อการตีความ
ข้อมูลทางโบราณคดีและความเข้าใจ
เกี่ยวกับสังคมโบราณของชาวปอมเปอี

ผลการศึกษาเน้นย้ำถึงความสำคัญ
ของการบูรณาการข้อมูลทางพันธุกรรม
กับข้อมูลทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์
เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความผิด
ตามสมมติฐานสมัยใหม่
 
เป็นไปได้ว่าความเข้าใจผิดในอดีต
นำไปสู่การใช้ประโยชน์จากตัวอย่าง
เพื่อเล่าเรื่องราว ซึ่งหมายความว่า ภัณฑารักษ์
อาจบิดเบือน ท่าทางและตำแหน่งสัมพันธ์
ของเหยื่อเพื่อจัดแสดงตามทีมงานเขียนไว้
ในการศึกษาที่เป็นการแบ่งเพศที่ผิดพลาด
(รวมทั้งข้อมูลที่ผิดจากข้อเท็จจริง) "
Alissa Mittnik นักโบราณคดีพันธุศาสตร์
Harvard Medical School และ
Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology ใน Germany
ผู้ร่วมเขียนการศึกษากล่าว
.

.

" ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในเรื่องทางโบราณคดี
ที่มีการระบุเพศผิดพลาด
แน่นอนว่า เรามองอดีต
ด้วยสายตาทางวัฒนธรรมของปัจจุบัน
และมีมุมมองนี้ ก็บิดเบือนไปบ้าง


สำหรับผม การค้นพบชายคนหนึ่ง
สวมสร้อยข้อมือทองคำ
ขณะพยายามช่วยชีวิตเด็ก
ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยนั้น
เป็นเรื่องที่น่าสนใจและ
มีความซับซ้อนทางวัฒนธรรม

มากกว่าการสันนิษฐานว่า
เป็น แม่และลูกของเธอ"
Carles Lalueza-Fox
นักชีววิทยาจากสถาบันชีววิทยาวิวัฒนาการ 
CSIC-UPF ในบาร์เซโลนา 
ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา DNA โบราณ
แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้ 
กล่าวกับ Live Science ทางอีเมล
 .
.

.
.

เรียบเรียง/ที่มา

Livescience
.
.

ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับปอมเปอี

1. สาเหตุการตาย
- คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตายจากลาวาโดยตรง
แต่เสียชีวิตจากความร้อนสูงถึง 300°C
และแก๊สพิษ
- คลื่นความร้อน Pyroclastic surge
ที่พุ่งลงมาจากภูเขาไฟ ทำให้ตายแบบทันที

2. การค้นพบที่น่าทึ่ง
- แบบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์มากกว่า 1,000 ชิ้น
- บางศพถูกพบในท่าทางที่กำลังปกป้องเด็ก
แสดงให้เห็นถึง ความรักในวินาทีสุดท้าย
- พบสุนัขที่ยังคงติดโซ่ล่าม แสดงให้เห็นว่า
เจ้าของไม่มีเวลาปลดปล่อยมัน

3. วิถีชีวิตที่ถูกเก็บรักษา
- พบขนมปังที่ยังอยู่ในเตาอบ
- พบภาพวาดฝาผนัง เครื่องประดับ
และของใช้ประจำวันที่ยังสมบูรณ์
- มีร้านอาหาร Thermopolia
ร้านอาหารปรุงพร้อมกินจากเตาร้อน ๆ
ที่ยังมีภาชนะและอาหารที่กำลังจะขาย

4. เทคโนโลยีใหม่ในการศึกษา
- การสแกน CT ของแบบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์
เผยให้เห็นกระดูกและฟันภายใน
- นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษา DNA
และรูปแบบการกินอาหารของผู้คนในสมัยนั้น
- เทคโนโลยี 3D scanning ช่วยใน
การอนุรักษ์และศึกษาซากปรักหักพัง

5. ความก้าวหน้าของเมือง
- มีระบบท่อน้ำที่ซับซ้อน
- มีระบบทำความร้อนใต้พื้น
- มีโรงละคร สนามกีฬา สถานบันเทิงที่ทันสมัย

6. ผลกระทบต่อประวัติศาสตร์
- การค้นพบปอมเปอีมีอิทธิพลอย่างมาก
ต่อศิลปะและสถาปัตยกรรมในยุโรป
- เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ
ชีวิตประจำวันในยุคโรมัน
- ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก UNESCO

7. การอนุรักษ์ในปัจจุบัน
- มีโครงการ Grande Progetto Pompei
เพื่อการอนุรักษ์
- ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการป้องกัน
การเสื่อมสภาพวัตถุโบราณคดี
- มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว
เพื่อรักษาโบราณสถาน

ปอมเปอีเป็นเสมือน
แคปซูลเวลา
ที่เก็บรักษาชีวิตในยุคโรมัน
ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบย
และยังคงให้ข้อมูลใหม่ ๆ
แก่นักวิจัยจนถึงปัจจุบัน​​​​​​​​​​​​​​​​
.
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่