สวัสดีค่ะ วันนี้อยากรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆ ชาวพันทิปเพื่อประกอบการตัดสินใจสักหน่อยค่ะ
เรามีหลานสองคนที่กำลังเรียนอยู่
คนแรก ลูกพี่ชาย กำลังเรียนแพทย์ปีที่สอง
เราไม่ได้สนิทกับหลานหรือแม้แต่กับพี่ชายของเราเองเพราะครอบครัวเราแตกไปคนละทางตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิตตอนเรายังเด็กมากๆ หากันเจออีกทีตอนยายเสียชีวิต ตอนเราอายุ 17 ปี จากนั้นก็ติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ ตามแต่โอกาส
พอพี่ชายส่งข่าวว่าหลานสอบติดแพทย์เราก็ตกลงกันกับพี่สาวว่าอยากช่วยเรื่องค่าเทอมจนกว่าเขาจะเรียนจบ
เราไม่รู้ว่าเรียนแพทย์แต่ละเทอมมีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน
ค่าเทอมอยู่ที่ 28,000 เราให้คนละ 15,000 ก็ตกสามหมื่นพอดี
หลานคนที่สองเป็นลูกของน้องชาย เรียน ม. ปลายเทอมสุดท้าย เขาบอกว่าเขาอยากเรียนสาธารณะสุข เราก็รับปากว่าจะส่งเรียนจนจบ
แต่คนนี้เราจะส่งคนเดียว และคิดว่าต้องจ่ายทุกอย่างให้ ค่าเทอม ค่าหอ ค่ากินอยู่ ฯลฯ
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินเดือนละเท่าไหร่
น้องชายคนนี้โตมาด้วยกันกับเรา เราก็จะรักและห่วงเขามากกว่าคนอื่น
เราเปรียบเสมือนแม่ของเขาก็ว่าได้ เพราะตอนแม่เสียเขาเพิ่งสามสี่ขวบ เราโตมากับยายด้วยกัน
เราอยากให้หลานทั้งสองมีความรู้ มีงานที่ดีทำ จะได้สามารถหาเลี้ยงตัวเองและเผื่อแผ่ให้พ่อแม่ได้ด้วยเมื่อจำเป็น
ทั้งสองคนเป็นเด็กเรียนดี ไม่เกเร ผลการเรียนอยู่ในระดับที่ดีถึงดีมาก
ปัญหาคือ หากเราส่งหลานคนที่สองเรียนแบบไร้ลิมิต ก็จะกลายเป็นว่าเขาจะได้เยอะกว่า แล้วหลานคนแรกจะรู้สึกยังไง?
เราควรเพิ่มเงินให้หลานคนแรกอีกดีไหม และควรให้เท่าไหร่ถึงจะไม่เป็นการเบียดเบียนตัวเองมากไป?
เราจะคุยกับพี่อยู่เรื่องเพิ่มค่าเทอม จะเป็นการบังคับพี่ทางอ้อมไหม?
หรือเราควรจะเพิ่มให้เองโดยไม่รบกวนพี่สาวเพราะความคิดนี้มันคือความคิดของเราคนเดียว?
พวกเราไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง เพียงแต่เรามีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นๆ ก็เลยอยากจะช่วยคนในครอบครัวให้ได้มีทางทำมาหากินที่ดีขึ้นบ้าง
สรุปแล้ว เราควรจะเพิ่มเงินให้หลานคนแรกไหม และเพิ่มเท่าไหร่ดี?
ใจนึงก็ใจหายที่เงินเก็บจะลดลง แต่อีกใจก็รู้สึกไม่ดีถ้าจะทำตัวลำเอียง
ความยุติธรรมระหว่างหลานสองคน
เรามีหลานสองคนที่กำลังเรียนอยู่
คนแรก ลูกพี่ชาย กำลังเรียนแพทย์ปีที่สอง
เราไม่ได้สนิทกับหลานหรือแม้แต่กับพี่ชายของเราเองเพราะครอบครัวเราแตกไปคนละทางตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิตตอนเรายังเด็กมากๆ หากันเจออีกทีตอนยายเสียชีวิต ตอนเราอายุ 17 ปี จากนั้นก็ติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ ตามแต่โอกาส
พอพี่ชายส่งข่าวว่าหลานสอบติดแพทย์เราก็ตกลงกันกับพี่สาวว่าอยากช่วยเรื่องค่าเทอมจนกว่าเขาจะเรียนจบ
เราไม่รู้ว่าเรียนแพทย์แต่ละเทอมมีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน
ค่าเทอมอยู่ที่ 28,000 เราให้คนละ 15,000 ก็ตกสามหมื่นพอดี
หลานคนที่สองเป็นลูกของน้องชาย เรียน ม. ปลายเทอมสุดท้าย เขาบอกว่าเขาอยากเรียนสาธารณะสุข เราก็รับปากว่าจะส่งเรียนจนจบ
แต่คนนี้เราจะส่งคนเดียว และคิดว่าต้องจ่ายทุกอย่างให้ ค่าเทอม ค่าหอ ค่ากินอยู่ ฯลฯ
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินเดือนละเท่าไหร่
น้องชายคนนี้โตมาด้วยกันกับเรา เราก็จะรักและห่วงเขามากกว่าคนอื่น
เราเปรียบเสมือนแม่ของเขาก็ว่าได้ เพราะตอนแม่เสียเขาเพิ่งสามสี่ขวบ เราโตมากับยายด้วยกัน
เราอยากให้หลานทั้งสองมีความรู้ มีงานที่ดีทำ จะได้สามารถหาเลี้ยงตัวเองและเผื่อแผ่ให้พ่อแม่ได้ด้วยเมื่อจำเป็น
ทั้งสองคนเป็นเด็กเรียนดี ไม่เกเร ผลการเรียนอยู่ในระดับที่ดีถึงดีมาก
ปัญหาคือ หากเราส่งหลานคนที่สองเรียนแบบไร้ลิมิต ก็จะกลายเป็นว่าเขาจะได้เยอะกว่า แล้วหลานคนแรกจะรู้สึกยังไง?
เราควรเพิ่มเงินให้หลานคนแรกอีกดีไหม และควรให้เท่าไหร่ถึงจะไม่เป็นการเบียดเบียนตัวเองมากไป?
เราจะคุยกับพี่อยู่เรื่องเพิ่มค่าเทอม จะเป็นการบังคับพี่ทางอ้อมไหม?
หรือเราควรจะเพิ่มให้เองโดยไม่รบกวนพี่สาวเพราะความคิดนี้มันคือความคิดของเราคนเดียว?
พวกเราไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง เพียงแต่เรามีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นๆ ก็เลยอยากจะช่วยคนในครอบครัวให้ได้มีทางทำมาหากินที่ดีขึ้นบ้าง
สรุปแล้ว เราควรจะเพิ่มเงินให้หลานคนแรกไหม และเพิ่มเท่าไหร่ดี?
ใจนึงก็ใจหายที่เงินเก็บจะลดลง แต่อีกใจก็รู้สึกไม่ดีถ้าจะทำตัวลำเอียง