ผมมาเรียนที่เชียงใหม่ พ่อแม่ส่งค่ากินค่าอยู่ให้เดือนละประมาณ 20,000 บาท เพราะบ้านผมค่อนข้างมีฐานะพอสมควร แต่สองหมื่นบาทนี้รวมทั้งค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้บริหารจัดการเอาเอง
แต่มีเพื่อนหลายคนที่มีฐานะไม่พอ ต้องหาเงินเพิ่มเอง
บางคนครอบครัวก็มีฐานะเป็นลูกข้าราชการ แต่พ่อแม่มีลูกหลานคนก็เลยส่งเสียไม่ได้เต็มที่ ทำให้ต้องหาเงินค่ากินเพิ่มเอง
เพื่อนหลายคนบอกว่าค่าแรงที่เชียงใหม่ต่ำมาก ผมเคยเห็นพาร์ทไทม์ชั่วโมงละ 35 บาท แตกต่างจากในกรุงเทพที่ผมเคยทำงานช่วง ม.ปลาย จะอยู่ที่ชั่วโมงละ 50 - 65 บาท
ซึ่งชั่วโมงละ 35 บาท ถือว่าต่ำมาก
และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนบางคนทำงานได้ค่าแรงเป็นวันในร้านอาหาร แต่ได้ค่าแรงแค่วันละ 200 บาทในร้านอาหารเท่านั้น ถ้ามีลูกค้าเยอะหน่อยก็ได้วันละ 250 บาท ไม่รวมทิป นานๆทีจะได้วันละ 300 บาท
ผมเคยเห็นต่ำสุดคือวันละ 150 บาทไม่รวมทิป ซึ่งจากที่เพื่อนผมบอกมาและเห็นตามป้ายสมัครงาน ค่าแรง 150-200 บาทไม่รวมทิปพวกนี้ ต้องทำงานตั้งแต่จัดโต๊ะ ทำความสะอาด เสิร์ฟ และล้างจาน ซึ่งมันต่ำยิ่งกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีก
แต่ยังมีหลายร้านที่ให้ค่าแรงตามขั้นต่ำของกระทรวงแรงงานอย่างพวกคาเฟ่ที่เพื่อนผมไปทำก็ได้วันละ 400 บาท หรือเพื่อนบางคนมีทักษะภาษาอังกฤษ ภาษาจีนพวกนี้จะได้งานในร้านเหล้า ผับ ร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่เน้นลูกค้าต่างชาติ จะได้ค่าแรงอัพขึ้นไปอีกเป็นวันละ 500 - 600 บาท
แต่ก็มีหลายร้านเช่นกันที่ให้ค่าแรงน้อยกว่านั้น เช่น ร้านหมาล่าที่ผมเคยเห็นประกาศพาร์ทไทม์ เขาให้วันละ 200 บาทไม่รวมทิป ทำงานตั้งแต่ 18.00-23.00 น. ต้องทำทุกอย่างทั้งเสิร์ฟ เก็บร้าน ทำความสะอาด ซึ่งแทบไม่มีใครไป เพราะว่าไม่คุ้มค่าเลย
แถมเงินเดือนเริ่มต้น ป.ตรี เชียงใหม่ยังต่ำมาก ผมเคยเห็นต่ำสุดคือ 9,000 บาท เมื่อเทียบกับในกรุงเทพฯที่อย่างต่ำก็น่าจะหมื่นปลายๆ
ถึงแม้ค่าครองชีพเชียงใหม่อาจไม่สูงมาก ในเมืองเชียงใหม่ก็พอมีร้านที่ขายอาหารตามสั่งจานละ 25 - 30 บาทก็มีอยู่ แต่หลายร้านก็ขายในราคานักท่องเที่ยว
ส่วนสำหรับนักศึกษามหาลัยก็ไม่ลำบากนักเพราะ ในโรงอาหารของมหาลัยก็ราคาไม่แพงมาก แค่ค่าแรงแบบนี้ก็ถูกเกินไปในมุมมองของผม ซึ่งทุกคนสามารถเห็นต่างได้นะครับ
เพราะอะไรกันครับ ทำไมเชียงใหม่ที่เป็นเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวของไทย ถึงให้ค่าแรงต่ำจัง?
เชียงใหม่ เป็นจังหวัดใหญ่แท้ๆ แต่ทำไมค่าแรงต่ำจัง
แต่มีเพื่อนหลายคนที่มีฐานะไม่พอ ต้องหาเงินเพิ่มเอง
บางคนครอบครัวก็มีฐานะเป็นลูกข้าราชการ แต่พ่อแม่มีลูกหลานคนก็เลยส่งเสียไม่ได้เต็มที่ ทำให้ต้องหาเงินค่ากินเพิ่มเอง
เพื่อนหลายคนบอกว่าค่าแรงที่เชียงใหม่ต่ำมาก ผมเคยเห็นพาร์ทไทม์ชั่วโมงละ 35 บาท แตกต่างจากในกรุงเทพที่ผมเคยทำงานช่วง ม.ปลาย จะอยู่ที่ชั่วโมงละ 50 - 65 บาท
ซึ่งชั่วโมงละ 35 บาท ถือว่าต่ำมาก
และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนบางคนทำงานได้ค่าแรงเป็นวันในร้านอาหาร แต่ได้ค่าแรงแค่วันละ 200 บาทในร้านอาหารเท่านั้น ถ้ามีลูกค้าเยอะหน่อยก็ได้วันละ 250 บาท ไม่รวมทิป นานๆทีจะได้วันละ 300 บาท
ผมเคยเห็นต่ำสุดคือวันละ 150 บาทไม่รวมทิป ซึ่งจากที่เพื่อนผมบอกมาและเห็นตามป้ายสมัครงาน ค่าแรง 150-200 บาทไม่รวมทิปพวกนี้ ต้องทำงานตั้งแต่จัดโต๊ะ ทำความสะอาด เสิร์ฟ และล้างจาน ซึ่งมันต่ำยิ่งกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีก
แต่ยังมีหลายร้านที่ให้ค่าแรงตามขั้นต่ำของกระทรวงแรงงานอย่างพวกคาเฟ่ที่เพื่อนผมไปทำก็ได้วันละ 400 บาท หรือเพื่อนบางคนมีทักษะภาษาอังกฤษ ภาษาจีนพวกนี้จะได้งานในร้านเหล้า ผับ ร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่เน้นลูกค้าต่างชาติ จะได้ค่าแรงอัพขึ้นไปอีกเป็นวันละ 500 - 600 บาท
แต่ก็มีหลายร้านเช่นกันที่ให้ค่าแรงน้อยกว่านั้น เช่น ร้านหมาล่าที่ผมเคยเห็นประกาศพาร์ทไทม์ เขาให้วันละ 200 บาทไม่รวมทิป ทำงานตั้งแต่ 18.00-23.00 น. ต้องทำทุกอย่างทั้งเสิร์ฟ เก็บร้าน ทำความสะอาด ซึ่งแทบไม่มีใครไป เพราะว่าไม่คุ้มค่าเลย
แถมเงินเดือนเริ่มต้น ป.ตรี เชียงใหม่ยังต่ำมาก ผมเคยเห็นต่ำสุดคือ 9,000 บาท เมื่อเทียบกับในกรุงเทพฯที่อย่างต่ำก็น่าจะหมื่นปลายๆ
ถึงแม้ค่าครองชีพเชียงใหม่อาจไม่สูงมาก ในเมืองเชียงใหม่ก็พอมีร้านที่ขายอาหารตามสั่งจานละ 25 - 30 บาทก็มีอยู่ แต่หลายร้านก็ขายในราคานักท่องเที่ยว
ส่วนสำหรับนักศึกษามหาลัยก็ไม่ลำบากนักเพราะ ในโรงอาหารของมหาลัยก็ราคาไม่แพงมาก แค่ค่าแรงแบบนี้ก็ถูกเกินไปในมุมมองของผม ซึ่งทุกคนสามารถเห็นต่างได้นะครับ
เพราะอะไรกันครับ ทำไมเชียงใหม่ที่เป็นเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวของไทย ถึงให้ค่าแรงต่ำจัง?