o กระซิบสั่ง ดังแว่ว เพียงแผ่วโผย
ฟังระโหย แหบพร่า พาหวิวไหว
ลมรำเพย เลยผ่าน ม่านไม้ใบ
คล้ายเสียงไห้ หวนร่ำ พร่ำวิงวอน
o ว่าจวนเจียน จากละ ผละปลิดขั้ว
หวาดระรัว ระทม ตรมทอดถอน
ต้องร่วงหล่น บนพื้น สะอื้นอาวรณ์
แสนร้าวรอน ลาสลาย กลายธุลี
o มองใบเปรียบ เทียบเคียง เพียงชีวิต
เฝ้าพินิจ ในธรรม ตามวิถี
สรรพสิ่ง เปลี่ยนทุก วินาที
หาใดมี ยืนยง คงนิรันดร์
o จะร่ำร้อง ก้องไกล ก็ไร้ค่า
ถึงเวลา ล่วงลับ แล้วดับขันธ์
ธาตุทั้งสี่ คืน สิ้น วิญญาณพลัน
ใดใดใน โลกนั้น อนิจจัง
o พึงคำนึง ถึงครา วันลาจาก
สิ่งคงฝาก จารึก ผนึกหวัง
คือความดี ความชั่ว ยามตัวยัง
เครื่องกำบัง ภูมิอบาย คราวตายลง
o คือศีล ทาน ภาวนา สมาธิ
ตั้งสติ พระพุทธ พระธรรม อริยสงฆ์
แสงสว่าง ส่องผ่าน สู่ฌาณทรง
หนุนเสริมส่ง ดวงจิต ไม่ผิดทาง
o จารึกไว้ ในวัน อันครบรอบ
ได้คำตอบ เตือนตรอง ครองธรรมบ้าง
ลดกิเลส ตัณหา อัตตาจาง
ควรเร่งสร้าง กุศล สืบผลบุญ
02/11/67
ขอบคุณภาพจาก pinterest
ooo เสียงกระซิบจากใบไม้ใกล้ปลิดขั้ว ooo
ฟังระโหย แหบพร่า พาหวิวไหว
ลมรำเพย เลยผ่าน ม่านไม้ใบ
คล้ายเสียงไห้ หวนร่ำ พร่ำวิงวอน
o ว่าจวนเจียน จากละ ผละปลิดขั้ว
หวาดระรัว ระทม ตรมทอดถอน
ต้องร่วงหล่น บนพื้น สะอื้นอาวรณ์
แสนร้าวรอน ลาสลาย กลายธุลี
o มองใบเปรียบ เทียบเคียง เพียงชีวิต
เฝ้าพินิจ ในธรรม ตามวิถี
สรรพสิ่ง เปลี่ยนทุก วินาที
หาใดมี ยืนยง คงนิรันดร์
o จะร่ำร้อง ก้องไกล ก็ไร้ค่า
ถึงเวลา ล่วงลับ แล้วดับขันธ์
ธาตุทั้งสี่ คืน สิ้น วิญญาณพลัน
ใดใดใน โลกนั้น อนิจจัง
o พึงคำนึง ถึงครา วันลาจาก
สิ่งคงฝาก จารึก ผนึกหวัง
คือความดี ความชั่ว ยามตัวยัง
เครื่องกำบัง ภูมิอบาย คราวตายลง
o คือศีล ทาน ภาวนา สมาธิ
ตั้งสติ พระพุทธ พระธรรม อริยสงฆ์
แสงสว่าง ส่องผ่าน สู่ฌาณทรง
หนุนเสริมส่ง ดวงจิต ไม่ผิดทาง
o จารึกไว้ ในวัน อันครบรอบ
ได้คำตอบ เตือนตรอง ครองธรรมบ้าง
ลดกิเลส ตัณหา อัตตาจาง
ควรเร่งสร้าง กุศล สืบผลบุญ
02/11/67
ขอบคุณภาพจาก pinterest