ลูกรักเป็นลมชัก
ไม่ว่าใครก็มีโอกาสป่วยได้ทั้งนั้น
ดังนั้นเราจึงควร
ดูแลเอาใจใส่และให้กำลังใจกันเสมอ
เมื่อคนที่เรารักป่วยหรือมีภาวะทางสุขภาพที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
การอยู่เคียงข้างและสนับสนุนทั้งด้านอารมณ์และจิตใจมีความสำคัญอย่างยิ่ง
นอกจากนั้นควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหรือแนวทางการดูแล
ในกรณีที่เกิดอาการชัก
เพื่อให้เราสามารถรับมือได้อย่างถูกต้อง
และลดความเสี่ยงต่ออันตราย
1. ร่างกายขาดออกซิเจนทุกครั้งที่ชัก ร่างกายจะขาดออกซิเจน
ความจริง: ใช่ค่ะ การชักทำให้ร่างกายโดยเฉพาะสมองขาดออกซิเจนชั่วคราว
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ประสาทได้
หากอาการชักเกิดขึ้นบ่อยหรือเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้
ดังนั้น
อย่าลืมเติมออกซิเจนให้ลูก
2. ร่างกายเกิดการอักเสบ
ความจริง: การชักอาจทำให้เกิดการอักเสบในสมองได้
แต่ไม่ใช่ทุกครั้งไป
การเกิดการอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุของการชักและความรุนแรงของอาการ
ดังนั้น
อย่าลืมรักษาอาการอักเสบ
เช่นกินนมเปรี๊ยว
อาหารที่ต้านอนุมุลอิสระ
หรือยาเขียว
3. ร่างกายต้องการโปรตีนซ่อมแซมความเสียหาย
ความจริง: ใช่ค่ะ ร่างกายต้องการโปรตีนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
รวมถึงเซลล์ประสาทที่อาจได้รับความเสียหายจากการชัก
แต่การได้รับโปรตีนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ
จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น
ดังนั้น
อย่าลืมทานโปรตีนคุณภาพสูง
เช่นปลา
ซุปไก่สกัด
นม
การรักษาเบื้องต้นคือการทานยา
ทานอาหารสุขภาพ
ถ้ามีอาการดื้อยา
มีการแนะนำ
น้ำมันกัญชาทางการแพทย์
หรือการผ่าตัดหรือการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า
การดูแลเด็กหลังจากชัก
ปรึกษาแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดคือการพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการชัก
และรับคำแนะนำในการดูแลที่ถูกต้อง
ทานยาตามที่แพทย์สั่ง: หากแพทย์สั่งยาให้ทาน
ควรทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่:
อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น:
หากทราบว่าอะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ลูกชัก ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น
ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด:
หากลูกมีอาการผิดปกติหลังจากชัก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
ข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลหลังจาก เด็กชัก โรคลมชัก การบรรเทารักษา
ไม่ว่าใครก็มีโอกาสป่วยได้ทั้งนั้น
ดังนั้นเราจึงควร
ดูแลเอาใจใส่และให้กำลังใจกันเสมอ
เมื่อคนที่เรารักป่วยหรือมีภาวะทางสุขภาพที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
การอยู่เคียงข้างและสนับสนุนทั้งด้านอารมณ์และจิตใจมีความสำคัญอย่างยิ่ง
นอกจากนั้นควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหรือแนวทางการดูแล
ในกรณีที่เกิดอาการชัก
เพื่อให้เราสามารถรับมือได้อย่างถูกต้อง
และลดความเสี่ยงต่ออันตราย
1. ร่างกายขาดออกซิเจนทุกครั้งที่ชัก ร่างกายจะขาดออกซิเจน
ความจริง: ใช่ค่ะ การชักทำให้ร่างกายโดยเฉพาะสมองขาดออกซิเจนชั่วคราว
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ประสาทได้
หากอาการชักเกิดขึ้นบ่อยหรือเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้
ดังนั้น
อย่าลืมเติมออกซิเจนให้ลูก
2. ร่างกายเกิดการอักเสบ
ความจริง: การชักอาจทำให้เกิดการอักเสบในสมองได้
แต่ไม่ใช่ทุกครั้งไป
การเกิดการอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุของการชักและความรุนแรงของอาการ
ดังนั้น
อย่าลืมรักษาอาการอักเสบ
เช่นกินนมเปรี๊ยว
อาหารที่ต้านอนุมุลอิสระ
หรือยาเขียว
3. ร่างกายต้องการโปรตีนซ่อมแซมความเสียหาย
ความจริง: ใช่ค่ะ ร่างกายต้องการโปรตีนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
รวมถึงเซลล์ประสาทที่อาจได้รับความเสียหายจากการชัก
แต่การได้รับโปรตีนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ
จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น
ดังนั้น
อย่าลืมทานโปรตีนคุณภาพสูง
เช่นปลา
ซุปไก่สกัด
นม
การรักษาเบื้องต้นคือการทานยา
ทานอาหารสุขภาพ
ถ้ามีอาการดื้อยา
มีการแนะนำ
น้ำมันกัญชาทางการแพทย์
หรือการผ่าตัดหรือการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า
การดูแลเด็กหลังจากชัก
ปรึกษาแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดคือการพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการชัก
และรับคำแนะนำในการดูแลที่ถูกต้อง
ทานยาตามที่แพทย์สั่ง: หากแพทย์สั่งยาให้ทาน
ควรทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่:
อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น:
หากทราบว่าอะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ลูกชัก ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น
ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด:
หากลูกมีอาการผิดปกติหลังจากชัก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที