การหย่าร้าง สมัยนี้เป็นเรื่องปกติจริงๆหรอคะ

เราเห็นคนรอบข้าง ( ทั้งสนิท และไม่สนิท )
รวมทั้งที่เห็นดาราด้วย


แต่งงาน มีลูกแล้ว หย่าร้างกันเยอะมาก ( 100 คู่ เห็นหย่าแล้ว 20 คู่ )

ผญ ก็กล้าที่จะหย่า ไม่กังวลว่าอายุมากแล้ว จะหาแฟนใหม่ไม่ได้

เป็นเพราะอะไรหรอคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ในเมื่อไม่รักแล้วก็แยกย้าย มันก็เป็นเรื่องปกติ

ผญ ก็กล้าที่จะหย่า ไม่กังวลว่าอายุมากแล้ว จะหาแฟนใหม่ไม่ได้
>> เพราะเค้าหาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ได้คิดว่าจะหาแฟนใหม่ แต่คิดว่าทำไมต้องทน? ในเมื่อมีทางอื่นที่ดีกว่า
>> คนที่ต้องทนอยู่คือคนที่ไปไหนไม่รอดนะ
ความคิดเห็นที่ 15
1. สมัยนี้การหย่าร้างไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่แบบสมัยก่อนแล้ว สมัยก่อนไม่กล้าหย่าเพราะกลัวเป็นขี้ปากคนอื่น แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้จะแคร์ขี้ปากคนอื่นทำไม
ขนาดเจ้าตัวยังไม่เดือดร้อนกับการหย่า ก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมาคิดแทนเดือดร้อนแทนทำไม

2. ผู้หญิงส่วนหนึ่งที่หย่า มั่นใจว่าตัวเองมีดีพอที่จะหาแฟนใหม่ได้ ข้อนี้คนที่ไม่เคยมีแฟนหรือไม่เคยมีคนมาจีบอาจจะไม่เข้าใจความมั่นใจในตัวเองแบบนี้
แต่คนที่มั่นใจในตัวเองเค้าจะมองว่าการทนอยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่มีความสุข เป็นการปิดโอกาสที่จะได้คบกับคนใหม่ๆ ซึ่งอาจจะดีกว่าคนเก่าก็ได้

3. ผู้หญิงอีกบางส่วนอาจจะไม่ได้แคร์ว่าตัวเองจะหาใหม่ไม่ได้ เพราะค้นพบสัจธรรมแล้วว่า ถ้าต้องทนทุกข์กับคู่ชีวิตที่ไม่ดี สู้อยู่ตัวคนเดียวดีกว่า
ดังนั้นจึงตัดสินใจหย่าได้ไม่ยาก ส่วนจะหาแฟนใหม่ได้หรือไม่ได้นั้นค่อยปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตไป

4. สังคมสมัยนี้ก็เปิดกว้างขึ้น สมัยก่อนคนเป็นแม่ม่ายแทบจะหมดหวังในการหาคู่ครอง
แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช่แล้ว ถ้าคุณยังมีเสน่ห์อยู่ ผู้ชายบางคนก็ไม่ได้สนใจว่าคุณจะเคยแต่งงานมาแล้ว
สิ่งที่ผู้หญิงควรทำคือทำตัวเองให้มีเสน่ห์ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของความสวย ความฉลาด นิสัยใจคอ ความสามารถในการหาเงิน หรืออะไรก็แล้วแต่
ถ้าคุณไม่มีเสน่ห์ในตัวเองเลย ต่อให้ไม่เคยแต่งงานมาก่อน ก็อาจจะแพ้คนเคยแต่งงานมาได้

5. เรื่องของความรักเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่าเหตุผล จะมีซักกี่คนที่รักโดยใช้เหตุผล
ส่วนมากก็เป็นไปตามอารมณ์เท่านั้น จึงมีคู่ครองที่เรามองว่าไม่เหมาะสมคบกันให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
เพราะเค้าใช้ความรู้สึกในการเลือกคู่ไง นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องทำตัวเองให้มีเสน่ห์
เพราะเวลาเราชอบใครซักคน เราก็แทบจะมองข้ามข้อเสียของคนๆ นั้นไปเลยโดยเฉพาะในช่วงที่กำลังหลง

6. การหย่าร้างควรเป็นเรื่องปกติ สังคมไม่ควรกดดันให้คนที่แต่งงานแล้วต้องทนอยู่ด้วยกันทั้งๆที่ไม่ได้รักกันแล้ว
การที่สังคมมองว่าการหย่าร้างเป็นเรื่องไม่ปกติ ทำให้คนไม่กล้าหย่ากันทั้งๆที่ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว
บางคู่ต้องทนอยู่ทั้งๆที่มีการทำร้ายร่างกายและจิตใจด้วยซ้ำ
ความคิดเห็นที่ 1
เพราะผู้สิงสมัยนี้กล้าที่จะรักษาศักดิ์ศรีรักตัวเองและกล้าที่จะสู้กับเสียงรอบข้างมั้ยคะ สมัยก่อนอาจจะกลัวสังคมเม้ามอย เราขอยกตัวอย่างยายเราละกัน ทุกวันนี้สอนเรามีแต่ว่า ต้องผัวเดียวเมียเดียว แต่งงานแล้วถ้าหย่า ก็เหมือนผู้หญิงมีแผลเป็น ไม่บริสุทแล้ว มีลูกแล้วลูกละ ถ้าบอกหาผัวใหม่นี่ ขึ้นเลยนะ5555 ไม่ได้ต้องอะไรหนักเบาเอาสู้ อย่าหลายลูกหลายเมียหลายผัว ได้แต่งมาแล้วผัวเราเมียเรา เลือกมาเอง ,แต่พอมาแม่เราพ่อเรางี้ mindset คนละแนวเลย ถ้าเขาดีไม่มีใครอยากเลิกหรอก แต่ถ้าหาก คุณต้องทนอยู่กับผู้ชายหรือผู้หญิง ที่ไม่เอาไหน ไม่คิดถึงครอบครัว ทำร้านร่างกายจิตใจคุณ หรืออาจจะเคสแบบ ติดการพนัน เล่นยา ติดเหล้างี้ ลำยองสไตล์งี้ คุณก็คงทนไม่ได้แหละที่จะอยุ่กับเขาตลอดชีวิต จนกว่าจะตุยย วันนึงเป็นแม่คนพ่อคนยิ่งรักลูก อยากพาแต่ลูกไปเจออะไรดีๆ , พวกดารา หรือ บุกคนอื่นๆรอบตัวคุณ ไม่ใช่เขาไม่สู้นะ คนเราถ้าแต่งงานแล้ว ไม่มีใครอยากหย่าหรอก แต่เหตุผล ในครอบครัวเขาที่เขาเคยพยายามปรับกันแล้ว มันไม่สามารถปรับได้ไง เราคนนอกเรามองแค่เห็นภาพเขาแต่งกับหย่ากันเท่านั้นแหละค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่