ลองเขียนเรื่องสั้น
.
ผมเคยเขียนและเคยชอบเขียนเรื่องสั้นนะ? เดี๋ยวจะลองเขียนให้คุณอ่าน แต่เอนึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนอย่างไร ผมจบได้ไหม? เพราะหากว่าผมจะเขียนต่อไปมันอาจจะยาวก็ได้ และนานมาแล้วที่ผมเขียนเรื่องสั้นแต่เอาลงในกระทู้เรื่องสั้นไม่ได้ เลยไม่ได้เขียนต่อมา แต่ตอนนี้ลองเอาลงดีกว่าเผื่อจะลงได้ ว้า ผมนี่แย่จริงๆ ว่าจะเขียนเรื่องสั้นกลับกลายเป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ จะต้องไม่มีคนอ่านอย่างแน่เลย ผมสัญญาว่า หากมันลงในเรื่องสั้นได้ ผมจะเขียนบ่อยๆ ครับ ผมมาเขียนเพิ่มเติมเอาดีกว่า เผื่อมีใครสนใจจะอ่านเรื่องที่ผมเขียนมั่ง? นี่เป็นเรื่องสั้นแนวบ่นและน่าเบื่ออย่างแน่นอน หากว่าคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ความยาวหกร้อยสิบเก้า จากความยาวที่ผมสามารถเขียนได้หนึ่งหมื่น เรื่องสั้น ผมพยายามนึกอย่างตั้งนาน มันก็ไม่ได้มาในเวลาที่ผมต้องการจะเขียนสักที หากว่าเรื่องสั้นจะมา มันจะเกิดในตอนไหนก็ได้ ผมไม่สามารถจะบังคับหรือเขียนมันขึ้นมาได้เลย การก่อตัวของเรื่องสั้นสักเรื่องเป็นอาหารจานโปรดสำหรับนักเขียนเรื่องสั้นที่จะแกะรอยเรื่องราวสำหรับการเกิดของมัน เรื่องสั้นที่สำเร็จเป็นเรื่องสั้นอย่างดี ล้วนแต่มีการผุดขึ้นมาและดำเนินไปตามการเกิดของมัน ผมไม่มีสูตรในการเขียนเรื่องสั้นอย่างที่ตำราได้กำหนดเอาไว้เลย ผมเพียงแต่รอการมาของมัน ผมเพียรคิดใฝ่หามันตลอดเวลา หากว่าเจอ ผมก็จะเจอมัน เห็นหน้าตาของมันกำลังจะโผล่ขึ้นมา(ความคิดเรื่องสั้นที่กำลังก่อตัว) ผมชอบเสมอในการคิดเขียนเรื่องสั้นที่ความยาวแตกต่างกันออกไป เรื่องสั้นขนาดสั้นแบบมุขตลก เรื่องสั้นขนาดสั้นแบบย่อหน้าเดียว(ความยาวสามร้อยคำถึงห้าร้อยคำและไม่เกินห้าร้อยคำ) เรื่องสั้นขนาดปรกติแบบนักเลงเรื่องสั้นเขียนกันบนความยาวสองพันห้าร้อยคำ และเรื่องสั้นสำหรับทำหนังสืออีบุ๊คส์สักเรื่อง บนความยาวสามพันกว่าคำ และเรื่องสั้นที่ยาวเป็นตอนๆ "ท่าทางจะเบื่อที่จะอ่านเรื่องที่ผมเขียนแล้วกระมัง?" ผมยังมีเวลาอีกสักหน่อยที่จะเขียนเรื่องสั้นชนิดบ่นให้คุณได้อ่าน หากว่าคุณทนจะอ่านเรื่องที่ผมเขียนและผมจะเขียนต่อไป เท่าที่คุณสามารถอ่านตามที่ผมเขียนได้ แน่นอนว่า นักเขียนที่เขียนหนังสือมีบางครั้งมีความจำเป็นอย่างจะต้องฝืนในการเขียนมันออกไป ทั้งที่ไม่มีผลอะไรเอาเสียเลยกับการปล่อยงาน เพียงแต่ว่าคือหน้าที่ในการจะต้องกระทำการเขียนออกไปด้วยการฝืนเขียน สิ่งนี้เหมือนกับการทำงานในทุกสาขาอาชีพนั่นแหละ ที่จำเป็นจะต้องฝืนขับไล่ข้ออ้างต่างๆ นานา ในการไม่กระทำ เพราะการอ้างข้ออ้างไม่กระทำนั้นเป็นอุปสรรคต่อการหมั่นเพียรในหน้าที่ของตัวเองนั่นและ เมื่อการมีข้ออ้างบ่อยๆ มากขึ้น แน่นอนว่า การเขียนจะเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ เพราะข้ออ้างสำหรับการจะรอแต่เรื่องสั้นดีๆ ให้เกิดขึ้นอย่างไม่ยอมจะเขียนเรื่องสั้นแย่ๆ เอาเสียเลย นานไปจึงกลายเป็นการไม่เขียน และเลิกลาในการเขียนอย่างที่สุด ข้อแรกสำหรับผมในการเขียนเรื่องสั้นก็คือ ฝืนเขียนในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากจะเขียน(ตอนนี้ผมเขียนแก้ไขให้ได้สองพันสี่ร้อยเก้าสิบเก้าเอาไว้ก่อนครับ บางที ผมอาจจะได้เรื่องสั้นที่เป็นเรื่องสั้นน้ำดีตามหลักแห่งการประพันธ์สักเรื่องก็ได้ หากว่าคุณทนอ่านเรื่องที่ผมเขียน)
เขียนเรื่องสั้น
.
ผมเคยเขียนและเคยชอบเขียนเรื่องสั้นนะ? เดี๋ยวจะลองเขียนให้คุณอ่าน แต่เอนึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนอย่างไร ผมจบได้ไหม? เพราะหากว่าผมจะเขียนต่อไปมันอาจจะยาวก็ได้ และนานมาแล้วที่ผมเขียนเรื่องสั้นแต่เอาลงในกระทู้เรื่องสั้นไม่ได้ เลยไม่ได้เขียนต่อมา แต่ตอนนี้ลองเอาลงดีกว่าเผื่อจะลงได้ ว้า ผมนี่แย่จริงๆ ว่าจะเขียนเรื่องสั้นกลับกลายเป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ จะต้องไม่มีคนอ่านอย่างแน่เลย ผมสัญญาว่า หากมันลงในเรื่องสั้นได้ ผมจะเขียนบ่อยๆ ครับ ผมมาเขียนเพิ่มเติมเอาดีกว่า เผื่อมีใครสนใจจะอ่านเรื่องที่ผมเขียนมั่ง? นี่เป็นเรื่องสั้นแนวบ่นและน่าเบื่ออย่างแน่นอน หากว่าคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ความยาวหกร้อยสิบเก้า จากความยาวที่ผมสามารถเขียนได้หนึ่งหมื่น เรื่องสั้น ผมพยายามนึกอย่างตั้งนาน มันก็ไม่ได้มาในเวลาที่ผมต้องการจะเขียนสักที หากว่าเรื่องสั้นจะมา มันจะเกิดในตอนไหนก็ได้ ผมไม่สามารถจะบังคับหรือเขียนมันขึ้นมาได้เลย การก่อตัวของเรื่องสั้นสักเรื่องเป็นอาหารจานโปรดสำหรับนักเขียนเรื่องสั้นที่จะแกะรอยเรื่องราวสำหรับการเกิดของมัน เรื่องสั้นที่สำเร็จเป็นเรื่องสั้นอย่างดี ล้วนแต่มีการผุดขึ้นมาและดำเนินไปตามการเกิดของมัน ผมไม่มีสูตรในการเขียนเรื่องสั้นอย่างที่ตำราได้กำหนดเอาไว้เลย ผมเพียงแต่รอการมาของมัน ผมเพียรคิดใฝ่หามันตลอดเวลา หากว่าเจอ ผมก็จะเจอมัน เห็นหน้าตาของมันกำลังจะโผล่ขึ้นมา(ความคิดเรื่องสั้นที่กำลังก่อตัว) ผมชอบเสมอในการคิดเขียนเรื่องสั้นที่ความยาวแตกต่างกันออกไป เรื่องสั้นขนาดสั้นแบบมุขตลก เรื่องสั้นขนาดสั้นแบบย่อหน้าเดียว(ความยาวสามร้อยคำถึงห้าร้อยคำและไม่เกินห้าร้อยคำ) เรื่องสั้นขนาดปรกติแบบนักเลงเรื่องสั้นเขียนกันบนความยาวสองพันห้าร้อยคำ และเรื่องสั้นสำหรับทำหนังสืออีบุ๊คส์สักเรื่อง บนความยาวสามพันกว่าคำ และเรื่องสั้นที่ยาวเป็นตอนๆ "ท่าทางจะเบื่อที่จะอ่านเรื่องที่ผมเขียนแล้วกระมัง?" ผมยังมีเวลาอีกสักหน่อยที่จะเขียนเรื่องสั้นชนิดบ่นให้คุณได้อ่าน หากว่าคุณทนจะอ่านเรื่องที่ผมเขียนและผมจะเขียนต่อไป เท่าที่คุณสามารถอ่านตามที่ผมเขียนได้ แน่นอนว่า นักเขียนที่เขียนหนังสือมีบางครั้งมีความจำเป็นอย่างจะต้องฝืนในการเขียนมันออกไป ทั้งที่ไม่มีผลอะไรเอาเสียเลยกับการปล่อยงาน เพียงแต่ว่าคือหน้าที่ในการจะต้องกระทำการเขียนออกไปด้วยการฝืนเขียน สิ่งนี้เหมือนกับการทำงานในทุกสาขาอาชีพนั่นแหละ ที่จำเป็นจะต้องฝืนขับไล่ข้ออ้างต่างๆ นานา ในการไม่กระทำ เพราะการอ้างข้ออ้างไม่กระทำนั้นเป็นอุปสรรคต่อการหมั่นเพียรในหน้าที่ของตัวเองนั่นและ เมื่อการมีข้ออ้างบ่อยๆ มากขึ้น แน่นอนว่า การเขียนจะเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ เพราะข้ออ้างสำหรับการจะรอแต่เรื่องสั้นดีๆ ให้เกิดขึ้นอย่างไม่ยอมจะเขียนเรื่องสั้นแย่ๆ เอาเสียเลย นานไปจึงกลายเป็นการไม่เขียน และเลิกลาในการเขียนอย่างที่สุด ข้อแรกสำหรับผมในการเขียนเรื่องสั้นก็คือ ฝืนเขียนในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากจะเขียน(ตอนนี้ผมเขียนแก้ไขให้ได้สองพันสี่ร้อยเก้าสิบเก้าเอาไว้ก่อนครับ บางที ผมอาจจะได้เรื่องสั้นที่เป็นเรื่องสั้นน้ำดีตามหลักแห่งการประพันธ์สักเรื่องก็ได้ หากว่าคุณทนอ่านเรื่องที่ผมเขียน)